พิษณุโลก - รมว.คลังลุยพื้นที่เหนือตอนล่างตรวจการใช้งบฯ ไทยเข้มแข็ง ท่ามกลางเสื้อแดงหยิบมือมารอขับไล่ เผยสุโขทัยได้ 6 พันล้านเน้นพัฒนาแหล่งประวัติศาสตร์ ขณะเมืองสองแควได้ 8.7 พันล้านโปรยลงเกษตรมากสุด แบ่งเป็นพัฒนาแหล่งน้ำ-ชลประทาน 2.7 พันล้าน แขวงพิษณุโลกส้มหล่นได้งบสร้างทางพิษณุโลก-หล่มสัก เฟส 2 อีก 772 ล้านบาท แต่ไร้งบฟื้นฟู”พระราชวังจันทน์”
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (13กรกฎาคม 2552) นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางไปยังจังหวัดสุโขทัย หลังจากนั้นได้เดินทางต่อมายังที่โรงพยาบาลพุทธชินราช จ.พิษณุโลก พร้อมกับพบปะกับกลุ่มนักธุรกิจ โดยมีกลุ่มเสื้อแดงจำนวน 10 คนยืนรอโห่และปราศรัยโจมตีที่หน้าโรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า แต่ไม่สามารถขึ้นไปบริเวณโรงแรมได้เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลกว่า 100 นาย จากนั้นรัฐมนตรีคลังเดินทางต่อไปยังจังหวัดนครสวรรค์เพื่อตรวจงานตามโครงการไทยเข้มแข็งที่กำลังจัดสรรลงไป
นายกรณ์ กล่าวถึงการเดินทางมาตรวจพื้นที่ในจังหวัดภาคเหนือตอนล่างทั้งที่สุโขทัยและพิษณุโลกว่า เท่าที่ได้มีการพูดคุยกับนักธุรกิจในพื้นที่ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องทางการเงินโดยเฉพาะกับสถาบันการเงินที่ไม่ย่อมปล่อยสินเชื่อซึ่งทางรัฐบาลจะเข้าไปดูแล พร้อมกับดูข้อมูลด้านอื่น ๆ ประกอบด้วย
ส่วนที่จังหวัดพิษณุโลกนั้นเมื่อก่อนหน้านี้มีการเรียกร้องเรื่องขอสนามบินแต่เมื่อมีสนามบินแล้ว ทำไมคนไม่ใช้ ส่วนโครงการอื่นๆ นั้น ภาคเอกชนต้องเดินหน้าก่อนพร้อมดึงรัฐเข้าร่วม หากติดขัดปัญหาอะไร ให้นำเสนอรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาอีกครั้ง ภาคเอกชนควรทำอะไรก่อนเพื่อบรรลุเป้าหมายของงาน ถ้าติดขัดขอให้บอก ส่วนเรื่องรถไฟรางคู่นั้น เชื่อว่า จากที่นายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางไปจีน คาดว่าจะได้รับความร่วมมือสร้างเส้นทางรถไฟจากเชียงใหม่หรือเชียงราย ผ่านประเทศลาวลงมาถึงใต้ โดยผ่านพิษณุโลกแน่
สำหรับงบไทยเข้มแข็งได้มีการจัดสรรลงไปสู่จังหวัดสุโขทัยไม่น้อย โดยเฉพาะอุทยานประวัติศาสตร์เมืองเก่าสุโขทัย ส่วนที่พิษณุโลกได้รับงบประมาณ 8,700 ล้านบาท เน้นลงไปพัฒนาแหล่งน้ำระบบชลประทาน 2,700 ล้านบาทและการพัฒนาโครงการถนนไร้ฝุ่น
ส่วนข้อเสนอภาคเอกชนนั้นก็มีความสมเหตุสมผล น่าจะทำได้ แต่เอกชนจะต้องบอกให้ชัดเจนว่า ให้รัฐควรทำอะไร เบื้องต้น รมว.คลังรับปากว่า จะให้สภาพัฒน์ฯ มาร่วมถกปัญหากับกลุ่มหอการค้าจังหวัดพิษณุโลกก่อนเพื่อทำแผนพัฒนาจังหวัดต่อไป
รมว.คลังกล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ของตนก็เพื่อตรวจเม็ดเงินตามโครงการไทยแข็มแข็งที่เตรียมผันงบประมาณลงในทุกพื้นที่ตามความเหมาะสม ส่วนการประท้วงเสื้อแดงหน้าโรงแรมนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขา ก็ทำได้ ไม่ได้มารบกวนใดๆ
ด้านนายแพย์ประเสริฐ ขันทอง ผอ.รพ.พุทธชินราช ชี้แจงถึงความจำเป็นที่โรงพยาบาลพุทธชินราชซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาด 911 เตียง ยังขาดแคลนต่อการให้บริการผู้ป่วย 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งดูแลประชากร 5 ล้านคน มีคนไข้นอกเฉลี่ยวันละ 2,500 คน จึงขออนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารตึกอุบัติเหตุฉุกเฉิน 6 ชั้นที่รวมถึงการรักษาโรคหัวใจ-มะเร็งตามงบประมาณ 233 ล้านบาทจำนวน 150 เตียง พื้นที่ใช้สอย 2 หมื่นตารางเมตร ใช้เวลาก่อสร้าง 800 วัน
นายวิโรจน์ จิรัฐิติกาลโชติ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดพิษณุโลกและรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า ขอบคุณที่รัฐมนตรีคลังอนุมัติโครงการก่อสร้างตึกฉุกเฉิน 233 ล้านบาท สอดคล้องกับแผนสี่แยกอินโดจีนที่จะเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ แต่ยังมีอีกหลายเรื่องคือการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้า-ลอจิสติกส์ เพื่อขนส่งสินค้าการเกษตรเพื่อช่วยลดต้นทุน โดยต้องการให้รัฐลงทุนให้ ทั้งนี้ภาคเอกชนไม่มีศักยภาพเพียงพอ ขณะที่ อบจ.พิษณุโลก ไม่สนใจต่อการลงทุนด้านศูนย์กระจายสินค้า และขอฝากให้ช่วยสนับสนุนการขยายถนน 4 เลนด้านทิศใต้ และส่งเสริมการบูรณะพระราชวังจันทน์
กลุ่มหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก เคยยื่นข้อเสนอให้รัฐสนับสนุนและผลักดันสนามบินพิษณุโลกเป็นสนามบินนานาชาติ, หอประชุมนานาชาติ, โครงการสี่แยกอินโดจีนและการขยายถนน 10 ช่องจราจรบนถนนมิตรภาพ นอกจากนี้แขวงการทางพิษณุโลกนำเสนอการขยายถนน 4 ช่องจราจรถนนหมายเลข 126 ด้านทิศใต้ระยะ 21.8 กิโลเมตรเชื่อมต่อสี่แยกอินโดจีน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามโครงการไทยเข้มแข็งในปีงบประมาณ 2553-2555 เม็ดเงินได้จัดสรรลงจังหวัดสุโขทัยประมณ 5-6 พันล้านบาท จังหวัดนครสวรรค์ประมาณ 7 พันล้านบาท ส่วนจังหวัดพิษณุโลกได้รับกว่า 8 พันล้านบาท แยกเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกือบ 4 พันล้านบาท กระทรวงคมนาคมเกือบ 2 พันล้านบาท กระทรวงศึกษาธิการประมาณ 2 พันล้าน กระทรวงท่องเที่ยวจำนวน 34 ล้านบาท และการพัฒนาสถานีอนามัย 196 แห่งๆ ละ 5 แสนบาท แต่ไม่มีงบลงแหล่งประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์