ตราด - ผู้ว่าฯ ตราดประกาศเอาจริงจับนายทุนทำลายป่าเกาะช้าง พร้อมจับติดคุกแน่หากมีหลักฐาน ระบุท้องถิ่น กำนัน ผญบ.ต้องร่วมแก้ไข เปิดช่องทางร้องเรียน ป่าเกาะช้างถูกทำกว่า 100 ไร่
นายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการ จังหวัดตราด เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากส่วนราชการที่เกี่ยว ข้องทราบว่าป่าไม้ใน จ.ตราด โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เกาะช้าง อ.เกาะกูด และใน อ.บ่อไร่ ที่ยังคงมีป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ ปรากฏว่าในขณะนี้มีกลุ่มนายทุนเข้ามาบุกรุกแผ้วถางหลายแปลง
ล่าสุดที่ได้รับรายงานจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด พบว่า ใน อ.เกาะช้าง มีพื้นที่ป่าถูกบุกรุกทำลายไปแล้ว กว่า 100 ไร่ โดยเฉพาะในแปลงพื้นที่บ้านคลองเทียนที่มีการบุกรุกถึง 85 ไร่ ซึ่งการทำลายที่มีนับเกือบ 100 ไร่นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้ อย่างน้อยผู้ปกครองท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องรู้บ้าง หรือชาว บ้านก็ต้องรู้ แต่ไม่กล้าบอกให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรับรู้ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของเจ้าของที่ดินที่บุกรุกจึงไม่กล้า บอกใคร ทำให้ป่าไม้ถูกทำลายจนได้รับความเสียหาย
“ผมขอประกาศว่า หากใครที่สามารถนำหลักฐาน เพื่อเอาผิดนายทุนบุกรุกที่ดินป่าของ อ.เกาะช้างมาให้ ผมได้ ผมพร้อมจะจับนายทุนมาดำเนินคดีและจับติดคุกไม่ว่าจะเป็นใคร ส่วนใครจะแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน ขอให้ส่งมาได้ที่ จ.ตราด หากลงชื่อจริงก็พร้อมจะปกปิดให้เพื่อรักษาให้เป็นความลับ ผมพร้อมที่จะดำเนินการให้ แต่หากใครหรือข้าราชการใดไปร่วมมือกับนายทุนก็ให้ระวังไว้ เพราะอยู่ไม่เป็นสุขแน่แม้จะเกษียณอายุไปแล้ว”
ขณะที่ พล.ร.ต.สุธีร์ เสถียรไทย รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหาก็คือการไม่มีผู้ให้ข่าว กับทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพราะเกรงกลัวอิทธิพลเพราะชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ ทางที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันปัญหาไม่ให้ เกิดขึ้น ซึ่งจังหวัดควรจะมีการจัดอบรมชาวบ้านเพื่อให้เป็นผู้รายงานปัญหากับทางราชการจะเป็นเรื่องที่ดี และอยากจะให้ดำเนินการโดยเร็วด้วย เพราะไม่เช่นั้นป่าไม้บนเกาะช้างจะไม่เหลืออะไรเลย
นายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการ จังหวัดตราด เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากส่วนราชการที่เกี่ยว ข้องทราบว่าป่าไม้ใน จ.ตราด โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เกาะช้าง อ.เกาะกูด และใน อ.บ่อไร่ ที่ยังคงมีป่าไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ ปรากฏว่าในขณะนี้มีกลุ่มนายทุนเข้ามาบุกรุกแผ้วถางหลายแปลง
ล่าสุดที่ได้รับรายงานจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ตราด พบว่า ใน อ.เกาะช้าง มีพื้นที่ป่าถูกบุกรุกทำลายไปแล้ว กว่า 100 ไร่ โดยเฉพาะในแปลงพื้นที่บ้านคลองเทียนที่มีการบุกรุกถึง 85 ไร่ ซึ่งการทำลายที่มีนับเกือบ 100 ไร่นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้ อย่างน้อยผู้ปกครองท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะต้องรู้บ้าง หรือชาว บ้านก็ต้องรู้ แต่ไม่กล้าบอกให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรับรู้ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของเจ้าของที่ดินที่บุกรุกจึงไม่กล้า บอกใคร ทำให้ป่าไม้ถูกทำลายจนได้รับความเสียหาย
“ผมขอประกาศว่า หากใครที่สามารถนำหลักฐาน เพื่อเอาผิดนายทุนบุกรุกที่ดินป่าของ อ.เกาะช้างมาให้ ผมได้ ผมพร้อมจะจับนายทุนมาดำเนินคดีและจับติดคุกไม่ว่าจะเป็นใคร ส่วนใครจะแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียน ขอให้ส่งมาได้ที่ จ.ตราด หากลงชื่อจริงก็พร้อมจะปกปิดให้เพื่อรักษาให้เป็นความลับ ผมพร้อมที่จะดำเนินการให้ แต่หากใครหรือข้าราชการใดไปร่วมมือกับนายทุนก็ให้ระวังไว้ เพราะอยู่ไม่เป็นสุขแน่แม้จะเกษียณอายุไปแล้ว”
ขณะที่ พล.ร.ต.สุธีร์ เสถียรไทย รองผู้อำนวยการ กอ.รมน.จ.ตราด กล่าวว่า ปัญหาก็คือการไม่มีผู้ให้ข่าว กับทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพราะเกรงกลัวอิทธิพลเพราะชาวบ้านอยู่ในพื้นที่ ทางที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันปัญหาไม่ให้ เกิดขึ้น ซึ่งจังหวัดควรจะมีการจัดอบรมชาวบ้านเพื่อให้เป็นผู้รายงานปัญหากับทางราชการจะเป็นเรื่องที่ดี และอยากจะให้ดำเนินการโดยเร็วด้วย เพราะไม่เช่นั้นป่าไม้บนเกาะช้างจะไม่เหลืออะไรเลย
