ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เกย์หนุ่ม นศ.ปริญญาโทเชียงใหม่ เผยติดเชื้อหวัด 2009 หลังจากเข้าไปใช้บริการหาความสุขในเซาน่าเกย์ แต่ล่าสุดรักษาจนหายแล้ว เตือนเพื่อนเกย์เพิ่มความระมัดระวังหากเข้าไปใช้บริการหวั่นซ้ำรอยตัวเอง “เกย์นที” แนะเจ้าของสถานประกอบการเพิ่มมาตรการเข้มคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ พร้อมจี้หน่วยงานสาธารณสุขยื่นมือดูแล ชี้เป็นจุดเสี่ยงไม่แพ้โรงเรียนกวดวิชาและร้านเกม
แหล่งข่าวที่เป็นชายอายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ และกำลังศึกษาระดับปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ตนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่เวลานี้ได้รับการรักษาจนหายแล้ว โดยสาเหตุที่ได้รับเชื้อจนกระทั่งล้มป่วยนั้น คาดว่า น่าจะมาจากการที่ตนเอง ซึ่งมีรสนิยมรักร่วมเพศ ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ และได้เข้าไปใช้บริการในเซาน่าเกย์แห่งหนึ่งที่กลุ่มเกย์เข้าไปใช้บริการหาความสุขในย่านคลองตัน
ซึ่งต่อมาในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่า ตนเองมีอาการป่วย และมีไข้ขึ้นสูงถึง 38 องศาเซลเซียส จึงได้เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพื่อรับการรักษาและตรวจพบว่าตนเองป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ นาน 3 สัปดาห์ จนกระทั่งเพิ่งหายป่วย
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จากการที่ตนเองต้องล้มป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คาดว่าจะได้รับเชื้อมาจากการเข้าไปใช้บริการซาวด์น่าเกย์ จึงมีความเป็นห่วงและอยากจะแจ้งเตือนให้กลุ่มเกย์ที่นิยมเข้าไปใช้บริการในเซาน่าเกย์ระมัดระวังการติดเชื้อจากแหล่งดังกล่าว ขณะเดียวกันอยากเรียกร้องให้เจ้าของสถานประกอบการในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมาตรการในการดูแลผู้ที่เข้าไปใช้บริการ ตลอดจนอยากให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบและดูแลสถานประกอบการในลักษณะนี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นจุดที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง
ขณะที่ นายนที ธีระโรจนพงษ์ แกนนำกลุ่มเกย์การเมืองไทยและนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคม แสดงความเห็นว่า เซาน่าเกย์ หรือสถานบริการในลักษณะเดียวกันนี้ เป็นสถานที่ที่กลุ่มเกย์มักจะเข้าไปใช้บริการกันเพื่อหาความสุข ซึ่งยอมรับว่าในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อยู่นี้ นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่ต้องจับตามองและเฝ้าระวังไม่น้อยไปกว่าโรงเรียนกวดวิชาหรือร้านเกม เพราะสถานที่ที่มีผู้เข้าไปใช้บริการจำนวนมากเช่นกัน
นายนที เสนอแนะว่า เจ้าของสถานประกอบการลักษณะนี้ควรจะต้องมีมาตรการในการป้องกันเฝ้าระวังการแพร่เชื้อของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ ด้วยการคัดกรองผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการ โดยเฉพาะหากพบว่ามีผู้ที่จะเข้าใช้บริการรายใดมีอาการต้องสงสัย และอาจจะมีการปิดส่วนให้บริการบางส่วนที่ล่อแหลมหรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นจุดแพร่เชื้อ พร้อมกันนี้เห็นว่าหน่วยงานสาธารณสุขควรจะเข้าไปให้การดูแลและมีมาตรการป้องกันเฝ้าระวังในสถานประกอบการลักษณะนี้ด้วย
นอกจากนี้ มองว่าหากเป็นไปได้ผู้ที่นิยมเข้าไปใช้บริการเซาน่าเกย์เป็นประจำ น่าจะหยุดเข้าไปใช้บริการสักระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะดีขึ้น แต่หากต้องเข้าไปใช้บริการจริงๆ ก็ควรรู้ป้องกันตัวเอง
แหล่งข่าวที่เป็นชายอายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ และกำลังศึกษาระดับปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ตนป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 แต่เวลานี้ได้รับการรักษาจนหายแล้ว โดยสาเหตุที่ได้รับเชื้อจนกระทั่งล้มป่วยนั้น คาดว่า น่าจะมาจากการที่ตนเอง ซึ่งมีรสนิยมรักร่วมเพศ ได้เดินทางไปกรุงเทพฯ และได้เข้าไปใช้บริการในเซาน่าเกย์แห่งหนึ่งที่กลุ่มเกย์เข้าไปใช้บริการหาความสุขในย่านคลองตัน
ซึ่งต่อมาในวันรุ่งขึ้น ปรากฏว่า ตนเองมีอาการป่วย และมีไข้ขึ้นสูงถึง 38 องศาเซลเซียส จึงได้เข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เพื่อรับการรักษาและตรวจพบว่าตนเองป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จึงต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ นาน 3 สัปดาห์ จนกระทั่งเพิ่งหายป่วย
แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จากการที่ตนเองต้องล้มป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 คาดว่าจะได้รับเชื้อมาจากการเข้าไปใช้บริการซาวด์น่าเกย์ จึงมีความเป็นห่วงและอยากจะแจ้งเตือนให้กลุ่มเกย์ที่นิยมเข้าไปใช้บริการในเซาน่าเกย์ระมัดระวังการติดเชื้อจากแหล่งดังกล่าว ขณะเดียวกันอยากเรียกร้องให้เจ้าของสถานประกอบการในลักษณะดังกล่าวเพิ่มมาตรการในการดูแลผู้ที่เข้าไปใช้บริการ ตลอดจนอยากให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขเข้าไปตรวจสอบและดูแลสถานประกอบการในลักษณะนี้ด้วย เพราะถือว่าเป็นจุดที่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อที่สำคัญอีกจุดหนึ่ง
ขณะที่ นายนที ธีระโรจนพงษ์ แกนนำกลุ่มเกย์การเมืองไทยและนักเคลื่อนไหวเพื่อสังคม แสดงความเห็นว่า เซาน่าเกย์ หรือสถานบริการในลักษณะเดียวกันนี้ เป็นสถานที่ที่กลุ่มเกย์มักจะเข้าไปใช้บริการกันเพื่อหาความสุข ซึ่งยอมรับว่าในสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อยู่นี้ นับเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเป็นแหล่งแพร่เชื้อที่ต้องจับตามองและเฝ้าระวังไม่น้อยไปกว่าโรงเรียนกวดวิชาหรือร้านเกม เพราะสถานที่ที่มีผู้เข้าไปใช้บริการจำนวนมากเช่นกัน
นายนที เสนอแนะว่า เจ้าของสถานประกอบการลักษณะนี้ควรจะต้องมีมาตรการในการป้องกันเฝ้าระวังการแพร่เชื้อของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นี้ ด้วยการคัดกรองผู้ที่จะเข้าไปใช้บริการ โดยเฉพาะหากพบว่ามีผู้ที่จะเข้าใช้บริการรายใดมีอาการต้องสงสัย และอาจจะมีการปิดส่วนให้บริการบางส่วนที่ล่อแหลมหรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นจุดแพร่เชื้อ พร้อมกันนี้เห็นว่าหน่วยงานสาธารณสุขควรจะเข้าไปให้การดูแลและมีมาตรการป้องกันเฝ้าระวังในสถานประกอบการลักษณะนี้ด้วย
นอกจากนี้ มองว่าหากเป็นไปได้ผู้ที่นิยมเข้าไปใช้บริการเซาน่าเกย์เป็นประจำ น่าจะหยุดเข้าไปใช้บริการสักระยะหนึ่งจนกว่าสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 จะดีขึ้น แต่หากต้องเข้าไปใช้บริการจริงๆ ก็ควรรู้ป้องกันตัวเอง