ศูนย์ข่าวศรีราชา - ได้ฤกษ์รอบสอง ทัพเรือภาคที่ 1 ส่งนักประดาน้ำ ชุดถอดทำลายอมภัณฑ์ กรมสรรพาวุธทหารเรือ ลงสำรวจตู้คอนเทนเนอร์ สุสานทะเลไทย แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ลงประชาคมชาวบ้านช่องแสมสาร หาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกัน หลังมีกระแสต่อต้าน หวั่นเป็นมวยล้ม การทำงานล่าช้าไม่ต่อเนื่อง ติวเข้มนักประดาน้ำชุดสำรวจหวั่นพบธาตุกัมมันตภาพรังสี
จากกรณีที่ได้มีชาวประมงพบสุสานกะโหลกมนุษย์ในทะเลอ่าวไทย และพบตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 8 ตู้ ถูกปิดสนิทจมอยู่ในทะเลหลายจุด ในระดับน้ำลึก 25, 30 และ 50 เมตร จุดแรก ในล่องน้ำทะเลเส้นทางเดินเรือสินค้าระหว่างเกาะไผ่ กับเกาะคราม จุดที่ 2 ห่างจากเกาะจวงไปทางด้านทิศใต้ประมาณ 30 ไมล์ทะเล และจุดที่ 3 ทางด้านทิศตะวันออกของเกาะจาน อ่าวแสมสาร พิกัดละติจูด 29 องศา 04 ลิปดา และลองจิจูด 30 องศา 05 ลิปดา
โดยบริเวณใกล้เคียงแต่ละจุดเคยมีเรือประมงอวนลากพบหัวกะโหลกติดอวนมาแล้วจำนวนมาก แม้แต่เรือวางเบ็ดราวก็ยังพบกะโหลกติดเบ็ดขึ้นมา ซึ่งจาการตรวจพิสูจน์ของกองทัพเรือพบว่าเป็นเรื่องจริงและแปลกอย่างมาก จนพวกเรือประมงเรียกวันว่าสุสานในทะเลแต่ไม่มีใครทราบที่มาที่ไปของกะโหลกมนุษย์แต่อย่างใด เพียงแต่สงสัยวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆ นานาว่า ที่มาของกะโหลกน่าจะมีคนนำศพจำนวนมากใส่ตู้คอนเทนเนอร์ แล้วบรรทุกใส่เรือนมาโยนทิ้งปิดบังอำพรางอย่างแน่นอน
ต่อมา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกับทัพเรือภาคที่ 1 ทำการสำรวจพบตู้คอนเทนเนอร์จริงตามข่าว และพบตู้คอนเทนเนอร์จริงเพียง 1 ตู้ ส่วนอีก 7 ตู้อย่างต่ำยังอยู่ในทะเล
ล่าสุด วันนี้ (10 มิ.ย.) พล.ร.ท.ชัยวัฒน์ พุกกะรัตน์ ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ได้แต่งตั้งให้ พล.ร.ต.ทวีป สุขพินิจ เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 1 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานทั้งบนบกและใต้น้ำ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจใต้น้ำในครั้งนี้ ต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากที่สุดเพราะไม่ทราบว่าภายในตู้มีอะไรอยู่ ถ้าเป็นธาตุกัมมันตภาพรังสี (หมายถึงสภาพการแผ่รังสีของธาตุหนึ่งๆ ที่ไม่เสถียร) ด้วยความระมัดระวัง ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ โดยเฉพาะแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมควบคุมมลพิษ ในการตรวจพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ให้เสร็จภารกิจ โดยรัฐบาลได้อนุมัติให้ประมาณ 8 ล้านบาท ในการดำเนินการ
พล.ร.ต.ทวีป หัวหน้าคณะทำงานกู้ตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า ทัพเรือภาคที่ 1 ได้รับมอบหมายจาก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้ดำเนินการสำรวจและกู้ตู้คอนเทนเนอร์ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว มีเรือหลวงแกลง สำหรับการเดินทางของผู้บังคับบัญชา สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เรือหลวงตะลิบง เป็นเรือระบายพลขนาดใหญ่ นำนักประดาน้ำ อุปกรณ์ และเครื่องมือในการสำรวจตู้คอนเทเนอร์ และนักดำน้ำอิสระที่ร่วมดำด้วย ซึ่งจะต้องวางแผนร่วมกันอีกครั้งหนึ่งก่อนลงดำน้ำสำรวจ และหาทางพิสูจน์ทราบว่าภายในตู้มีอะไรอยู่ ถ้าพบว่ามีสารหรือสิ่งปฏิกูลก็ต้องให้นักดำน้ำทั้งหมดจบภารกิจการดำน้ำทันทีในขณะนั้น เพราะไม่ทราบว่าจะเป็นสารพิษหรือกัมมันตภาพรังสีหรือไม่
พล.ร.ต.ทวีป กล่าวอีกว่า ในวันที่ 11 มิถุนายน 2552 แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์จะลงพื้นที่ไปร่วมฟังบรรยายสรุปการวางแผนสำรวจใต้ทะเลกับกองทัพเรือ หลังจากนั้นจะขอพบกับประชาชนผู้ประกอบการประมงในหมู่บ้านช่องแสมสาร เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น แนวทางการปฏิบัติ และขอคำแนะนำจากประชาชนที่พอทราบเรื่องตู้คอนเทนเนอร์ เพราะชาวประมงพบตู้คอนเทนเนอร์มานานตั้งแต่ พ.ศ.2536 ต้นปี ซึ่งอาจจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม สะดวกต่อการปฏิบัติภารกิจใต้น้ำ เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าภายในตู้มีอะไรอยู่ ตามกระแสข่าวถ้าเป็นของดี ของมีค่า คงไม่มีใครนำมาทิ้งในทะเลอย่างแน่นอน และทุกฝ่ายเกรงว่าอาจจะเป็นสารพิษ หรือธาตุอันตราย จึงจำเป็นอย่างยิ่งในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยของชุดปฏิบัติงานใต้น้ำ
โดยในวันนี้จะมีการทดลองเครื่องมือในการตรวจธาตุกัมมันตภาพรังสีมาทดลองใช้ก่อนว่าจะได้ผลมากเพียงใด เพราะเคยใช้แต่บนบก ส่วนวันที่ 11 มิ.ย. จะต้องเดินทางไปพิสูจน์ต่อไป
ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า สำหรับการออกสำรวจ ตรวจพิสูจน์ตู้คอนเทนเนอร์ครั้งนี้ เป็นการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ลงไปสำรวจตู้แรกที่เคยพบ มีรายงานว่าตู้นี้มีช่องสามารถนำกล้องส่องเข้าไปดูภายใต้ได้ ส่วนตู้ที่เหลือ ขณะนี้ได้วางแผนด้วยการนำเรือบางระจัน และเรือพฤหัส ของกรมอุกทกศาสตร์ และต้องใช้เรือกวาดทุ่นระเบิดออกมาสำรวจพิกัดให้แน่นอนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ถือว่ามีอุปสรรคในเรื่องของกระแสคลื่น และลม อย่างมาก จะดำเนินการอย่างสุดความสามารถ ในบรรทัดฐานของความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ทุกเรื่อง โดยเฉพาะนักประดาน้ำที่ต้องมีอัตราเสี่ยงสูงถ้าเป็นสารพิษ หรือธาตุอันตราย
