xs
xsm
sm
md
lg

สลด! พ่อเฒ่า 75 นครพนมมีอาการทางประสาทไร้เงินรักษา-ลูกหลานต้องล่ามโซ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 สภาพคุณตาโฮม บัวดา อายุ 75 ปี ชาวบ้านเมืองเก่า ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม หลังป่วยเป็นโรคอาการทางประสาท ทำให้ลูกชาย ต้องล่ามโซ่ติดกับบ้านไว้ นานเกือบ 20 ปี และปล่อยทิ้งให้อยู่กับหลานเพียงลำพัง เพราะมีฐานะยากจน ไม่มีเงินรักษา ต้องไปดิ้นรนหาเงินเลี้ยงครอบครัว เพื่อนบ้านสุดทนร้องผ่านสื่อวอนหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลช่วยเหลือ
นครพนม - อบต.ท่าค้อร้องสื่อ หลังพบคุณตาวัย 75 ปี มีอาการทางประสาท ถูกลูกชายล่ามโซ่ไว้กับบ้าน อยู่กับหลาน ป้องกันไม่ให้อาละวาดเพื่อนบ้าน เพราะฐานะยากจนไม่มีเงินรักษาให้หายขาด

นายประจิต คำพิมพ์ อายุ 34 ปี สมาชิกสภา อบต.บ้านเมืองเก่า หมู่ 2 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ร้องเรียนผู้สื่อข่าวว่า ที่หมู่บ้านของตนมีชายวัย 75 ปี อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ป่วยเป็นโรคอาการทางประสาทถูกล่ามโซ่ไว้ในบ้าน มานานเกือบ 20 ปี ซึ่งมีฐานะยากจนอาศัยอยู่กับหลาน ไม่มีเงินรักษา ชาวบ้านจึงเกิดความสลดหดหู่ ไม่มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ นำตัวไปรักษาจึงอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้อง มาตรวจสอบดูแลหาทางรักษาด้วย

ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 2 บ้านเมืองเก่า ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งสภาพเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ภายในบ้านพบนายโฮม บัวดา อายุ 75 ปี ในสภาพร่างกายซูบผอม นอนอยู่ในสภาพมีโซ่เหล็ก ยาวประมาณ 2 เมตร ล่ามติดกับบ้าน ล็อกด้วยกุญแจที่ข้อเท้าด้านซ้าย

เมื่อสอบถาม นางสาวทิพย์สุดา บัวดา อายุ 18 ปี ผู้เป็นหลานสาวอาศัยอยู่ในบ้าน เล่าว่า ตนเป็นหลานสาวของนายโฮม เกิดมาก็พบว่าคุณตามีอาการทางประสาทแล้ว โดยพ่อของตน ซึ่งเป็นลูกคนโตของคุณตา ไม่มีเงินพาไปรักษาให้หายขาด เพราะมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำเคยไปติดต่อรับยามาจากโรงพยาบาลจิตเวชนครพนม แต่ไม่หายดี เพราะไม่ได้กินยาต่อเนื่อง และไม่มีเงินไปหาหมอ ทำให้พ่อของตนต้องใช้วิธีล่ามโซ่คุณตาติดไว้กับบ้าน เพราะบางครั้งจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งโวยวาย ด่าทอคนอื่นเป็นประจำ เกรงว่าจะไปที่อื่นและทำร้ายคนสร้างความเดือดร้อนรำคาญต่อชาวบ้าน เพราะพ่อต้องไปทำงานรับจ้าง ไม่มีใครดูแล

นางสาวทิพย์สุดา กล่าวต่อว่า พอตนโตมีครอบครัว พ่อก็ไปทำงานที่อื่น เพราะต้องดิ้นรนหาเลี้ยงครอบครัว ปล่อยให้ตนดูแลต่อตามมีตามเกิดกับแฟนที่ทำงานรับจ้างรายวัน เคยร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานภาครัฐ แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ จึงอยากวอนให้ผู้ใจบุญ หรือหน่วยงานเกี่ยวข้องมาช่วยเหลือ เพราะจนปัญญาจะพาไปรักษา มีวิธีเดียวก็คือล่ามโซ่ไว้ไม่ให้ไปสร้างปัญหากับคนอื่นในหมู่บ้าน เท่านั้น

ทางด้านนายประจิต คำพิมพ์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน เล่าว่า นายโฮม บัวดา มีลูกทั้งหมด 5 คน แต่แยกย้ายไปทำงานดินรนหาเงินเลี้ยงชีพต่างถิ่นกันหมด ทิ้งให้นายโฮมอยู่กับนางสาวทิพย์สุดา บัวดาและหลานเขยที่มีอาชีพทำงานรับจ้างรายวัน ส่วนสาเหตุทราบว่า เกิดจากเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน นางสมเพศ บัวดา ขณะนั้นอายุประมาณ 55 ปี ผู้เป็นภรรยาของนายโฮมเสียชีวิต หลังจากคลอดบุตรคนที่ 5 ประมาณ 20 วัน ทำให้นายโฮมเสียใจมาก เกิดอาการเครียดและเกิดอาการทางประสาทตั้งแต่นั้นมา

อาการของนายโฮมได้รุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนลูกคนอื่นๆ ก็แยกย้ายไปมีครอบครัวและไปทำงาน เพื่อความอยู่รอด เพราะฐานะยากจน จึงทิ้งให้อยู่กับหลานสาวและหลานเขย ตามลำพัง นานๆ ครั้งลูกๆ จึงกลับมาเยี่ยม ซึ่งเพื่อนบ้านเคยพาไปติดต่อรับยาจากโรงพยาบาลจิตเวชมาให้กินก็ดีขึ้นแค่ระยะหนึ่งแล้วก็เป็นอีก

สำหรับอาการจะคลุ้มคลั่ง พูดคุยไม่รู้เรื่อง ชอบด่าทอชาวบ้าน โวยวาย พูดจาเพ้อเจ้อ คุยไม่รู้เรื่อง จนต้องใช้วิธีผูกโซ่เหล็กล่ามติดกับบ้านไว้ตลอด พอถึงเวลากินข้าวก็จะหามาให้กิน จากนั้นก็จะให้กินยาที่โรงพยาบาลจิตเวชให้มา เพื่อจะทำให้นายโฮมนอนหลับ

นายประจิต เล่าอีกว่า สำหรับการช่วยเหลือนั้น ทาง อบต.ท่าค้อก็มีแค่งบประมาณเบี้ยยังชีพคนแก่เดือนละ 500 บาท เท่านั้น เคยติดต่อไปยังหน่วยงานเกี่ยวข้องก็เคยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลจิตเวช มาดูแลให้ยามากินบรรเทาอาการ แล้วก็เงียบหายไป ตนกับคนในหมู่บ้านมีความรู้สึกหดหู่ในความเป็นอยู่ของครอบครัวดังกล่าวมานานหลายปี จนกระทั่งรู้สึกว่าอาการของนายโฮมหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงไปปรึกษากับคนในหมู่บ้านและร้องเรียนผ่านมายังสื่อมวลชน วิงวอนให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลหาทางช่วยเหลือ เนื่องจากที่ผ่านมาแจ้งไปก็ไม่มีใครมาสนใจ อีกทั้งสภาพคนที่ถูกล่ามโซ่ตนคิดว่าในสังคมไทยไม่น่าจะมีอีกแล้ว ที่สำคัญตนเชื่อว่าหากนายโฮมได้รับการรักษาที่ดีต่อเนื่องคงหายเป็นปกติได้เพราะไม่ได้เป็นแต่กำเนิด แต่หากปล่อยทิ้งไว้คงรอเพียงแค่ให้หมดลมหายใ เพราะแค่หาเงินซื้อข้าวกินก็ยังลำบาก
กำลังโหลดความคิดเห็น