xs
xsm
sm
md
lg

18 ภาคธุรกิจจีนสำรวจ 3 นิคมฯ ในตะวันออกหวังขยายลู่ทางลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - การเจรจาจับคู่ธุรกิจนักธุรกิจไทย-จีน ซึ่งจัดขึ้นเป็นวันแรกในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้รับการตอบรับทั้งจากนักธุรกิจไทย-จีนเข้าร่วมอย่างล้นหลาม โดยประเด็นหลักอยู่ที่การหาลู่ทางลงทุนใน 18 ธุรกิจหลักของจีน ขณะที่บริษัทชิงเต่า เตรียมหาพื้นที่ขยายการผลิตเบียร์ชิงเต่าในไทย ด้านเลขาธิการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ระบุผลที่ไทยและเมืองพัทยาจะได้รับจากการเดินทางเข้าร่วมศึกษาลู่ทางลงทุนในไทยของนักธุรกิจจีนหลายร้อยชีวิต นอกจากจะทำให้ภาพความปลอดภัยในไทยดีขึ้นแล้ว ยังจะส่งผลต่อการลงทุนร่วมกันในอนาคต

วันนี้ (27 กค.)สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและหน่วยงานต่างๆ หอการค้าไทย-จีน และสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ได้จัดสัมมนาและเจรจาจับคู่ทางธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยและจีนกว่า 300 คน จากสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในการดำเนินธุรกิจและขยายผลไปยังความร่วมมือทางธุรกิจ มีนายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสหกรรม เป็นประธาน งานดังกล่าวได้จัดขึ้นที่โรงแรมดุสิตธานี พัทยา จังหวัดชลบุรี

นอกจากจะมีนักธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เข้าร่วมแล้ว ยังได้รับความสนใจจากภาคธุรกิจและนักลงทุนในภาคตะวันออกและเมืองพัทยาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

นายชาญชัยกล่าวถึงวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นทั่วโลกว่า แม้จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลก แต่ประเทศจีนแล้วถือว่าได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวน้อยมาก ดังนั้นการจับมือร่วมกันระหว่างไทยและจีน จะเป็นการช่วยแก้ไขวิกฤตเศรษฐกิจและการลงทุนให้กลับมาขยายตัวอีกครั้ง

เช่นเดียวกับนายพินิจ จารุสมบัติ ว่าที่นายสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย- จีน ที่กล่าวถึงตัวเลขการค้าการลงทุนระหว่างไทย-จีน ในปีที่ผ่านมามีมากกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การส่งออกผลไม้ไทยไปจีนก็มีแนวโน้มสดใส เห็นได้จากการสำรวจตลาดเจียงหนาน นครกวางโจ ซึ่งเป็นตลาดผลไม้ขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณการรับทุเรียนจากไทยมากถึง 1.8 หมื่นตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งหากการบริโภคผลไม้ไทยของประชาชนชาวจีนเพิ่มขึ้น ก็จะทำให้การส่งออกผลไม้จากไทยในอนาคตดีตามไปด้วย

ขณะที่ นางมณฑา ประณุทนรพาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ กนอ.กล่วถึงการจัดสัมมนาดังกล่าวว่า มุ่งก่อให้เกิดการเชื่อมโยงการลงทุนระหว่างไทย-จีนอย่างเป็นรูปธรรมทั้งในส่วนภาครัฐและเอกชน เนื่องจากปัจจุบันจีนได้หันมาให้ความสนใจที่จะเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น หลังรัฐบาลจีนมีนโยบายสนับสนุนให้นักลงทุนหันไปลงทุนในต่างประเทศ โดย กนอ.ได้จัดกิจกรรม One-on-One หรือการจับคู่ธุรกิจไทย-จีน ซึ่งจะเป็นการพบปะหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการค้าและการลงทุน และยังเป็นการเชื่อมโยงเครื่อขายความร่วมมือระหว่างกัน

นายหลิว หยงห่าว ประธานกรรมการบริหารและประธาน New Hope Group ซึ่งดำเนินธุรกิจหลายประเภทในประเทศจีน ได้กล่าวถึงศักยภาพในการรองรับการลงทุนด้านต่างๆ ของไทย ทำให้เขามีความสนใจที่จะมองหาลู่ทางการลงทุนด้านต่างๆ ในไทย จากการเดินทางมาศึกษาลู่ทางการลงทุนของไทยในครั้งนี้

18 ภาคธุรกิจจีนเตรียมหาลู่ทางลงทุนไทย

นายบัณฑิต ศิริตันหยง กรรมการบริหารสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย- จีน กล่าวถึงการจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทย-จีนว่า มีประเด็นสำคัญอยู่ที่การจับเข่าคุยกันระหว่างนักธุรกิจในภาคการลงทุน 18 ประเภท ประกอบด้วย การขยายโรงงานผลิตเบียร์ชินเต่า ของกลุ่มบริษัท ชิ'เต่าประเทศจีน ที่กำลังมองหาพื้นที่ดำเนินการในไทย เช่นเดียวกับภาคอุตสาหกรรมน้ำตาล สิ่งทอ อิเล็ทรอนิกส์ ฯลฯ

ดังนั้น ในวันที่ 28 กรกฏาคม 2552 สมาคมฯ จึงจัดให้มีโปรแกรมเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมในเขตภาคตะวันออก 3 แห่งประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด จังหวัดระยอง และนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง (แหลมฉบัง) จังหวัดชลบุรี

“แต่นักธุรกิจจีนที่มาก็อยากจะเพิ่มในเรื่องการท่องเที่ยว และบริษัททัวร์ ซึ่งในครั้งนี้ก็เดินทางมายังประเทศไทยด้วย ที่สำคัญเรากำลังจะจัดให้มีการแต่งงานของนักธุรกิจจีนในไทยถึง 1 หมื่นคุ่ แต่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 ก็อาจจะทำให้นักธุรกิจและคู่รักที่จะเดินทางมาแต่งงานในไทยหมื่นคู่ อาจลดน้อยลงบ้าง อย่างไรก็ดีสิ่งที่เมืองพัทยา จะได้รับจากการเดินทางเข้ามาของนักธุรกิจ นอกจากจะเป็นเรื่องความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่สถานีโทรทัศน์ CTV ของจีนได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาหลายชุดเพื่อทำข่าวดี รวมถึงการเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของไทย” นายบัณทิต กล่าว

นายสรสินธุ ไตรจักรภพ เลขานุการสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย- จีน กล่าวถึงภาพของประเทศไทยในสายตาประชาชนและนักธุรกิจจีนในเรื่องการเมืองว่าแม้จะไม่ค่อยดีนัก แต่ในด้านเศรษฐกิจที่ผ่านมาไทยเคยให้การช่วยเหลือประเทศจีนในช่วงเปิดประเทศใหม่ๆ จนทำให้ในวันนี้เศรษฐกิจของจีนมีความเข้มแข็ง ดังนั้น การจัดเจรจาทางธุรกิจร่วมกัน ก็จะเป็นโอกาสดีที่จีนจะได้ช่วยเหลือไทยในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจไทยตกต่ำ ซึ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจของไทยดีขึ้นโดยเฉพาะการส่งออกผลไม้

นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี ที่ปรึกษาสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้จะทำให้ภาพลักษณ์ของเมืองพัทยาดีขึ้น ในสายตาต่างชาติ และแม้จะไม่สามารถลบภาพความไม่สงบ ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่จัดขึ้นในเมืองพัทยาครั้งก่อนได้ แต่ก็จะผลักดันให้เกิดการสัมมนาขนาดใหญ่ในอนาคตอย่างแน่นอน


สรสินธุ ไตรจักรภพ
ธเนศ ศุภรสหัสรังสี
บัณฑิต ศิริตันหยง
กำลังโหลดความคิดเห็น