ตาก- เสธ.กองทัพภาคที่ 3 ตรวจพื้นที่พิพาทชายแดนตาก เตรียมเจรจากับพม่า
วันนี้(14 ก.ค.) พล.ต.พิจิตร ลักษณะละม้าย เสธ.กองทัพภาคที่ 3 พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจพื้นที่พิพาทระหว่างไทย-พม่า บริเวณชายแดนด้าน องแม่สอด จ.ตาก โดยมี พ.อ.ผดุง ยิ่งไพบูลย์สุข ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-พม่า ระดับท้องถิ่น TBC แม่สอด-เมียวดี ฝ่ายไทย ให้การต้อนรับ
โดยคณะของเสนาธิการ กองทัพภาค 3 ได้เดินทางไปที่จุดแรกคือ บริเวณพื้นที่พิพาทเกาะคอกช้างเผือก บ้านท่าอาจ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จุดที่สอง คือ บริเวณพื้นที่พิพาทใต้สะพานมิตรภาพไทย-พม่า หรือเกาะโนแมนแลนด์ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การเตรียมการด้านข้อมูลเพื่อเจรจาไทย-พม่า และตั้งคณะกรรมการปักปันเขตแดนในอนาคต
พล.ต.พิจิตร กล่าวว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้เพื่อดูความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนไทย-พม่า รวมถึงพื้นที่ที่มีการพิพาทระหว่างไทย-พม่า ซึ่งปัญหานี้มันเกิดด้วยตัวเอง ปัญหาก็คลี่คลายด้วยตัวเองอยู่แล้ว ไม่ต้องไปกระตุ้น ซึ่งขณะนี้รัฐบาลก็มีปัญหาหลายด้านอยู่ ไม่ต้องรีบหยิบเอาปัญหามาแก้ไขแบบเร่งด่วน ต้องใช้ยุทธศาสตร์ทำความเข้าใจซึ่งกันแลกันเป็นเรื่องที่ดี ขณะนี้เราจะเห็นได้ว่าการดำเนินการด้านกำลังทหารจะไม่มีเกิดขึ้นระหว่างฝ่ายพม่ากับไทย ถ้าจะมีก็ชี้แจงกันได้ ขอกันได้ ไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ แจ้งไปทางพม่าก็ยอมรับ ดังนั้นปัญหาข้อพิพาทคงจะได้ดำเนินพูดคุยกันในอนาคต
รายงานข่าวแจ้งว่า การตรวจสอบพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับพม่า บริเวณวัดคอกช้างเผือก ซึ่งฝ่ายไทย กับ ฝ่ายพม่าเคยมีปัญหาต่อกัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของแม่น้ำเมย และมีดินเซาะตลิ่ง ทำให้ผืนแผ่นดินไทย ประมาณกว่า 70 ไร่ ไปอยู่กลางแม่น้ำเมย แต่ฝ่ายพม่าได้นำราษฎร - เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเข้าไปอาศัยอยู่บนเกาะ ซึ่งฝ่ายไทยได้ท้วงติงมาตลอด แต่ฝ่ายพม่ายังคงให้ประชาชนไปสร้างเพิงพักอาศัยอยู่ราว 20 ครอบครัว โดยทาง พล.ต.พิจิตร ได้ฟังบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ และให้การแนะนำในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
การเดินทางไปสำรวจพื้นที่พิพาทไทย – พม่าครั้งนี้ นอกจากเจ้าหน้าที่ทหารได้กล่าวถึงพื้นที่พิพาทบริเวณวัดคอกช้างเผือกแล้ว ยังกล่าวถึงพื้นที่บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย – พม่า บริเวณบ้านริมเมย ตำบลท่าสายลวด และพื้นที่พิพาทเกาะมะนาว บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อำเภอแม่สอด ซึ่งปัญหาข้อพิพาทยังไม่ได้รับการแก้ไข
ขณะที่ฝ่ายทหารในพื้นที่วิตกว่า หากปล่อยทิ้งไว้ จะเกิดปัญหาพิพาทระหว่างประเทศขึ้นมาในอนาคต สำหรับพื้นที่พิพาทไทย-พม่า อีกแห่งหนึ่งที่ยังมีปัญหานั้นคือ บริเวณเกาะมะนาว ซึ่งมีที่ดินคนไทยหายไปกว่า 340 ไร่ ยังคงเป็นปัญหาพื้นที่พิพาทเช่นเดียวกัน