ฉะเชิงเทรา -ส.ป.ก.แปดริ้วแจงถูกร้องเรียนย่องยึดคืนที่ดินทำกินชาวบ้าน เหตุจากเข้าใจผิดกัน
วันนี้(29 พ.ค.52) นายเดชา วิลาวรรณ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณี ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา ร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าส.ป.ก.เข้ายึดพื้นที่ดินทำกินของชาวบ้านกลับคืนมาโดยไม่เป็นธรรม และให้พรรคพวกเข้าสวมสิทธิเข้าทำกินนั้น ว่า เรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดของกลุ่มชาวบ้านเอง
ที่ดินดังกล่าวยังไม่มีใครเข้าไปสวมสิทธิหรือเข้าไปใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ที่ผ่านมาส.ป.ก.ได้ทำตามขั้นตอนในการออกหนังสือยกเลิกการเช่าไปยังชาวบ้าน หลังจากมีการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ครอบครองที่ดินอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้ทำกินบนผืนที่ดินของส.ป.ก.ด้วยตนเอง ปล่อยรกร้างว่างเปล่า หรือแบ่งแยกส่วนหนึ่งส่วนใดให้แก่ผู้อื่นเช่าทำกิน ซึ่งผิดต่อระเบียบเงื่อนไข และสัญญา ที่ทำกับ ส.ป.ก.ไว้ตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ มีที่ดินบางส่วนที่เป็นบ่อกุ้งร้าง ดินเปรี้ยว ถูกปล่อยรกร้างว่างเปล่าขาดการพัฒนามานานนับสิบปี ส.ป.ก.ได้เข้าไปพัฒนา ทำให้ดีขึ้น เพื่อที่จะให้สิทธิในการเช่าทำกินแก่เกษตรกรรุ่นใหม่ หรือคนตกงาน ที่อยากเข้ามาทำกินอย่างจริงจังในพื้นที่ เพื่อทำเป็นแปลงทดสอบอยู่ในโครงการตัวอย่างของ “นิคมการเกษตร” ซึ่งจะเป็นพื้นที่ ที่มีการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด และเพิ่มมูลค่าผลผลิตในที่ดินแปลงนี้ ตลอด 2 ปี ที่ได้เปิดรับสมัครเกษตรกรรุ่นใหม่เข้ามานั้น มีผู้สนใจสมัครเข้ามาถึงปีละ 30 ราย แต่ยังไม่ได้ให้ใคร
ที่ผ่านมาส.ป.ก.ยังไม่เคยสั่งให้ผู้ครอบครองที่ดินอยู่เดิมสิ้นสิทธิ เคยแจ้งให้มาอุทธรณ์แล้ว ก็ยังไม่มา ซึ่งหากเข้ามาอุทธรณ์ร้องขอก็จะมีการพิจารณากันต่อไป
สำหรับกรณีที่ทาง ส.ป.ก.ไม่ยอมรับค่าเช่าจากผู้ครอบครองรายเดิมนั้น เพราะไม่มีสัญญาเช่า ซึ่งบอกยกเลิกไปแล้ว จึงรับไว้ไม่ได้ จึงต้องรอการทำสัญญาใหม่เพิ่มเติมก่อน ขณะนี้จึงเป็นเพียงแต่อยู่ในขั้น “บอกเลิกสัญญา” หากผู้ครอบครองสิทธิที่ดินรายเดิมกลับเข้ามาตั้งใจทำกินเหมือนเดิม และเข้ามายอมทำบันทึกรับสภาพ ก็จะสามารถกับมาคืนสิทธิทำสัญญาใหม่ต่อไปได้
วันนี้(29 พ.ค.52) นายเดชา วิลาวรรณ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณี ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา ร้องเรียนไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ว่าส.ป.ก.เข้ายึดพื้นที่ดินทำกินของชาวบ้านกลับคืนมาโดยไม่เป็นธรรม และให้พรรคพวกเข้าสวมสิทธิเข้าทำกินนั้น ว่า เรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิดของกลุ่มชาวบ้านเอง
ที่ดินดังกล่าวยังไม่มีใครเข้าไปสวมสิทธิหรือเข้าไปใช้ประโยชน์แต่อย่างใด ที่ผ่านมาส.ป.ก.ได้ทำตามขั้นตอนในการออกหนังสือยกเลิกการเช่าไปยังชาวบ้าน หลังจากมีการตรวจสอบพบว่า ผู้ที่ครอบครองที่ดินอยู่ในปัจจุบัน ไม่ได้ทำกินบนผืนที่ดินของส.ป.ก.ด้วยตนเอง ปล่อยรกร้างว่างเปล่า หรือแบ่งแยกส่วนหนึ่งส่วนใดให้แก่ผู้อื่นเช่าทำกิน ซึ่งผิดต่อระเบียบเงื่อนไข และสัญญา ที่ทำกับ ส.ป.ก.ไว้ตั้งแต่ต้น
ทั้งนี้ มีที่ดินบางส่วนที่เป็นบ่อกุ้งร้าง ดินเปรี้ยว ถูกปล่อยรกร้างว่างเปล่าขาดการพัฒนามานานนับสิบปี ส.ป.ก.ได้เข้าไปพัฒนา ทำให้ดีขึ้น เพื่อที่จะให้สิทธิในการเช่าทำกินแก่เกษตรกรรุ่นใหม่ หรือคนตกงาน ที่อยากเข้ามาทำกินอย่างจริงจังในพื้นที่ เพื่อทำเป็นแปลงทดสอบอยู่ในโครงการตัวอย่างของ “นิคมการเกษตร” ซึ่งจะเป็นพื้นที่ ที่มีการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุด และเพิ่มมูลค่าผลผลิตในที่ดินแปลงนี้ ตลอด 2 ปี ที่ได้เปิดรับสมัครเกษตรกรรุ่นใหม่เข้ามานั้น มีผู้สนใจสมัครเข้ามาถึงปีละ 30 ราย แต่ยังไม่ได้ให้ใคร
ที่ผ่านมาส.ป.ก.ยังไม่เคยสั่งให้ผู้ครอบครองที่ดินอยู่เดิมสิ้นสิทธิ เคยแจ้งให้มาอุทธรณ์แล้ว ก็ยังไม่มา ซึ่งหากเข้ามาอุทธรณ์ร้องขอก็จะมีการพิจารณากันต่อไป
สำหรับกรณีที่ทาง ส.ป.ก.ไม่ยอมรับค่าเช่าจากผู้ครอบครองรายเดิมนั้น เพราะไม่มีสัญญาเช่า ซึ่งบอกยกเลิกไปแล้ว จึงรับไว้ไม่ได้ จึงต้องรอการทำสัญญาใหม่เพิ่มเติมก่อน ขณะนี้จึงเป็นเพียงแต่อยู่ในขั้น “บอกเลิกสัญญา” หากผู้ครอบครองสิทธิที่ดินรายเดิมกลับเข้ามาตั้งใจทำกินเหมือนเดิม และเข้ามายอมทำบันทึกรับสภาพ ก็จะสามารถกับมาคืนสิทธิทำสัญญาใหม่ต่อไปได้
