แฉนายทุนสีเขียวแอบตัดไม้สักกลางป่าใหญ่ใน “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ”

กาญจนบุรี - ผญบ.ในตำบลไทรโยค กาญจนบุรี ใจถึง นำข้อมูลร้องสื่อแฉนายทุนสีเขียว แอบตัดไม้สักกลางป่าใหญ่ใน “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี”

เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (18 มิ.ย.) นายพันงาม สะอาดชื่น อายุ 44 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านแก่งประลอม ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางมาร้องเรียนสื่อมวลชน พร้อมกับมอบรูปถ่ายการตัดไม้ โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน เวลา 10.30 น.ตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านบ้านแก่งประลอม ว่า ได้มีนายทุนแอบลักลอบเข้าไปตัดไม้สักในพื้นที่ของ “โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เป็นจำนวนมาก

หลังจากที่ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านตนพร้อมลูกบ้าน 5 คน ได้ออกเดินทางไปทำการตรวจสอบยังพื้นที่ที่ได้รับการร้องเรียนทันที และเมื่อตนเดินทางไปถึงที่บริเวณดังกล่าวพบว่า ไม้สักขนาดใหญ่จำนวน 2 ต้น ถูกโค่นล้มลงมา ซึ่งไม้สักที่ถูกโค่นล้มได้ถูกตัดออกเป็นท่อนๆมีขนาดความยาวของแต่ละท่อนประมาณ ท่อนละ 3 เมตร ไม้สัก 1 ต้น ตัดเป็นท่อนๆ ได้ 8 ท่อน

นายพันงาม กล่าวต่อว่า จากนั้นตนได้สอบถามลูกบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงทราบว่า ผู้ที่ทำการลักลอบตัดไม้สักในครั้งนี้ คือ “ผู้กองช้าง” ซึ่งเป็นนายทหารสังกัดหน่วยทหารกองการเกษตรและสหกรณ์ สน.ทหารพัฒนาหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาฯ (โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช) ตนจึงได้แจ้งให้หน่วยงานต่างๆ ที่กำกับดูแลทำการตรวจสอบริเวณที่ตัดต้นไม้ดังกล่าว แต่ไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปทำการตรวจสอบ ตนจึงได้ไปแจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ กจ.1 ทราบ

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ได้รับแจ้ง จึงเดินทางเข้าไปทำการตรวจสอบและตรวจยึดไม้สักทั้ง 16 ท่อนทันที

ผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว เผยต่ออีกว่า การลักลอบตัดไม้สักครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาบ่อยและได้ทำการตัดไม้ไปแล้วนับ 100 ยก ไม่ทราบว่าทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงไม่กล้าดำเนินการตามกฎหมาย ตนจึงขอฝากเรื่องนี้กับสื่อมวลชนจังหวัดกาญจนบุรี ช่วยลงไปทำการตรวจสอบการตัดไม้ทำลายป่าในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วย

พร้อมกันนี้ นายพันงาม สะอาดชื่น ผู้ใหญ่บ้านได้มอบภาพถ่ายการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ดังกล่าวให้กับสื่อมวลชน เพื่อไว้ทำการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงดังกล่าว

มีรายงานว่า พื้นที่ดังกล่าวนี้มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 1,400 ไร่ ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนมีนักธุรกิจจากกรุงเทพฯได้มากว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านเพื่อที่จะทำการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ระดับ 5 ดาว

ต่อมา พล.ต.ต.ฉลอง สมใจ รอง.ผบช.ภ.7 ในขณะนั้น ได้ทำการตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐพบว่า ที่ดินทั้งหมด 1,400 ไร่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พล.ต.ต.ฉลอง สมใจ จึงได้แจ้งความที่ สภ.ไทรโยค ให้ดำเนินคดีกับนักธุรกิจคนดังกล่าว ในข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐ

ต่อมานักธุรกิจคนดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค และให้การกับพนักงานสอบสวนว่า ได้ซื้อที่ดินมาจากชาวบ้านด้วยความบริสุทธิ์ใจโดยไม่รู้ว่าเป็นที่ดินของรัฐ จากนั้นจึงได้มอบที่ดินผืนนี้คืนให้กับรัฐโดยไม่เรียกร้องใดๆ ทั้งสิ้น