ตราด - “ธีระ สลักเพชร” สนับสนุนรัฐบาลประกันราคาผลผลิตเกษตรกรรม ระบุ รัฐสูญงบประมาณสูงหากเข้ารับจำนำ, แทรกแซงราคา ชี้ สร้างวัฒนธรรมแบมือขอ เผยไม่กลัวตำแหน่งหลุด ระบุ “นายกฯ, สุเทพ” หนุน ชี้ ผลงานมาก
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ส.ส.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่ เดินทางมาติดตามผลการแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ ในจันทบุรี-ตราด หลังรัฐบาลโดย คชก.ได้ให้งบประมาณจำนวน 36 ล้าน มาแก้ไขปัญหาโดยการรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาด การกระจายผลผลิตออกสู่แหล่งผลิต แต่ปรากฏว่า การแก้ไขปัญหาก็ยังไม่เกิดผลมากนัก ราคาไม่ขยับ เงินงบประมาณยังไม่ลงสู่พื้นที่ ทำให้ราคาผลไม้ตกต่ำลงไป อีกโดยเฉพาะเงาะจากที่เกษตรกรต้องการ 10 บาท/กก.ก็เหลือเพียง 8 บาท /กก.และมีแนวโน้มลดลงอีก
“ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินงบประมาณไปรับจำนำหรือแทรกแซงราคาเพราะไม่เกิดผลเท่าใด อีกทั้งยังเป็นการทำลายระบบตลาด อีกทั้งรัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณไปโดยไม่คุ้มค่า ต้องยอมรับว่าเงินที่ใช้ไปเป็น เงินภาษีอากรที่ได้จากประชาชน ประชาชนควรจะได้ประโยชน์จากเงินภาษีอากรอย่างทั่วถึงไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่ม เกษตรกรเท่านั้น อีกทั้งการช่วยลักษณะนี้ เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ถูกต้อง เป็นวัฒนธรรมแบมือขอเงินอย่างเดียวไม่คิดที่จะแก้ไขในรูปแบบอื่น ทุกปีก็ต้องแบมือขอ ผมขอให้รัฐบาลใช้วิธีประกันราคาพืชผลทางการเกษตร จะเกิดผลดี เกษตรกรก็จะใช้วิธีการพัฒนาผลผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพตามที่มีการประกันคุณภาพ ซึ่งจะเกิดผลดี กว่าการรับจำนำ”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ในส่วนปัญหาความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง ตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น คงไม่เป็นปัญหาอย่างไรเพราะหัวหน้าพรรค (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) และท่านเลขาธิการ พรรค สนับสนุนเนื่องจากมีผลงานปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ที่ผ่านมากระแสการตอบรับจากข้าราชการในกระทรวงก็มีมากกว่ารัฐมนตรีวัฒนธรรมคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม พร้อมจะทำงานต่อไป
“คนในกระทรวงและคนในพรรคให้การสนับสนุนการทำงานเป็นอย่างดี และที่ผ่านมา ผลงานก็มีมาก ข่าวก็ปรากฏออกมาตามสื่อมาก อย่าง คุณสรยุทธ์ คุณกนก ก็บอกว่าผมมีผลงานออกข่าวเยอะกว่ารัฐมนตรีอีกหลายคน”
นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม และ ส.ส.ตราด เปิดเผยว่า จากการที่ เดินทางมาติดตามผลการแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ ในจันทบุรี-ตราด หลังรัฐบาลโดย คชก.ได้ให้งบประมาณจำนวน 36 ล้าน มาแก้ไขปัญหาโดยการรับซื้อในราคาที่สูงกว่าตลาด การกระจายผลผลิตออกสู่แหล่งผลิต แต่ปรากฏว่า การแก้ไขปัญหาก็ยังไม่เกิดผลมากนัก ราคาไม่ขยับ เงินงบประมาณยังไม่ลงสู่พื้นที่ ทำให้ราคาผลไม้ตกต่ำลงไป อีกโดยเฉพาะเงาะจากที่เกษตรกรต้องการ 10 บาท/กก.ก็เหลือเพียง 8 บาท /กก.และมีแนวโน้มลดลงอีก
“ผมไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินงบประมาณไปรับจำนำหรือแทรกแซงราคาเพราะไม่เกิดผลเท่าใด อีกทั้งยังเป็นการทำลายระบบตลาด อีกทั้งรัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณไปโดยไม่คุ้มค่า ต้องยอมรับว่าเงินที่ใช้ไปเป็น เงินภาษีอากรที่ได้จากประชาชน ประชาชนควรจะได้ประโยชน์จากเงินภาษีอากรอย่างทั่วถึงไม่ใช่แค่เฉพาะกลุ่ม เกษตรกรเท่านั้น อีกทั้งการช่วยลักษณะนี้ เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่ไม่ถูกต้อง เป็นวัฒนธรรมแบมือขอเงินอย่างเดียวไม่คิดที่จะแก้ไขในรูปแบบอื่น ทุกปีก็ต้องแบมือขอ ผมขอให้รัฐบาลใช้วิธีประกันราคาพืชผลทางการเกษตร จะเกิดผลดี เกษตรกรก็จะใช้วิธีการพัฒนาผลผลิตเพื่อให้ได้คุณภาพตามที่มีการประกันคุณภาพ ซึ่งจะเกิดผลดี กว่าการรับจำนำ”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ในส่วนปัญหาความขัดแย้งในพรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง ตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น คงไม่เป็นปัญหาอย่างไรเพราะหัวหน้าพรรค (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) และท่านเลขาธิการ พรรค สนับสนุนเนื่องจากมีผลงานปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน ที่ผ่านมากระแสการตอบรับจากข้าราชการในกระทรวงก็มีมากกว่ารัฐมนตรีวัฒนธรรมคนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม พร้อมจะทำงานต่อไป
“คนในกระทรวงและคนในพรรคให้การสนับสนุนการทำงานเป็นอย่างดี และที่ผ่านมา ผลงานก็มีมาก ข่าวก็ปรากฏออกมาตามสื่อมาก อย่าง คุณสรยุทธ์ คุณกนก ก็บอกว่าผมมีผลงานออกข่าวเยอะกว่ารัฐมนตรีอีกหลายคน”
