พิษณุโลก - ฝ่ายค้านฉะ “นายก อบจ.สองแคว” หากินกับไข้หวัด 2009 งุบงิบงบ 6.8 ล้านบาท รีบส่งให้ สตง.ตรวจนับ แฉหนังสือรู้เท่าทันหวัดสายพันธุ์ใหม่บางเฉียบซื้อมาเล่มละ 50 บาท “แมซ” ป้องหวัด 2009 แผ่นละ 19 บาท แต่ยังไม่มีของ สจ.ฝ่ายค้าน ข้องใจแพงเกินเหตุ ลุยไปถามผู้ว่าฯ พิษณุโลกต่อ
นายเสกสันต์ วัฒนกสิวิชช์ สจ.เขตเมืองพิษณุโลก และนายจำนงค์ จันทรา สจ.เขตนครไทย ได้เดินทางมาตรวจสอบ หนังสือคู่มือป้องกันหวัด 2009 ที่กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต อบจ.พิษณุโลก สถานที่จัดเก็บหนังสือคู่มือดังกล่าวที่เตรียมแจกจ่ายให้ประชาชน เมื่อวันที่ 27 ก.ค.52 ซึ่งสร้างความตกใจแก่เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินภูมิภาคที่ 10 พิษณุโลกที่กำลังตรวจนับคู่มือเล่มบางเฉียบไม่เกิน 30 หน้า จนไม่ยอมบอกชื่อของตนเองกับผู้สื่อข่าว
นายเสกสันต์เผยต่อว่า ตนในฐานะฝ่ายค้าน อบจ.พิษณุโลก ข้องใจในการจัดซื้อหน้ากากอนามัยและหนังสือคู่มือที่ส่อไปทางทุจริต หน้ากากอนามัยที่ อบจ.พิษณุโลก จัดซื้อราคาชิ้นละ 19 บาทจำนวน 200,000 ชิ้น ทั้งหมดงบ 3,800,000 บาท ซึ่งขณะนี้แม้ว่ายังไม่มีการส่งมอบ แต่ดูเหมือนจะมีราคาสูงเกินจริง เนื่องจากเทศบาลฯ จัดซื้อจากชุมชนผลิตลักษณะเดียวกันราคาชิ้นละ 7-10 บาทเท่านั้น ยืนยันว่าหน้ากากผ้าที่ อบจ.จัดซื้อนี้แพงเกินจริงแน่
ส่วนหนังสือคู่มือป้องกัน “รู้เท่าทันมหันตภัย ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” อบจ.พิษณุโลกก็จัดซื้อจัดจ้างกรณีพิเศษจำนวน 60,000 เล่ม เพิ่งจัดส่งมาที่กองส่งเสริมคุณภาพชีวิต อบจ.พิษณุโลก และ สตง.พิษณุโลกกำลังตรวจนับ แต่เมื่อไปถามเจ้าหน้าที่ สตง.ก็บอกเพียงว่ามาตรวจนับว่าครบตามจำนวนหรือไม่เท่านั้น ส่วนราคาแพงเกินหรือไม่นั้น ต้องขอไปดูรายละเอียดภายหลังว่า มีอะไรผิดปกติหรือไม่
นายเสกสันต์บอกว่า หนังสือเล่มละ 50 บาท งบประมาณ 3,000,0000 ล้านบาทไปจ้างพิมพ์ที่โรงพิมพ์ที่กรุงเทพฯ ทั้งๆที่จังหวัดพิษณุโลกก็มีโรงพิมพ์จำนวนมาก หนังสือสี่สีจำนวน 30 หน้า หากพิมพ์พิษณุโลกก็ไม่ถึง 50 บาทแน่นอน ข้องใจว่า ทำไมไปสั่งของแพงถึงเล่มละ 50 บาท
แหล่งข่าวจากโรงพิมพ์ในท้องถิ่นต่างฟันธง หนังสือหนา 30 หน้า พิมพ์สี่สี ควรมีราคาแค่ 10 กว่าบาทต่อเล่มเท่านั้น แต่ที่ต้องไปพิมพ์กรุงเทพฯ น่าจะเป็นเพราะกลัวข่าวรั่ว เนื่องจากกลุ่มผู้สื่อข่าวท้องถิ่นมีโรงพิมพ์เป็นของตัวเองหลายแห่ง กลัวสื่อตีข่าวโจมตี จำเป็นต้องเลี่ยงไปขอบิลกรุงเทพฯแทน
นายเสกสันต์กล่าวทิ้งท้ายว่า หนังสือคู่มือป้องกันหวัดสายพันธุ์ใหม่ จำนวน 60,000 เล่ม ที่เพิ่งมาและรีบตรวจนับ หน้ากากอนามัยยังไม่มา กลิ่นไม่ดี ดังนั้นเขาจะต้องเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เพราะหลังมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ฝ่ายบริหาร อบจ.พิษณุโลก จัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์หลายรายการด้วยวิธีพิเศษ รีบแจกให้สถานศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยจัดซื้อตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2552 และในวันที่ 13 กรกฎาคม 2552 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกได้เรียกประชุมครูทั้งจังหวัด มีการการแจกน้ำยาฆ่าเชื้อแก่สถานศึกษาหลายรายการ ทั้งแกลลอนและแบบสเปรย์ โดยให้รองนายก (จิรัฐ) ไปสาธิตและโชว์การฉีดยาฆ่าเชื้อที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง
ขณะที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.กลาง) มีมติให้ใบเหลืองแก่ นายสุรินทร์ ฐิติปุญญา นายก อบจ.พิษณุโลก ล่าสุดศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีคำสั่งรับคำร้อง ผลให้ นายก อบจ.พิษณุโลก ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที (17 กรกฎาคม 2552) แต่ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 จะรับเรื่อง นายสุรินทร์ ฐิติปุญญา สั่งปลดนายนพพล เหลืองทองนารา รองนายก อบจ.คนที่ 1 ออกจากตำแหน่ง พร้อมแต่งตั้งนายทรงธรรม ฐิติปุญญา ลูกชายในสายเลือด( ผู้บริหารโชว์รูมโตโยต้า สาขาพิษณุโลก) นั่งตำแหน่ง รองนายก อบจ.พิษณุโลก แทน