ศูนย์ข่าวขอนแก่น- St.Mall ศูนย์จำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านระดับไฮเอนด์ เตรียมขยายสาขาตีตลาดเมืองหมอแคนไตรมาส 3ปีหน้า หลังลงทุน 170ล้านชิมลางตลาดในอุดรฯมาร่วม 2 ปีลูกค้ากระเป๋าหนักให้การตอบรับน่าพอใจ เผยแม้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างแข่งกันหนักแต่ไม่มีเจ้าใดจับลูกค้าระดับบนโดยตรงทำให้เห็นโอกาสทางการตลาดเล็งเปิดต่อโคราช-อุบลฯ ขณะเดียวกันไม่ทิ้งตลาดแมสลุยเปิด EASY HOME ร้านสะดวกซื้อวัสดุก่อสร้างตามย่านชุมชนใหญ่-ต่างอำเภอ คาดสิ้นปี 52 เปิดครบ10 สาขา
นายปรัชญา ตรังคานุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัทศรีไทยใหม่ จำกัด เจ้าของเซนต์ มอลล์ (St.Mall) โมเดิร์นเทรดสินค้าตกแต่งบ้านระดับไฮเอนด์ ในจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่าหลังจากเปิดศูนย์จำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างประเภทตกแต่งแบรนด์หรู บนถนนนิตโย ต.หนองบัวมาได้ร่วม 2 ปีได้รับการตอบสนองจากตลาดค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ เพราะเป็นโชว์รูมที่เน้นกลุ่มเป้าหมายตลาดบนเป็นหลัก ที่ผ่านมายอดขายเติบโตขึ้นราวปีละ 20% และคาดว่าเมื่อสิ้นปี 2552 ยอดขายจะขยายตัวมากถึง 30%
เซนต์ มอลล์ ศูนย์จำหน่ายเซรามิค สุขภัณฑ์ห้องน้ำและผลิตภัณฑ์ตกแต่งห้องครัว มีพื้นที่ขายราว 4,200 ตารางเมตร ด้านหลังเป็นโกดังสินค้า ใช้เงินลงทุนประมาณ 170 ล้านบาท ทั้งนี้นายปรัชญาให้เหตุผลในการลงทุนเปิด เซนต์มอลล์ ว่าเพราะเห็นช่องว่างทางการตลาดในจังหวัดอุดรธานียังไม่มีโชว์รูมจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างตกแต่งที่จับตลาดบนโดยเฉพาะ แม้จะมีร้านค้าวัสดุก่อสร้างในพื้นที่จำนวนหลายรายและแข่งขันกันสูงมาก ทั้งร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไปและดิสเคานต์สไตล์แนวโมเดิร์น เทรด
นายปรัชญาระบุว่า ตัวเขาเองบริหารธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างศรีไทยใหม่ของตระกูลมานานร่วม 15 ปี ยอมรับว่าการแข่งขันของสินค้าวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านในอุดรธานีแข่งขันกันสูงมาก มีทั้งกลุ่มโกลบอลเฮ้าส์, กลุ่มไทยพิพัฒน์, อินเด็กซ์ลิฟวิ่ง มอลล์, โฮมโปร ไม่นับรวมรายย่อยอีกหลายเจ้า อย่างไรก็ตาม ในตลาดยังไม่มีโชว์รูมที่เปิดจำหน่ายเฉพาะสินค้าตกแต่งบ้านที่เน้นเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบนที่นิยมแบรนด์ไฮเอนด์ จึงตัดสินใจลงทุนเพิ่มเปิดเซนต์มอลล์ที่ขายผลิตภัณฑ์เซรามิก สุขภัณฑ์ห้องน้ำและผลิตภัณฑ์ตกแต่งห้องครัวสำหรับผู้ที่มีรสนิยมแบรนด์หรูที่มีดีไซน์แปลกใหม่ไม่ค่อยเหมือนใคร
“ร่วม 2 ปีที่เราเปิดเซนต์มอลล์ ลูกค้าให้การตอบรับน่าพอใจ เมื่อเข้ามาร้านเราอาจจะไม่เห็นบรรยากาศการเลือกซื้อสินค้าที่พลุกพล่านเหมือนที่อื่นๆ ลูกค้าที่เข้าเซนต์มอลล์จะตั้งใจมาซื้อมากกว่า เป็นการบอกต่อๆ กันไปในกลุ่มลูกค้าที่มีรสนิยมเดียวกัน แต่ใช่ว่าร้านค้าวัสดุก่อสร้างที่อื่นจะไม่มีแบรนด์ไฮเอนด์ขาย เขาก็มีให้เลือกเช่นกัน แต่ที่เซนต์มอลล์จะขายสินค้าแบรนด์ระดับบนเป็นหลัก”นายปรัชญากล่าวและเปิดเผยถึงแผนงานในอนาคตต่อว่า
ในราวไตรมาส 3 ของปี 2553 ทางบริษัทมีโครงการจะขยายสาขาไปยังจังหวัดขอนแก่น ที่เลือกเปิดสาขา 2 ที่ขอนแก่นเพราะระยะทางไม่ไกลจากอุดรธานีมากนักทำให้การบริหารและการขนส่งสินค้าสะดวก ขอนแก่นเป็นจังหวัดใหญ่ ปัจจุบันแม้จะมีร้านค้าวัสดุก่อสร้างอยู่มากรายแล้วก็ตาม แต่ตลาดยังไม่มีโชว์รูมขายผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านระดับบนเป็นการเฉพาะ โดยขนาดเซนต์มอลล์ขอนแก่นจะเล็กกว่าที่อุดรธานี คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 60-70 ล้านบาท
สำหรับอนาคตหลังจากเปิดสาขาขอนแก่นและผลประกอบการอยู่ในระดับที่น่าพอใจแล้ว จะขยายสาขาต่อในจังหวัดนครราชสีมาและอุบลราชธานี
สาเหตุที่เซนต์มอลล์รุกขยายสาขาออกต่างจังหวัดค่อนข้างเร็วเช่นนี้ นายปรัชญาระบุว่าเป็นเพราะศรีไทยใหม่มีฐานธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้งยังมีกิจการขนส่งเป็นของตนเอง ทำให้ลดต้นทุนการสต๊อกสินค้าและการขนส่งได้พอสมควร ปัจจุบันศรีไทยใหม่ขนส่งสินค้าเกษตรประเภทข้าวส่งไปยังภาคกลางอยู่แล้วและขากลับก็ขนสินค้าวัสดุก่อสร้างกลับมา
“เซนต์มอลล์ถือเป็นเจ้าแรกในภาคอีสานที่ขายผลิตภัณฑ์ตกแต่งที่มุ่งตลาดไฮเอ็นด์เป็นหลัก แม้เซนต์มอลล์สาขาแรกที่อุดรยังไม่คืนทุน แต่คาดว่าตัวเลขยอดขายสิ้นปีนี้น่าจะสามารถเลี้ยงตัวเองได้ เมื่อเราตั้งใจจะเจาะตลาดบนแล้วก็ไม่อยากเสียโอกาสทางธุรกิจในระยะยาว” นายปรัชญากล่าวและเปิดเผยเพิ่มเติมว่า
นอกจากบริษัท ศรีไทยใหม่ ในกลุ่มธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้างจะขยายไลน์มาจับตลาดสินค้าตกแต่งกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงในนาม เซนต์มอลล์ (St.Mall) แล้ว ยังได้เปิดอีซี โฮม (EASY HOME) ร้านค้าวัสดุก่อสร้างในรูปแบบคอนวีเนียนสโตร์เมื่อ 3 ปีก่อน โดยมุ่งจับลูกค้าทั่วไปตามย่านชุมชนใหญ่ๆ ขนาดพื้นที่ขายใกล้เคียงกับร้านสะดวกซื้อทั่วไป ภายในร้านมีสินค้าวัสดุก่อสร้างของตกแต่งบ้าน รวมถึงเครื่องมือช่างทั่วไปที่หลากหลาย อีซี โฮม ต้องการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วไปที่มีความจำเป็นใช้วัสดุก่อสร้างบางชิ้นบางรายการที่ขาดกะทันหัน หรือซื้อนำไปซ่อมแซม โดยไม่จำเป็นต้องเข้าร้านวัสดุก่อสร้างใหญ่ๆที่อยู่ห่างไกลที่พักอาศัย
ปัจจุบัน อีซี โฮม มีทั้งหมด 7 สาขา 3 สาขาแรกตั้งอยู่ในย่านชุมชนเขตเมืองอุดรธานี อีก 4 สาขาอยู่ในอำเภอหนองวอซอ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี, อำเภอปากคาด และอำเภอบึงกาฬ จ.หนองคาย และภายในปี 2552 นี้จะเปิดให้ครบ 10 สาขา
“ถือเป็นร้านสะดวกซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างต้นแบบในตลาดก็ว่าได้ ใช้เงินลงทุนราว 2 ล้านบาทต่อสาขา ภายใน 3 ปีคืนทุน ตัวสินค้าที่วางขายในร้านจะเน้นจำพวกที่จำเป็นใช้ในบ้าน อาคารสำนักงาน” นายปรัชญากล่าว