ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – สป.จีนเตรียมจัด “Expoจีน-อาเซียน 6”ที่กว่างซี ตุลาคม 52 ดึงผู้ประกอบการ 10 ชาติอาเซียนร่วมเปิดบูทรวมกว่า 4 พันบูท เผยงาน Expo ครั้งก่อนมีผู้ซื้อเข้าร่วมงานมากกว่า 10,000 ราย และผู้เข้าชมอีกกว่า 119,000 ราย ทำยอดขายรวมได้กว่า 6.52 พันล้านดอลลาร์ เชื่อมั่นขยายความร่วมมือเขตการค้าเสรีที่จะมีผลบังคับใช้ใน 7,000 รายการสินค้าตั้งแต่ปี 2010 - 2015 เป็นต้นไป สร้างตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่ 1.9 พันล้านคน
วันนี้ (3 มิ.ย.52) ที่โรงแรมดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , นางจันทวัน สุจิตรกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สาขาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ , นางสมใจ ธนสิทธิ์สมบูรณ์ รอง ผอ.ศูนย์ส่งเสริมการส่งออกภาคเหนือ (เชียงใหม่) ,นางสมศรี ศรีมนัสท์ อุปนายกสมาคมพ่อค้าจีนเชียงใหม่ ,มาดามจิ้น ยี่-หลิน กงสุลจีนรักษาการแทนกงสุลใหญ่จีน ประจำ จ.เชียงใหม่ และ หง หลง รองเลขาธิการ สนง.เลขาธิการแสดงสินค้าเอ็กซ์โปจีน-อาเซียน ได้ร่วมชี้แจงการจัดงานจีน-อาเซียน เอ็กซ์โป ครั้งที่ 6 ที่จะจัดขึ้นที่เมืองหนานหนิง เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วงกว่างซี ของจีน ระหว่าง 20-24 ต.ค.52
มาดามจิ้น ยี่-หลิน กล่าวว่า งานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน เป็นแนวคิดริเริ่มของ Wen Jia Bao นายกรัฐมนตรีจีน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างจีน กับอาเซียน ขยายกรอบความร่วมมือเขตการค้าเสรีระหว่างกัน ให้ได้รับประโยชน์มากขึ้น ครอบคลุมทั้งด้านการลงทุน การค้า และบริการ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบคือ กระทรวงพาณิชย์ของจีน และตัวแทนจาก 10 ชาติอาเซียน ที่ร่วมเป็นกรรมการ ได้เล็งเห็นว่า ภาคเหนือของไทย มีภูมิประเทศคล้ายกับภาคตะวันตกเฉียงใต้ หรือจีนตอนใต้ จึงเลือกที่จะเข้ามาทำประชาสัมพันธ์ให้คนภาคเหนือของไทยเดินทางไปร่วมงาน Expo ครั้งนี้
ขณะที่นางสมใจ ธนสิทธิ์สมบูรณ์ รอง ผอ.ศูนย์ส่งเสริมการส่งออกภาคเหนือ (เชียงใหม่) กล่าวว่า ในงานExpo จีน-อาเซียน ครั้งที่ 6 นี้ กรมส่งเสริมฯได้จองพื้นที่ไว้ 2 ส่วน ๆ แรกคือ พื้นที่Hall 4 ที่เป็นส่วนจำหน่ายสินค้า จำนวน 2,100 ตร.ม. 122 คูหา จะมีผู้ประกอบการไทยนำสินค้าเข้าร่วม 81 ราย เป็นผู้ประกอบการในภาคเหนือจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง และพิษณุโลก จำนวน 12 ราย พร้อมกับได้จองพื้นที่ในส่วนแสดงนิทรรศการอีก 200 ตร.ม. เพื่อจัดนิศทรรศการของ จ. สมุทรปราการ
จากพื้นที่จัดแสดงสินค้า-นิทรรศการทั้งหมด 4,000 คูหา ซึ่งจะมีผู้ประกอบการจากทุกมณฑลของจีน เข้าร่วมกว่า 3,000 คูหา และชาติสมาชิกอาเซียน อีกประมาณละร่วม 100 ราย หรือมากกว่า 100 รายเข้าร่วม
นางสมใจ กล่าวว่า งาน Expoจีน-อาเซียนครั้งที่ 5 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการจากไทยก็เข้าร่วมด้วย และมียอดการซื้อขายสินค้าตามมาภายใน 1 ปี ถึง 66.5 ล้านบาท , ทำยอดขายในงานได้กว่า 400,000 ดอลลาร์ หรือ 14 ล้านบาท ส่วนการค้าระหว่างไทย-จีน ในปี 2551 ที่ผ่านมานั้น มีมูลค่าการค้าเกิดขึ้นทั้งสิ้น 36,000 กว่าล้านดอลลาร์ เป็นการส่งออก 16,100 กว่าล้านดอลลาร์ และนำเข้า 26,000 กว่าล้านดอลลาร์ ไทยขาดดุลอยู่ 3,800 กว่าล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ สำนักงานเลขาธิการแสดงสินค้าเอ็กซ์โปจีน-อาเซียน ระบุว่า ในงาน Expoจีน-อาเซียน ครั้งที่ 5 ที่ผ่านมา มีผู้ซื้อเดินทางเข้าร่วมงานกว่า 10,000 ราย ผู้เข้าชมทั่วไปกว่า 119,000 คน และทำยอดขายรวมตลอดทั้งงานได้กว่า 6.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีโครงการร่วมทุนเกิดขึ้น 28.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ที่เริ่มมีการปฏิบัติอย่างเป็นทางการในปี 2005 โดยมีสินค้ากว่า 7,000 รายการ ที่เริ่มให้มีการลดภาษีนำเข้า โดยในปี 2010 จะให้สิทธิพิเศษทางการค้าแก่สมาชิกอาเซียนเก่า 6 ประเทศคือ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย โดยปรับภาษีสินค้าบางประเภทให้เป็นศูนย์ ส่วนสมาชิกใหม่คือ กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม จะมีการปรับภาษีสินค้าบางชนิดให้เป็นศูนย์ในปี 2015
ทั้งนี้ หาก ข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน ประสบผลสำเร็จ จะเป็นข้อตกลงที่ครอบคลุมประชากรมากถึง 1.9 พันล้านคน มียอดรวมทางเศรษฐกิจ (11 ประเทศ) สูงถึง 5.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ มียอดนำเข้า-ส่งออก ถึง 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ กลายเป็นเขตการค้าเสรีใหญ่อันดับ 3 ของโลก ที่มีประชากรมากที่สุด และเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดระหว่างประเทศกำลังพัฒนา
สำนักงานเลขาธิการงานแสดงสินค้าฯ ระบุอีกว่า งานExpoจีน-อาเซียน 5 ครั้งที่ผ่านมา ทำให้ยอดการค้าระหว่างจีนกับอาเซียนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2004-2007 ยอดการค้าทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มจาก 1.2-1.3% ของยอดการค้าโลก หรือ 231,102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2008 ยอดการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้นถึง 13.9%
