ทนายสภาทนายความ รุดเข้าพบ ผบช.น.ติดตามความคืบหน้าออกหมายจับม็อบคลองเตยปิดถนน เตรียมประสานกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ถูกออกหมายจับพามามอบตัว และใช้ตำแหน่งประกันตัวให้ พร้อมทำความเข้าใจกับม็อบถึงการปิดถนนและการล้มประมูลไม่สามารถทำได้ แนะให้ตรวจสอบการปรับปรุงตลาดและการบริหารแทน หากพบไม่ยุติธรรมก็ร้องยกเลิกการประมูลได้
วันนี้ (8 มิ.ย.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความจากสภาทนายความ เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตย เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการออกหมายจับกลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตยที่มีการปิดถนนพระราม 4 เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกการประมูลตลาดคลองเตย ของ บ.ลีเกิ้ล โปรเฟสชันนอล จำกัด (มหาชน) กับการท่าเรือแห่งประเทศไทย
นายนิติธรกล่าวว่า เนื่องจากกลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตยได้เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความไปก่อนหน้านี้ กระทั่งเหตุการณ์สงบไปช่วงหนึ่งและเกิดการกระทบกระทั่งกันอีก จนทราบว่าตำรวจมีการออกหมายจับผู้ค้าตลาดคลองเตย วันนี้จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้าว่ามีใครถูกออกหมายจับบ้าง เท่าที่ทราบเบื้องต้นทราบมีการออกหมายจับ 10 คนที่ทราบชื่อทั้งสิ้น 6 คน และอีก 4 คนเป็นบุคคลที่ปรากฏตามภาพ ตามข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และปิดถนน หรือทางสาธารณะ โดยมีการตั้งวงเงินประกันตัวที่รายละ 100,000 บาท ซึ่งส่วนนี้จะประสานกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ถูกออกหมายจับที่ทราบชื่อเพื่อพามามอบตัว และหากไม่มีเงินประกันตนจะใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัว ซึ่งสามารถใช้ประกันตัวได้จำนวน 5 คน ส่วนที่เหลืออีก 1 คนจะมีการรวบรวมเงินสดเพื่อประกันตัวต่อไป
นายนิติธรกล่าวต่อว่า การปิดถนนของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้านั้น ครั้งแรกมีการปิดถนนภายในตลาด แต่เนื่องจากเป็นมุมอับและอยู่ใกล้ บ.ลีเกิ้ล จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงมีการออกมาปิดถนนพระราม 4 ซึ่งส่วนนี้จะชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ค้าว่าการปิดถนนนั้นเป็นการผิดกฎหมาย และจะชี้แจงเกี่ยวกับการล้มการประมูลนั้นไม่สามารถทำได้เนื่องจากการประมูลดำเนินการตามขั้นตอน แต่สามารถตรวจสอบได้ว่าการดำเนินการปรับปรุงตลาดและการบริหารงานว่ามีความยุติธรรมหรือไม่ หากพบว่าไม่ยุติธรรมหรือไม่โปร่งใสก็สามารถร้องเรียนเพื่อขอยกเลิกการประมูลได้
ด้านพล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับกลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตย ว่า หลังจากช่วงเช้าที่ผ่านมา นายนิติธร ล้ำเหลือ ผู้ประสานงานกลุ่มผู้ค้าตลาดคลองเตย จะประสานงานนำผู้ที่ถูกออกหมายจับติดต่อขอมอบตัว ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่จะมีการติดต่อขอมอบตัว ส่วนการป้องกันระวังเหตุการกระทบกระทั่งระหว่าง 2 ฝ่ายนั้น ทางยุทธวิธี ตำรวจได้ทำอย่างเต็มที่ พยายามจัดส่งกำลังไปดูแลในสภาวะปกติ จะจัดกำลังดูแล 150 นาย แต่หากด้านการข่าวว่าเริ่มก่อตัวก็จะเพิ่มกำลัง แต่เนื่องจากทั้ง 2 กลุ่มมีมาก เจ้าหน้าที่ทำได้เพียงกั้นระหว่างทั้ง 2 กลุ่ม ไม่ให้มีการปะทะกัน แต่บางครั้งก็ยังมีการยิงปืนข่มขู่กัน ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคงทำอะไรไม่ได้มาก แต่จะมีการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายในภายหลัง ทั้งขั้นตอนการตรวจค้น ซึ่งได้กำชับไปแล้วว่าให้ดำเนินการตรวจค้นอย่างละเอียด ซึ่งขณะนี้ถือว่าดีขึ้น
"ส่วนแนวทางที่จะยุติการพิพาทระหว่างทั้ง 2 ฝ่ายนั้น ตำรวจพยายามประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อยุตินั้น และตำรวจพยายามทำอย่างเต็มที่ เพราะท้ายสุดแล้วปลายเหตุ ผู้ที่ต้องรับบทหนักคือตำรวจ เมื่อเรารักษาความสงบไม่ได้ เราจึงต้องพยายามหาต้นเหตุเพื่อทีจะยุติในส่วนนั้น" พล.ต.ท.วรพงษ์ กล่าว
