ตราด - พ่อ-แม่เหยื่อโหดตำรวจ นปพ.ตราด ซ้อม 2 พี่น้อง ยื่นหนังสือผู้ว่าฯตราดดูแลคดี ขณะผู้การฯตราด, ผกก.เมืองรับดำเนินคดีเป็นธรรม ประกาศ เอา พ.ต.อ.ออกมาแล้ว
เวลา 10.30 น.วันนี้ (8 มิ.ย.) นายวิวัฒน์ แดงตนุ และนางศรีนวล แดงตนุ บิดาและมารดาของนายสุขสวัสดิ์ และนายกิตติ แดงตนุ ที่ถูกตำรวจสังกัด หน่วยปฏิบัติการพิเศษบ้านท้ายวัง ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ทำร้ายร่างกายและได้รับบาดเจ็บสาหัสที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตราด ได้เดินทางเข้ามาพบนายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนให้ดำเนินการและช่วยเหลือหลังคดีที่ได้ แจ้งความดำเนินคดีไว้กับ พ.ต.ท.คำพันธ์ รุณพัฒน์ สารวัตรเวร สภ.เมืองตราด ไม่คืบหน้า
นายแก่นเพชร ช่วงรังษี จึงได้เชิญ พล.ต.ต.ปิยะพล โมกขะวรรธนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด และ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑะศรี ผกก.สภ.เมืองตราด ร่วมประชุมด้วย โดยให้บิดา-มาดร ของผู้เสียหาย ได้เล่าเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ลูกชายทั้ง 2 คน (หนึ่งกับสอง) ได้ไปเที่ยวดื่มสุราที่ร้าน กทม.3 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด พร้อมเพื่อนรวม 6 คน ระหว่างเข้าห้องน้ำเมื่อกลับออกมาพบขาดเหล้าไปอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ จึงไปขอคืน เมื่อได้คืนมาก็มีวัยรุ่นในโต๊ะข้างลุกตามมาและได้เกิดการชกต่อยกันขึ้น ช่วงนั้นเกิดการชุลมุนได้มีการขว้างปา จานกันไปมาระหว่าง 2 โต๊ะ และเมื่อแยกออกจากกันลูกชายทั้ง 2 คน และเพื่อนจึงขึ้นรถยนต์กลับ แต่ยังไม่ทัน ที่จะออกมาจากร้านลูกชายจำนวนมากมาดักอยู่ที่ปากทางแล้วจับลูกชาย (หนึ่ง) ใส่กุญแจมือแล้วกดหัวจมน้ำ สองซึ่งเป็นน้องชายได้เข้าไปช่วยจึงถูกทำร้ายร่างกายจนสลบ
จนกระทั่งมีผู้เข้ามาห้าม มี จนท.ตำรวจ นปพ.ที่เป็นผู้ดูแลในสถารบริการบอกว่าจะพาไปส่ง รพ.ตราด ขณะที่ และเพื่อนๆ ของลูกชายได้โทรแจ้งว่าลูกถูกทำร้ายจึงรีบเดินทางมาที่ ร้าน กทม.3 แต่มีคนบอกว่าถูกพา ไปโรงพยาบาลแล้ว ตนเองจึงรีบเดินทางไปที่ รพ.ตราด แต่ไม่พบจึงโทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนของลูกว่าอยู่ที่ไหน กัน ซึ่งได้รับคำตอบว่าให้รีบมาเร็ว ๆ เพราะตอนนี้หนึ่งถูกตำรวจซ้อมอยู่ ตนจึงรีบเดินทางมาพบว่าตำรวจกำลัง ซ้อมลูกชายตนเองทั้ง ๆ ที่ใส่กุญแจมือ ซ้อมจนเลือดนองพื้น ซึ่งขณะนั้นตนเองเห็นลูกถูกซ้อมถูกเตะเหมือนไม่ ใช่คนและเตะทั้งใส่กุญแจมือ ซึ่งตอนนั้นได้รีบเข้าไปช่วยลูกออกมารักษาตัวที่ รพ.ตราด นอกจากนี้สร้อยคอ ทองคำหนัก 3 บาท และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องหายไป การมาร้องเรียนนครั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด และผู้กำกับ สภ.เมืองตราดให้ความยุติธรรมกับบุตรชายทั้ง 2 คน
ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ขอให้ทั้ง 2 คน สบายและจะให้ความยุติธรรม กับทั้ง 2 ฝ่ายไม่ว่าผู้ทำร้ายจะเป็นตำรวจในสังกัดก็ตาม
พล.ต.ต.ปิยะพล กล่าวว่า คดีนี้จะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ทั้งนี้ ผู้เสียหาย (ถูกทำร้าย) ได้แจ้ง ความดำเนินคดีไว้แล้ว ขณะที่ฝ่ายถูกกล่าวหาก็ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ด้วยเช่นกัน ขอยืนยันว่าหากพบว่าตำรวจ กระทำผิดก็จะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.คนหนึ่ง ที่กระทำผิดกฎหมายและถอดยศ ออกมาแล้ว จึงขอให้สบายใจในเรื่องนี้
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ได้ขอให้ทั้งฝ่ายผู้ปกครองและฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รอกระบวนการ ยุติธรรมที่ตนเองพร้อมจะให้ความเป็นธรรมด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย หากฝ่ายใดผิดก็จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด และหาก ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คนไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะให้ความเป็นธรรมเต็มที่
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 3 มิถุนายน 2552 ที่ร้าน กทม.3 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด โดยร้านนี้เป็นร้านของตำรวจ นปพ.ที่เช่าจากเจ้าของเดิม มาดำเนินการต่อ และมีตำรวจ นปพ.ตราดชื่อ ว่า สุริยา ชื่อเล่น กลิ้ง ยศ ส.ต.อ.เป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัย
เวลา 10.30 น.วันนี้ (8 มิ.ย.) นายวิวัฒน์ แดงตนุ และนางศรีนวล แดงตนุ บิดาและมารดาของนายสุขสวัสดิ์ และนายกิตติ แดงตนุ ที่ถูกตำรวจสังกัด หน่วยปฏิบัติการพิเศษบ้านท้ายวัง ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ทำร้ายร่างกายและได้รับบาดเจ็บสาหัสที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตราด ได้เดินทางเข้ามาพบนายแก่นเพชร ช่วงรังษี ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมยื่นหนังสือร้องเรียนให้ดำเนินการและช่วยเหลือหลังคดีที่ได้ แจ้งความดำเนินคดีไว้กับ พ.ต.ท.คำพันธ์ รุณพัฒน์ สารวัตรเวร สภ.เมืองตราด ไม่คืบหน้า
นายแก่นเพชร ช่วงรังษี จึงได้เชิญ พล.ต.ต.ปิยะพล โมกขะวรรธนะ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด และ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑะศรี ผกก.สภ.เมืองตราด ร่วมประชุมด้วย โดยให้บิดา-มาดร ของผู้เสียหาย ได้เล่าเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ลูกชายทั้ง 2 คน (หนึ่งกับสอง) ได้ไปเที่ยวดื่มสุราที่ร้าน กทม.3 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด พร้อมเพื่อนรวม 6 คน ระหว่างเข้าห้องน้ำเมื่อกลับออกมาพบขาดเหล้าไปอยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ จึงไปขอคืน เมื่อได้คืนมาก็มีวัยรุ่นในโต๊ะข้างลุกตามมาและได้เกิดการชกต่อยกันขึ้น ช่วงนั้นเกิดการชุลมุนได้มีการขว้างปา จานกันไปมาระหว่าง 2 โต๊ะ และเมื่อแยกออกจากกันลูกชายทั้ง 2 คน และเพื่อนจึงขึ้นรถยนต์กลับ แต่ยังไม่ทัน ที่จะออกมาจากร้านลูกชายจำนวนมากมาดักอยู่ที่ปากทางแล้วจับลูกชาย (หนึ่ง) ใส่กุญแจมือแล้วกดหัวจมน้ำ สองซึ่งเป็นน้องชายได้เข้าไปช่วยจึงถูกทำร้ายร่างกายจนสลบ
จนกระทั่งมีผู้เข้ามาห้าม มี จนท.ตำรวจ นปพ.ที่เป็นผู้ดูแลในสถารบริการบอกว่าจะพาไปส่ง รพ.ตราด ขณะที่ และเพื่อนๆ ของลูกชายได้โทรแจ้งว่าลูกถูกทำร้ายจึงรีบเดินทางมาที่ ร้าน กทม.3 แต่มีคนบอกว่าถูกพา ไปโรงพยาบาลแล้ว ตนเองจึงรีบเดินทางไปที่ รพ.ตราด แต่ไม่พบจึงโทรศัพท์ติดต่อกับเพื่อนของลูกว่าอยู่ที่ไหน กัน ซึ่งได้รับคำตอบว่าให้รีบมาเร็ว ๆ เพราะตอนนี้หนึ่งถูกตำรวจซ้อมอยู่ ตนจึงรีบเดินทางมาพบว่าตำรวจกำลัง ซ้อมลูกชายตนเองทั้ง ๆ ที่ใส่กุญแจมือ ซ้อมจนเลือดนองพื้น ซึ่งขณะนั้นตนเองเห็นลูกถูกซ้อมถูกเตะเหมือนไม่ ใช่คนและเตะทั้งใส่กุญแจมือ ซึ่งตอนนั้นได้รีบเข้าไปช่วยลูกออกมารักษาตัวที่ รพ.ตราด นอกจากนี้สร้อยคอ ทองคำหนัก 3 บาท และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่องหายไป การมาร้องเรียนนครั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด และผู้กำกับ สภ.เมืองตราดให้ความยุติธรรมกับบุตรชายทั้ง 2 คน
ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดตราด และผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด ขอให้ทั้ง 2 คน สบายและจะให้ความยุติธรรม กับทั้ง 2 ฝ่ายไม่ว่าผู้ทำร้ายจะเป็นตำรวจในสังกัดก็ตาม
พล.ต.ต.ปิยะพล กล่าวว่า คดีนี้จะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย ทั้งนี้ ผู้เสียหาย (ถูกทำร้าย) ได้แจ้ง ความดำเนินคดีไว้แล้ว ขณะที่ฝ่ายถูกกล่าวหาก็ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ด้วยเช่นกัน ขอยืนยันว่าหากพบว่าตำรวจ กระทำผิดก็จะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ที่ผ่านมาได้ดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.คนหนึ่ง ที่กระทำผิดกฎหมายและถอดยศ ออกมาแล้ว จึงขอให้สบายใจในเรื่องนี้
ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กล่าวว่า ได้ขอให้ทั้งฝ่ายผู้ปกครองและฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รอกระบวนการ ยุติธรรมที่ตนเองพร้อมจะให้ความเป็นธรรมด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย หากฝ่ายใดผิดก็จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด และหาก ผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คนไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะให้ความเป็นธรรมเต็มที่
สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 3 มิถุนายน 2552 ที่ร้าน กทม.3 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด โดยร้านนี้เป็นร้านของตำรวจ นปพ.ที่เช่าจากเจ้าของเดิม มาดำเนินการต่อ และมีตำรวจ นปพ.ตราดชื่อ ว่า สุริยา ชื่อเล่น กลิ้ง ยศ ส.ต.อ.เป็นผู้ดูแลรักษาความปลอดภัย