ศูนย์ข่าวศรีราชา- โรงพยาบาลทหารเรือ ให้ความรู้บุคลากรสายแพทย์กว่า 2,000 คน สู้ไม่หวัดมรณะ 2009 ศัตรูไร้ตัวตน
วันนี้ (21 ก.ค.) พลเรือตรี เผดิมพงศ์ รุมาคม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ประธานในพิธีเปิดการอบรม แพทย์ พยาบาล ข้าราชการ ลูกจ้าง สายการแพทย์ของโรงพยาบาล กว่า 2,000 คน ในหัวข้อ “รู้เท่าทัน ป้องกันหวัดใหญ่ ใส่ใจสังคม”
โดยมี นาวาเอก สุรพล ชัชวาลวานิช รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ นาวาเอก บรรเจิด วิภาตะวิทย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุน นาวาเอก วิทยา พรกิจประสาน รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ให้การต้อนรับ พร้อมเชิญบรรยายพิเศษ ในการสร้างความมั่นใจ และขอความร่วมมือให้บุคลากรทางสายการแพทย์ สายบริหาร สายสนับสนุน ผนึกกำลังกันต่อสู้กับไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพื่อให้กำลังพลรู้ถึงความใส่ใจของโรงพยาบาลในการดูแล รักษาผู้ป่วย ให้กำลังพลมีความมั่นใจในมาตรการของโรงพยาบาล และให้ความรู้กับกำลังพลให้สามารถป้องกันตัวเองได้ และไม่เป็นผู้ที่นำเชื้อไปแพร่ระบาดให้ผู้ป่วยอื่นๆ
นาวาเอก สุรพล ชัชวาลวานิช รองผู้อำนวยการ ฝ่ายการแพทย์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่งผลให้บุคลากรสายการแพทย์มีภารกิจเพิ่มมากขึ้น ผู้ป่วยเพิ่มจากเดิมกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ข่าวสารจากทั่วโลกยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ยังไม่มีหนทางที่จะหยุดหรือควบคุมโรคนี้ได้อย่างเป็นรูปธรรม บุคลากรของโรงพยาบาลเกิดความกังวลที่อาจติดเชื้อทั้งจากการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีในการให้บริการผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอกหลายเรื่อง และหลายจุดบริการ เพราะเราต้องรักษาจรรยาบรรณ ศีลธรรม ไม่สามารถปฎิเสธความมีหน้าที่รับผิดชอบได้ ต้องให้บริการตรวจรักษาคนไข้อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัย และสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า ก็คือ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทุกคนต้องปลอดภัยก่อน จึงจะสามารถปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พลเรือตรี เผดิมพงศ์ รุมาคม ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้วางมาตรการให้เป็นมาตรฐาน สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับวิธีการทำงาน เช่นการคัดกรอง การคัดแยกผู้ป่วย การใส่หน้ากากอนามัย การทำความสะอาดมือ การจัดสัปดาห์รณรงค์ป้องกันโรคทางเดินหายใจ และมาตรการสำคัญก็คือ การให้ความรู้กับบุคลากรสายการแพทย์ให้รู้เท่าทัน ทำงานอย่างมีสติ รู้จริง ทำจริง ป้องกันตัวเองอย่าให้ป่วย เพราะถ้าบุคลากรป่วยเพียงคนเดียวจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติรองรับผู้ป่วยอย่างมาก
อีกทั้งไม่ต้องการให้นำเชื้อโรคมาติดผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการที่โรงพยาบาล จะต้องใส่หน้ากากชนิดผ้า แอลกอฮอล์ขวดไว้ฉีดทำความสะอาดมือ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเพราะไม่รู้ตัวตนของศัตรูอย่างแท้จริง มาตรการที่ได้วางไว้มั่นใจว่ามีความพอเพียง และมีประสิทธิผลที่จะควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ได้ ทั้งในกลุ่มผู้ป่วย และกำลังพลทุกคน
