กาญจนบุรี.....
แม้ช่วงนี้ฝนจะเทลงมามากขึ้น แต่สำหรับนักท่องไพรมักจะทราบกันดีว่า...นี่คือสวรรค์ที่ต้องไปสัมผัสกับธรรมชาติที่จริงของจังหวัดกาญจนบุรี ดังนั้น การผจญภัยในป่าสักครั้งหนึ่งจึงจำเป็นต้องท่องเที่ยวธรรมชาติให้สนุกเพราะไม่มีฤดูไหนจะเหมาะสมไปมากกว่าฤดูฝนอีกแล้วนี้
นายดำรัส ศุขอร่าม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี ได้ขันอาสาขอเป็นผู้นำพานักท่องไพรและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาสัมผัสกับสวรรค์แห่งนี้ และก่อนที่เราจะเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติท่านหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดต้นๆ ของประเทศไทยที่มีธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์
โดยเฉพาะป่า ภูเขา และน้ำตก จากสภาพป่าที่สมบูรณ์โดยรอบอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ครอบคลุมท้องที่อำเภอสังขละบุรี และอำเภอทองผาภูมิ กว่า 1,497 ตารางกิโลเมตร ท้องที่ดังกล่าวประกอบด้วยสัตว์ป่านานาชนิดรวมไปถึงสถานที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวศึกษาหาความรู้ ทำให้ “อุทยานแห่งชาติเขาแหลม” ได้รับการจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ 1 ใน 5 แห่ง ของโครงการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติ เพื่อการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมกล่าวต่อว่า อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติ โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 108 ตอนที่ 195 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2534 นับเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 67 ของประเทศ พื้นที่อุทยานเขาแหลมเป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาตะนาวศรีซึ่งมีเทือกเขาสลับซับซ้อน ทอดตัวตามแนวเหนือ-ใต้ มีความสูงประมาณ 100-1,700 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
ส่วนใหญ่จะเป็นหินปูน หินทราย และ หินดินดาน ยอดเขาที่สูงที่สุด คือ “เขาใหญ่ “ มีความสูงประมาณ 1,767 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ด้วยสภาพที่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน ก่อให้เกิดลำน้ำที่สำคัญหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย และอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ได้แก่ แม่น้ำรันตี ห้วยป้อมปี่ใน แม่น้ำบิคี่ใหญ่ ห้วยองค์พระ ห้วยเกรียงไกร ห้วยปิล๊อก ห้วยประจำไม้ ห้วยลึก ห้วยน้ำซับ ห้วยแก่งคะยือ ห้วยป่าตอง ห้วยซองกะเลีย ห้วยติพิ ห้วยทิม่องทะ ห้วยวังขยาย ห้วยช่องแคบ ห้วยท่ามะเดื่อ ห้วยน้ำมุด ห้วยเกริงกะเวีย เป็นต้น
ส่วนที่เป็นพื้นน้ำของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเขาแหลม ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้สร้างขึ้น ในปี 2522 และได้กักเก็บน้ำเป็นครั้งแรก ในปี 2527 โดยกักเก็บน้ำในระดับปกติ 155 เมตร และสูงสุด 160.5 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง คิดเป็นพื้นที่ผิวน้ำ ประมาณ 388 ตารางกิโลเมตร หรือร้อยละ 25.92 ของพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม
สภาพโดยทั่วไปของป่าบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีสภาพเป็นป่าเบญจพรรณ มีไม้ชนิดต่างๆ ขึ้นอย่างหนาแน่น มีเรือนยอดทึบ บางบริเวณพื้นที่มีความชื้นสูง เช่น บริเวณริมลำห้วย หรือตามร่องห้วย จะมีต้นไม้ขึ้นหนาแน่นเป็นพิเศษ มีสภาพคล้ายป่าดงดิบ พื้นที่ป่าส่วนมากอยู่บริเวณทิศตะวันออก และทิศตะวันตกของอุทยานแห่งชาติ ชนิดไม้ที่พบ ได้แก่ อินทรชิต แคยอดดำ แดง สมอพิเภก สะทิบ กาสามปีก เปล้าใหญ่ ลาย หว้า ลูกดิ่ง พืชพื้นล่าง ได้แก่ ลูกไม้ของไม้ชั้นบน เต่าร้าง เข็มป่า ชะอม เหมือดโลด เป็นต้น นอกจากพื้นที่ป่าเบญจพรรณแล้ว ยังมีพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ซึ่งจะรวมถึงพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทำลายเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ดังกล่าวอยู่รอบๆ อ่างเก็บน้ำ ทางตะวันออกของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และบริเวณแนวเขตทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติ พื้นที่ป่าเสื่อมโทรมเป็นพื้นที่ที่ถูกราษฎรบุกรุกแผ้วถาง ภายหลังปล่อยทิ้งไว้ให้รกร้าง มีหญ้า ลูกไม้ต่างๆ และ ไผ่ขึ้นทดแทน ชนิดไม้ที่พบ เช่น เปล้าใหญ่ หว้า อุโลก คอแลน อย่างนี้เป็นต้น
ส่วนสัตว์ป่าที่อาศัยร่วมกันในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีไม่น้อยกว่า 268 ชนิด พบโดยทั่วไป ได้แก่ เก้ง ชะนีมือขาว อีเห็นธรรมดา นากเล็กเล็บสั้น พญากระรอกดำ กระรอกปลายหางดำ กระจ้อน ค้างคาวขอบหูขาวกลาง ค้างคาวหน้ายาวใหญ่ ค้างคาวเล็บกุด นกจาบดินอกลาย นกกะรางหัวหงอก นกเสือแมลงหัวขาว
นกปรอดเหลืองหัวจุก นกปรอดคอลาย นกปรอดดำ นกหัวขวานสี่นิ้วหลังทอง นกหัวขวานเขียวป่าไผ่ นกหัวขวานแคระจุดรูปหัวใจ เหยี่ยวแมลงปอขาแดง นกบั้งรอกแดง นกขุนแผนหัวแดง นกโพระดกคางแดง จิ้งเหลนหลากหลาย จิ้งเหลนภูเขาเกล็ดเรียบ กิ้งก่าบินปีกสีส้ม กิ้งก่าหัวแดง กิ้งก่าแก้ว ตุ๊กแกบ้าน
งูสามเหลี่ยม งูลายสาบคอแดง เขียดจิก กบอ่อง กบหนอง ปาดจิ๋วลายเลอะ ปาดตีนเหลือง ปาดจิ๋วลายแถบ คางคกบ้าน อึ่งอ่างบ้าน อึ่งข้างดำ อึ่งหลังจุด และ อึ่งน้ำเต้า ส่วนในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม และลำธารต่างๆ มีปลาน้ำจืดอาศัยอยู่หลากหลายชนิด เช่น ปลาสลาด ปลาแปบขาว ปลาซิวหางกรรไกร ปลาสร้อยขาว ปลาไส้ตันตาแดง ปลากระทุงเหว ปลาชะโด ปลาตะเพียนสมพงษ์ ปลาจิ้งจอก ปลาค้อ ปลาอาด ปลาแขยงหิน และปลากด
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม กล่าวอีกว่า อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ รวมทั้งกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ให้สำหรับนักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายอยู่มากมาย เริ่มกันที่ “จุดชมวิว” มีให้เลือกอยู่ 2 แห่ง ได้แก่ จุดชมทิวทัศน์ป้อมปี่ ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณนอกจากนี้ ยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมความงามของพระอาทิตย์ตกในยามเย็นได้อีกด้วย
จุดชมวิวเขาใหญ่ เป็นยอดเขาสูงประมาณ 1,450 เมตร จากระดับน้ำทะเล เหมาะสำหรับเป็นพื้นที่กางเต็นท์พักแรม เพื่อชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถชมภาพทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ที่เมื่อต้องแสงอาทิตย์จะแปรเปลี่ยนเป็นสีทองอย่างสวยงาม อีกทั้งยังสามารถชมทัศนียภาพของและอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ และชมพระอาทิตย์ตกได้เช่นกัน ที่น่าสนใจ ณ บริเวณนี้ ยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ในรูปแบบของการผจญภัย โดยจัดเป็นทริปสั้นๆ ใช้ระยะเวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน
ส่วนใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาดูสถานที่สำคัญ และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอื่นๆ แนะนำให้มากันที่ “สะพานมอญ” เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศ ซึ่งมีความยาวประมาณ 850 เมตร สร้างโดยแรงศรัทธาจากชาวมอญ หรือใครที่ชื่นชอบการผจญภัยลองมา “ถ้ำเกริงกระเวีย” ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของบ้านเกริงกะเวีย มีหินงอก-หินย้อย และธารน้ำไหลผ่าน ภายในถ้ำสวยงามมาก มีความลึกประมาณ 300-400 เมตร อยู่ห่างจาก อำเภอทองผาภูมิ 40 กิโลเมตร ทั้งนี้ ใกล้ๆ กันยังสามารถเยี่ยมชมน้ำตกเกริงกระเวีย บึงเกริงกระเวีย และอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณได้อีกด้วย
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม กล่าวท้ายสุดว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบท่องเที่ยวแนวประวัติศาสตร์และโบราณคดี ขอบอกว่า ยิ่งพลาดไม่ได้ใหญ่กับ 2 สถานที่สำคัญนั้นก็คือ แห่งแรก “เจดีย์โบอ่อง” เจดีย์โบราณแบบพม่า สร้างบนยอดเขาหินปูนที่มีบ่อน้ำล้อมรอบ เจดีย์สูง 6 เมตร ฐานกว้างประมาณ 3x3 เมตร บริเวณบ่อน้ำมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดอยู่ที่นักท่องเที่ยวที่เป็นผู้หญิงห้ามขึ้นไป เนื่องจากเป็นความเชื่อของชาวบ้านว่า จะทำให้บ่อน้ำแห้งขอด และอาจมีภัยอันตรายแก่ตัวเองได้ แห่งที่สองคือ “เมืองบาดาล” สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 1 ในอันซีนของไทย เป็นเมืองเก่าแก่ สวยงาม ที่จมอยู่ใต้น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ ผู้สนใจต้องนั่งเรือเขาไปชม
นายดำรัส ศุขอร่าม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี กล่าวทิ้งท้ายก่อนที่จะพานักท่องเที่ยวไปสัมผัสธรรมชาติ ว่า ความหัศจรรย์ของธรรมชาติ และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่ยืนหยัดมาเนิ่นนานก่อนได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาตินี้ ... ยังมีอีกหลายๆ สิ่งที่รอให้นักผจญและนักท่องเที่ยวไปค้นหาและสัมผัสด้วยตนเอง โดยท่านสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โทรศัพท์ 0-3453-2099, 0-6131-3443 ตลอดเวลา