ศูนย์ข่าวศรีราชา- เรืออวนลากคู่ขนาดใหญ่ ลากอวนในทะเลย่านตู้คอนเทเนอร์ผีหลอก เจอเรือสินค้าพุ่งชนกลางลำพลิกคว่ำอับปาง ไต๋ จุมโพ่ ลูกเรือ 11 คน ลอยคอรอดชีวิต 5 คน เสียชีวิต 1 ลูกเรืออีก 5 คาดถูกอวนคลุมจมลงทะเลหายสาบสูญ ค่าเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
วันนี้( 21 มิ.ย. 2552) นายเกียรติพงษ์ ปานสง่า อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/10 หมู่ที่ 5 ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา ไต๋เรือประมงชื่อ แสงเจริญการประมง 10 ขนาดความยาว 10 วา 2 ศอก สีเขียว ได้พาลูกเรืออีก 5 คน ที่รอดชีวิตจากการถูกเรือสินค้าชนอับปางกลางทะเล และผู้เสียชีวิตอีก 1 ศพ มากับเรือแสงเจริญชัยการประมง 11 มาขึ้นที่ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบมาตรวจสอบผู้เสียชีวิตภายในเรือ และส่งศพชันสูตร ณ โรงพยาบาลสัตหีบ กิโล 10 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ
นายเกียรติพงษ์ ปานสง่า ไต๋เรือ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 21 มิถุนายน ได้ลากอวนคู่กับเรือลำที่ 11 บริเวณพิกัด แลตติจูด 11 องศา 25 ลิปดา เหนือ ลองจิจูด 100 องศา 51 ลิปดา ตะวันออก ห่างจากเกาะจวงทางด้านทิศใต้ ประมาณ 15 ไมล์ทะเล ซึ่งใกล้เคียงกับตู้คอนเทเนอร์ผีหลอก หรือตู้คอนเทเนอร์ปริศนาที่กำลังตรวจสอบในขณะนี้
ขณะที่กู้อวนขึ้นมาบนเรือและเลือกปลาทะเล กุ้ง หมึก ปลา หอย ลงบรรจุห้องแช่น้ำแข็ง ได้มีเรือสินค้าชื่อ จุฑาปัทมา ซึ่งเป็นเรือสินค้าขนาดใหญ่ พุ่งชนกลางลำ ลูกเรือที่กำลังเลือกปลากระเด็นตกน้ำไปคนละทิศละทาง พบลูกเรือชื่อ นายพร (ชาวพม่า) อายุ 26 ปี ติดอวนเสียชีวิต 1 ราย ส่วนลูกเรืออีก 5 คน จมหายไปสันนิษฐานว่าอาจถูกอวนคลุมจมลงใต้ทะเล ส่วนตัวเอง จุมโพ่ และลูกเรืออีก 4 คน ไม่ถูกอวนคลุมสามารถว่ายน้ำลอยตัวอยู่ในทะเลได้ เพียงไม่นานได้มีเรืออวนลากลำที่ 11 ที่ลากคู่กันวิ่งเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน
นายเกียรติพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับลูกเรือที่ รอดชีวิตมี นายสาโรจน์ ปานสง่า อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 217/10 หมู่ที่ 5 ตำบลกระโสม อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา นายวิชัย (ชาวพม่า) อายุ 34 ปี หัวหน้าคนงาน นายอัง (ชาวพม่า) อายุ 21 ปี และ นายวิน (ชาวพม่า) จุมโพ่ประกอบอาหารภายในเรือ ส่วนลูกเรือที่สูญหาย จำนวน 5 คน มี นายดำ นายเล็ก นายโล้น นายแขก นายยาว ทั้งหมดเป็นชาวพม่า ที่ทำงานอยู่บริเวณหัวเรือและว่ายได้ไม่คอยแข็งมากนัก
ทั้งนี้ คาดว่าขณะที่เรือพลิกคว่ำอวนที่กองอยู่ในเรือ อาจตกลงไปคลุมตัวจมลงใต้ทะเลทั้งหมด ซึ่งจำได้ว่าเรือสินค้าที่พุ่งชนเป็นเรือขนาดใหญ่ เมื่อชนแล้วได้ปิดไฟตลอดทั้งลำ วิ่งหนีมุ่งหน้าไปทางด้านปากอ่าวไทย จึงได้ประสานงานกับเรือประมงลำอื่น ๆ ที่อยู่ในทะเลตามทิศทางที่เรือมุ่งหน้าหนี และสามารถติดตามพบเรือเข้าเทียบที่ท่าเรือสมุทรปราการ จึงได้แจ้งความไว้กับ ร้อยตำรวจเรวัฒ พิศโสระ ร้อยเวรสถานีตำรวจภูธรสัตหีบ ทราบ เพื่อดำเนินคดีต่อไป ค่าเสียหายประมาณ 10 ล้านบาท