“มูลนิธิครูแดง” ร่วม อบจ.อบรมเด็ก-เยาวชนป้องกันการถูกละเมิด

เชียงราย - มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา “ครูแดง” ร่วม อบจ.เชียงราย จัดโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิเด็ก-หญิง และต่อต้านการค้ามนุษย์

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (4 ส.ค.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา ได้จัดโครงการฝึกอบรมอาสาสมัครเฝ้าระวังการละเมิดสิทธิเด็ก-หญิง และต่อต้านการค้ามนุษย์ ณ หอประชุมศูนย์ส่งเสริมสุขภาพและการเรียนรู้ อบจ.เชียงราย โดยมีเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย และอุดมศึกษาระดับ ปวช.ในพื้นที่ อ.เมือง เข้าร่วมการฝึกอบรมตามโครงการจำนวนประมาณ 200 คน

นายปริยะ รองนายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ พร้อมกับกล่าวว่าปัญหาการล่วงละเมิดสิทธิเด็กโดยเฉพาะเด็กหญิงรวมทั้งการค้ามนุษย์และการละเมิดทางเพศเป็นปัญหาสำคัญของสังคมไทยในปัจจุบัน เพราะสภาพสังคมเราเปลี่ยนแปลงไปมากมีการพัฒนาทางด้านวัตถุสูงโดยเฉพาะด้านการสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ ดังนั้นการมีอาสาสมัครในกลุ่มเด็กและเยาวชนดังกล่าวจึงเป็นเรื่องที่ดีมาก และผู้เข้าร่วมอบรมซึ่งเป็นลูกหลานจะได้เรียนรู้กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยเรียนรู้ตั้งแต่ภาพรวมของโลก เช่น ประเทศซูดาน เกาหลีเหนือ ฯลฯ ไม่อนุญาตให้ผู้หญิงใส่กางเกงออกนอกบ้าน จากนั้นก็โฟกัสมายังประเทศไทย และ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นเมืองชายแดนและมีปัญหาเรื่องเด็ก สตรีและเยาวชนที่มาจากต่างประเทศ การเฝ้าระวังในหมู่เด็กและเยาวชนด้วยกันเองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว

ด้าน นายสุพจน์ หลี่จา เลขาธิการมูลนิธิฯ และสมาชิกสภา อบจ.เชียงราย กล่าวว่าสภาพสังคมในปัจจุบันพบว่าเด็ก สตรีและเยาวชนเข้าถึงสื่อสารต่างๆ ที่มีลักษณะล่อลวงให้เกิดการล่วงละเมิดได้ง่ายขึ้น แต่ที่ผ่านมาเราไม่ค่อยให้ความรู้ความเข้าใจกับเหยื่อเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนและจริงจังมากนัก ทำให้เหยื่อคือผู้ที่ถูกละเมิดและเสี่ยงต่อการถูกละเมิดบริโภคสิ่งล่อลวงเหล่านี้ไปเรื่อยๆ และด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิยังน้อยทำให้กลายเป็นเหยื่อของปัญหาในที่สุด ดังนั้นในการฝึกอบรมครั้งนี้มีวิทยากรผู้มีความรู้ความสามารถไปให้ความรู้กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นอาสาสมัคร เพื่อฝึกฝนกลุ่มอาสาสมัครก่อนโดยให้เข้าใจในสภาพปัญหาปัจจุบัน การรู้จักเรียนรู้การบริโภคสื่อ การหลีกเลี่ย การปฏิเสธจากปัญหา ฯลฯ

นายสุพจน์กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นแล้วจะมีการจัดทำเป็นเครือข่ายในหมู่อาสาสมัครทั้งหมดเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกันเพื่อสร้างความเข้มแข็งระหว่างกัน มีการเรียนรู้ว่าเมื่อพบเจอปัญหากับเพื่อนฝูง สังคมหรือแม้แต่ตัวเองแล้วจะติดต่อประสานองค์กรใด เพื่อให้การช่วยเหลือ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเยาวชนอาสาสมัครเหล่านี้จะนำองค์ความรู้ที่ได้ไปขยายในหมู่เพื่อนฝูงตามสถานศึกษาต่างๆ และครอบครัวตัวเองเพื่อให้คนในสังคมมีความเข้มแข็งสามารถรับกับปัญหาสังคม และทำให้ปัญหาการละเมิดสิทธิเด็ก-หญิง และการค้ามนุษย์ ได้ในที่สุด