ตาก - SPDC บุกยึดที่มั่นกองพันรบพิเศษที่ 201 ของ KNU พร้อมเผาค่ายทิ้งทั้งหมด
รายงานข่าวจากชายแดนจังหวัดตาก แจ้งถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ว่า เย็นวานนี้ (14 มิ.ย.) กองทัพรัฐบาลทหารพม่า SPDC ได้บุกโจมตีและยึดฐานที่มั่นของฝ่าย KNU กองพันรบพิเศษที่ 201 ซึ่งถือว่าเป็นกองพันที่รบที่สำคัญของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (กะเหรี่ยงคริสต์) ตรงข้ามบ้านสลิดหลวง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง
โดยก่อนหน้านี้ทหารพม่าและกองกำลังแนวร่วม DKBA (กะเหรี่ยงพุทธ) ได้ปะทะกับ KNU นานนับชั่วโมง จนฝ่าย KNUต้องถอยและถอนกำลังออกจากฐานปฏิบัติการ 201 จากนั้นทหารพม่า ได้ยึดสิ่งของบางอย่างและเผาทำลายค่ายทั้งหมด เช่น โรงครัว เรือนนอน เรือนพยาบาล บ้านพักนายทหาร สถานที่ประชุมวางแผนงานของฝ่ายกะเหรี่ยงคริสต์ทั้งหมด ซึ่งยังมีการยึดอาวุธยุทโธปกรณ์บางรายการอีกด้วย
นอกจากนี้ ทหาร SPDC ที่อยู่ตรงข้ามบ้านหนองบัว หมู่ที่ 6 ตำบลแม่สอด ยังได้ยิงอาวุธปืนหนัก ทั้งปืนใหญ่ 105 และ ปืนค. 60 ไปยังค่ายเลอเบอแฮ ตรงข้ามบ้านแม่พลู ตำบลแม่สอง แต่ไม่มีกระสุนอาวุธหนักล้ำเข้ามาตกในเขตไทย
ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้จัดกำลังตรึงแนวชายแดนเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังต่างชาติ ยกเว้นกรณีผู้อพยพที่ไทยต้องให้การช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารกะเหรี่ยงคริสต์ KNU ได้ถอนกำลังออกจากฐานปฎิบัติการ 201 และหนีลงเรือล่องแม่น้ำเมยขึ้นไปทางเหนือเพื่อไปสมทบกับกองกำลังอีกชุดปฎิบัติการที่ไปตั้งฐานที่มั่นแห่งใหม่ บริเวณแม่สามแลบและบ้านสบเมย จุดที่แม่น้ำเมยไหลไปรวมกับแม่น้ำสาละวิน เพื่อรวบรวมกำลังใหม่และหันกลับมาสู้กับทหารพม่าต่อไป ซึ่งจะทำให้การรบยืดเยื้อ ทหารพม่าจะไม่สามารถปราบปราม KNU ได้อย่างเบ็ดเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพราะ KNU ได้เปลี่ยนยุทธวิธีเป็นสงครามกองโจร ด้วยการกระจายกำลังรบเป็นหน่วยย่อย 10-15 นาย ต่อ 1 กองจรยุทธ์ ยากต่อการปราบปราม
รายงานข่าวจากชายแดนจังหวัดตาก แจ้งถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-พม่า ด้านตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ว่า เย็นวานนี้ (14 มิ.ย.) กองทัพรัฐบาลทหารพม่า SPDC ได้บุกโจมตีและยึดฐานที่มั่นของฝ่าย KNU กองพันรบพิเศษที่ 201 ซึ่งถือว่าเป็นกองพันที่รบที่สำคัญของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (กะเหรี่ยงคริสต์) ตรงข้ามบ้านสลิดหลวง หมู่ที่ 2 ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง
โดยก่อนหน้านี้ทหารพม่าและกองกำลังแนวร่วม DKBA (กะเหรี่ยงพุทธ) ได้ปะทะกับ KNU นานนับชั่วโมง จนฝ่าย KNUต้องถอยและถอนกำลังออกจากฐานปฏิบัติการ 201 จากนั้นทหารพม่า ได้ยึดสิ่งของบางอย่างและเผาทำลายค่ายทั้งหมด เช่น โรงครัว เรือนนอน เรือนพยาบาล บ้านพักนายทหาร สถานที่ประชุมวางแผนงานของฝ่ายกะเหรี่ยงคริสต์ทั้งหมด ซึ่งยังมีการยึดอาวุธยุทโธปกรณ์บางรายการอีกด้วย
นอกจากนี้ ทหาร SPDC ที่อยู่ตรงข้ามบ้านหนองบัว หมู่ที่ 6 ตำบลแม่สอด ยังได้ยิงอาวุธปืนหนัก ทั้งปืนใหญ่ 105 และ ปืนค. 60 ไปยังค่ายเลอเบอแฮ ตรงข้ามบ้านแม่พลู ตำบลแม่สอง แต่ไม่มีกระสุนอาวุธหนักล้ำเข้ามาตกในเขตไทย
ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 35 ได้จัดกำลังตรึงแนวชายแดนเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังต่างชาติ ยกเว้นกรณีผู้อพยพที่ไทยต้องให้การช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน
รายงานข่าวแจ้งว่า ทหารกะเหรี่ยงคริสต์ KNU ได้ถอนกำลังออกจากฐานปฎิบัติการ 201 และหนีลงเรือล่องแม่น้ำเมยขึ้นไปทางเหนือเพื่อไปสมทบกับกองกำลังอีกชุดปฎิบัติการที่ไปตั้งฐานที่มั่นแห่งใหม่ บริเวณแม่สามแลบและบ้านสบเมย จุดที่แม่น้ำเมยไหลไปรวมกับแม่น้ำสาละวิน เพื่อรวบรวมกำลังใหม่และหันกลับมาสู้กับทหารพม่าต่อไป ซึ่งจะทำให้การรบยืดเยื้อ ทหารพม่าจะไม่สามารถปราบปราม KNU ได้อย่างเบ็ดเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เพราะ KNU ได้เปลี่ยนยุทธวิธีเป็นสงครามกองโจร ด้วยการกระจายกำลังรบเป็นหน่วยย่อย 10-15 นาย ต่อ 1 กองจรยุทธ์ ยากต่อการปราบปราม
