ตัวแทนชาวบ้านตำบลคลองนครเนื่องเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าร้องเรียนต่อดีเอสไอกรณี ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เหตุชาวบ้านลืมจ่ายค่าเช่าและภาษีบำรุงที่ดิน ส.ป.ก.ที่ได้รับสิทธิเข้าใช้ประโยชน์กว่า 1,500 ไร่ แล้วถูกยกเลิกสัญญา และถูกไล่ที่อย่างไม่เป็นธรรม
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. นายมาโนช อุ่มเจริญ พร้อมตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 20 คน เข้าพบ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์ศรีนิล ผอ.ส่วนคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม 3 เพื่อเข้าร้องเรียนกรณีนายเดชา วิลาวรรณ ส.ป.ก.จังหวัดฉะเชิงเทรา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเหตุให้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับความเดือดร้อน
นายมาโนชกล่าวว่า รัฐบาลได้ทำการจัดสรรที่ดินตามโครงการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในพื้นที่ หมู่ที่ 16 ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปี 2526 โดยมีชาวบ้านได้รับสิทธิในการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่รวมกว่า 1,500 ไร่ ที่ผ่านมาชาวบ้านได้ทำการเสียค่าเช่าที่ดินและภาษีบำรุงท้องที่ตลอดมา จนถึงปี 2548-2550 ชาวบ้านบางคนลืมชำระค่าเช่าและภาษีบำรุงท้องที่ จากนั้นได้รับหนังสือจาก ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 25 ส.ค.51 แจ้งบอกเลิกสัญญาเช่าที่ดิน โดยมิได้มีหนังสือแจ้งเตือนแต่อย่างไร ชาวบ้านจึงได้ไปติดต่อ ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา เพื่อขอชำระค่าเช่าและภาษี ซึ่ง ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา ก็รับเสียค่าเช่าและภาษี ต่อมาในปี 2552 ชาวบ้านจะไปเสียค่าเช่าและภาษี แต่ ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา ไม่รับชำระ แจ้งว่าบอกเลิกสัญญาไปตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค.51 ทั้งที่นายมาโนชฯ เมื่อได้รับทราบเรื่องก็ขอไปชำระค่าเช่าและภาษี และ ส.ป.ก.ฉะเชิงเทราก็รับชำระไว้แล้ว
นายมาโนชกล่าวต่อว่า ภายหลังจาก ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรายกเลิกสัญญากรรมสิทธิ์ ก็ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับนางบุญเรือง เจริญสุข ซึ่งเป็นคนสนิทของนายเดชา วิลาวรรณ ส.ป.ก.จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมออกเอกสารระบุว่าบุคคลคนหนึ่งสามารถถือครองสิทธิในที่ดินได้หลายแปลง นอกจากนี้ หากชาวบ้านไม่ออกจากที่ดินดังกล่าว ก็ทำการรื้อบ้านพักอาศัยของตนออกทันที เพื่อที่จะให้พวกพ้องเข้าครอบครองแทน
จากพฤติการณ์และการกระทำของนายเดชา วิลาวรรณ ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา ทำให้ราษฎรซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรมและเป็นผู้ยากไร้ได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่ดินทำกินทั้งที่ได้ทำประโยชน์มาหลายสิบปีก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน จึงนำเรื่องมาร้องเรียนที่ดีเอสไอ เพื่อลงตรวจสอบพื้นที่และให้ความเป็นธรรมแก่ชาวบ้าน
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้ โดยจะส่งเจ้าหน้าที่จากสำนักคดีคุ้มครองเพื่อบริโภคและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ใน ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา จว.ฉะเชิงเทรา เพื่อตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริง จากนั้นจะเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา เพื่อทราบสาเหตุของการกระทำดังกล่าว ซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน