ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ปัญหาการทวงดินแดนไทยเขาพระวิหาร ยังเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการทวงถามจากรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดินไทย ได้เคลื่อนไหวร่วมทวงคืนเขาพระวิหารที่ จ.ศรีสะเกษ โดยมีนายวีระ สมความคิด นำทัพพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากทั่วประเทศ ประกอบพิธีบวงสรวงสรรเสริญพระศิวะ ปัดเป่าภัยร้ายให้พ้นจากประเทศ และเดินทางมอบสิ่งของให้กับทหารตำรวจที่ต้องปฏิบัติหน้าที่รักษาดินแดนปกป้องอธิปไตยของชาติ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ทหารไทยที่ต้องตรึงกำลังเสี่ยงภัยอยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา
วันที่ 1 สิงหาคม 2552 นายวีระ สมความคิด พร้อมด้วย อ.เทพมนตรี ลิมปพะยอม ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ นำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เดินทางมาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ ร่วมพิธีบวงสรวงสรรเสริญพระศิวะ ที่บริเวณศาลหลักเมือง จ.ศรีสะเกษ
อ.เทพมนตรี กล่าวว่ารัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ทวงคืนดินแดนไทยเขาพระวิหารกลับคืนมาแต่ยังนิ่งเฉย อีกทั้งทางกัมพูชายังคงทำพิธีไสยศาสตร์บนเขาพระวิหารทุกปี ดังนั้นคนไทยจำนวนมากที่รักหวงแหนแผ่นดิน จึงต้องออกมาร่วมกันทำพิธีนี้ เพื่อปัดเป่ามนต์ดำให้พ้นจากประเทศ
จากนั้นกองทัพประชาชนผู้รักชาติจากทั่วสารทิศ จึงเคลื่อนขบวนไปร่วมฟังการเสวนา เรื่อง “ประสาทพระวิหารในรัฐบาลประชาธิปัตย์” ที่โรงแรมเกษศิริ โดยมี อ.เทพมนตรี ลิมปพยอม . อ.มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ นายวีระ สมความคิด เป็นวิทยากร และนายสุชาติ ชวางกูร ดำเนินการเสวนา
หลังจากเสวนา นายวีระ กล่าวว่าประเทศไทยต้องเสียตัวปราสาทพระวิหารให้กัมพูชา ตามคำพิพากษาของศาลโลก เมื่อปี 2505 และ ขณะนี้ฝ่ายกัมพูชากำลังยึดพื้นที่โดยรอบปราสาท 4.6 ตารางกิโลเมตรของไทยไป จากการกระทำโดยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช เพื่อแลกกับการแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มนักการเมือง ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ หากยังไม่เด็ดขาดในการทวงคืนดินแดนไทยกลับมา ประชาชนคงยอมไม่ได้
“ต้องถามรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ครับ ว่าท่านจะทวงคืนเขาพระวิหารกลับมาหรือยัง หากรัฐบาลยังเฉย ไม่ทำอะไร คนไทยยอมไม่ได้หรอกครับ” นายวีระกล่าว จากนั้นได้นำขบวนพันธมิตรกว่าพันคนที่เดินทางมาทั้งโดยรถทัวร์ รถตู้ รถกระบะ และรถยนต์ส่วนตัว ได้เคลื่อนต่อไปยังกรมทหารพรานที่ 23 อ.กันทรลักษณ์
เพื่อมอบสิ่งของข้าวสาร อาหารแห้ง ยารักษาโรค และของใช้จำเป็นจำนวนมาก ให้กับเหล่าทหาร โดยมี พ.อ.กฤตัชญ์ สรวมศิริ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กล่าวขอบคุณในน้ำใจของชาวพันธมิตรฯ ผู้รักชาติ ที่มีต่อทหาร ซึ่งสิ่งของที่ได้รับทั้งหมด จะนำส่งต่อยังหน่วยแนวหน้าโดยเร็วที่สุด
นายชัยวัฒน์ ฟังธรรมมงคล พันธมิตรฯ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น บอกว่า สำหรับประชาชนในฐานะแนวหลัง ต่างต้องการให้ผู้ที่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อรักษาดินแดนไทยอยู่ชายแดน ได้รู้ว่ามีคนไทยผู้รักชาติเป็นกำลังใจอยู่ข้างหลังและพร้อมออกมาสนับสนุนในทุกด้านเสมอ
ส่วนยายบุญ แซ่เต็ง อายุ 78 ปี เดินทางมาจาก จ.สุรินทร์ พร้อมลูกหลาน ยายบุญบอกกับ “ASTV ผู้จัดการ” ว่าความขัดแย้งเรื่องเขาพระวิหารนั้น ตนเชื่อว่าคนธรรมดาๆ คงพูดไม่ได้เต็มปากว่าเขาพระวิหารเป็นของใคร ต้องให้ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ผู้นำรัฐบาลที่จะตอบประชาชนให้ได้ ว่าเขาพระวิหารเป็นของใคร
สำหรับตนเป็นชาว อ.กันทรลักษณ์ แต่ไปแต่งงานอยู่กินกับสามีชาวจังหวัดสุรินทร์หลายสิบปีจนลูกหลานโตหมดแล้ว ไม่มีโอกาสกลับมาที่นี่ อีกทั้งอายุก็มากแล้วจึงเดินไม่ค่อยไหว ทั้งนี้เมื่อพันธมิตรฯ เป็นตัวแทนคนไทยทั้งชาติ ออกมาทวงคืนเขาพระวิหาร และยังนัดหมายมามอบสิ่งของให้ทหาร ตนและลูกหลานก็ไม่ลังเลที่จะนำข้าวสาร อาหารแห้ง มามอบให้ทหารหาญด้วย
ซึ่งเมื่อได้มาเห็นขบวนธารน้ำใจของพันธมิตรจากจังหวัดต่างๆ ที่หลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ก็รู้สึกตื้นตันจนน้ำตาคลอ เมื่อถามว่าอยากบอกอะไรกับบรรดารั้วของชาติ ยายบุญได้แต่ยิ้มและพูดสั้นๆ ว่า
“ยายพูดไม่ออกหรอก แค่ได้มาถึงที่นี่ ได้มาเห็นภาพแบบนี้ ก็ดีใจแล้ว น้ำตาจะไหลแล้ว พูดไม่ออก ได้มานี่ก็บุญแล้ว”
ไม่เพียงคุณยายวัย 78 ปี จากจ.สุรินทร์ คนนี้เท่านั้นที่รู้สึกตื้นตันใจจนพูดไม่ออก พันธมิตรฯ จากทั่วประเทศที่ได้มาร่วมกิจกรรมเป็นส่วนหนึ่งของผู้รักชาติร่วมทวงเขาพระวิหารคืนในครั้งนี้ ต่างรู้สึกอิ่มบุญกันถ้วนหน้า และได้ร่วมกันบันทึกภาพความทรงจำที่ได้เห็นพี่น้องพันธมิตร ที่ไม่ว่าจะมาจากภูมิภาคใด แต่หัวใจของทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกัน คือความมุ่งมั่นที่จะเดินทางมาที่นี่ เพื่อมอบธารน้ำใจเหล่านี้ให้ถึงมือนักรบผู้ปกป้องอธิปไตย และขอเป็นกำลังใจให้ผู้รักษาดินแดน ได้ทำหน้าที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้ว อย่างเข้มแข็งและดีที่สุด