ศูนย์ข่าวศรีราชา- ทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมหน่วยงานเมืองชายทะเล ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ถึงจังหวัดตราด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เอกชน ชมรมนักดำน้ำ โรงเรียนสอนดำน้ำ เรือนำเที่ยว เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล ร่วมประชุมหารือกำหนดจุดปลอดภัยในการดำน้ำ ก่อนตายซ้ำซาก ลบฉายา “อ่าวสัตหีบสุสานในทะเล”
วันนี้ (17 ก.ค.) พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 ประธานเปิดประชุมเพื่อกำหนดจุดปลอดภัยในการดำน้ำ ให้ปลอดภัยในพื้นที่รับผิดชอบอ่าวไทยตอนบน ของทัพเรือภาคที่ 1 ตั้งแต่จังหวัดชุมพร ถึงจังหวัดตราด
ทั้งนี้ มีผู้แทนจากทุกจังหวัดที่ติดทะเลอ่าวไทยตอนบน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผู้แทนเขตปกครองพิเศษ กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เข้าร่วมประชุมหารือในการกำหนดจุดดำน้ำ กำหนดพื้นที่นักดำน้ำ นักท่องเที่ยว ให้ได้รับความปลอดภัย โดยเฉพาะในเขตหมู่เกาะแสมสาร อ่าวสัตหีบ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีจุดขายการท่องเที่ยว และเกิดแรงจูงใจให้นักดำน้ำลงไปชมทัศนียภาพใต้ทะเออันสวยงาม อีกทั้งเรือจมวัตถุใต้น้ำที่ท้าทายนักดำน้ำอย่างมากในการดำสำรวจ ชมปลาทะเล ปะการัง สาหร่าย สัตว์ทะเลที่สวยงามอีกจำนวนมาก
พลเรือตรี ทวีป สุขพินิจ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า ในอดีตที่ผ่านมา เราต้องยอมรับว่า คนไทยได้สูญเสียบุคลากรในเรื่องของการสอนดำน้ำ ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ไปจำนวนมาก เสียชีวิตปีละหลายคน ซึ่งล่าสุด ได้สูญเสียครู และเจ้าของโรงเรียนสอนดำน้ำไป 2 คน พบศพเพียงคนเดียวเท่านั้น
โดยเฉพาะมาพบจุดจบชีวิตที่จุดดำน้ำบริเวณอ่าว หมู่เกาะแสมสาร บริเวณจุดดำน้ำเรือจุฑาทิพย์ เกาะจวง หินหลักเบ็ด โรงโขน โรงหนัง เกาะฉางเกลือ เนื่องจากทุกจุดมีจุดขายสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักดำน้ำที่สามารถผจญภัย หรือเสี่ยงภัยในการดำน้ำเบื้องต้น ถ้านักเรียนที่ผ่านการดำน้ำจากอ่าวแสมสาร จะถือว่าเป็นนักดำน้ำที่มีคุณภาพ มีประสบการณ์ในเรื่องของการผ่านอุปสรรค และเป็นที่ยอมรับของนักดำน้ำทั่วไป มีนักดำน้ำมากเพียงใด การสูญเสีย ความผิดพลาดก็มากขึ้นตามลำดับ จนได้ฉายาว่า “สุสานในทะเลอ่าวแสมสาร” ทัพเรือเล็งเห็นในเรื่องของธุรกิจการท่องเที่ยวที่กำลังเหือดหายไป นักดำน้ำไม่กล้ามาดำกันที่อ่าวแสมสาร เพราะเกรงว่าจะผิดพลาดจนเสียชีวิตอย่างง่ายดาย
พลเรือโท ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า ได้เล็งเห็นความสำคัญของนักดำน้ำ ในการสนับสนุน ร่วมมือกันสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทุกชนิดให้เกิดประโยชน์ คุณค่าสูงสุดในท้องทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวปะการังซึ่งเป็นต้นทางแห่งทรัพยากรอื่นๆ อีกมากมาย จึงได้จัดทำโครงการท้องทะเลสวย ปลอดภัยขึ้น โดยการขอความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งหมดได้ร่วมกันเสนอแนะ หาข้อยุติ พัฒนาแหล่งดำน้ำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดของกองทัพเรือ ในเบื้องต้นจะร่วมกันพิจารณาดำเนินการรูปแบบต่างๆ อีกทั้งการเปิดจุดดำน้ำในบริเวณอ่าวสัตหีบ ซึ่งเป็นเขตปลอดภัยทางทหารเป็นจุดนำร่องก่อนในโอกาสแรก