xs
xsm
sm
md
lg

อปท.ริมน้ำโขงดึง มรช.วิจัยร่วม ฟื้นตำนาน “นครสุวรรณโคมคำ” อาณาจักรลึกลับริมโขง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชียงราย – มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จับมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นริมฝั่งโขง วางแนวทางฟื้นตำนาน “นครสุวรรณโคมคำ” อาณาจักรลึกลับริมน้ำโขง ที่วันนี้อยู่ในฝั่ง สปป.ลาวเกือบทั้งหมด หวังใช้เป็นจุดขายดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่

รายงานจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านแซว ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรช.) ได้จัดให้มีการทัศนศึกษาดูงานเพื่อฟื้นตำนานเมืองโบราณ “สุวรรณโคมคำ” ซึ่งเป็นดินแดนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ปัจจุบันอยู่ในฝั่งแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว

ครั้งนี้มีการนำคณะผู้ที่สนใจและสื่อมวลชนไปเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใน ต.บ้านแซว จากนั้นนั่งเรือข้ามไปยังเขตบ้านดอนทาด และบ้านร่มเย็น แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เพื่อชมพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่และโบราสถานที่หลงเหลืออยู่ของเมืองสุวรรณโคมคำ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเมืองสุวรรณโคมคำมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ก่อนจะมีอาณาจักรโยนกนาคพันธุ์ หรือเมืองเชียงแสน ในปัจจุบันซึ่งมีอายุกว่า 1,000 ปี โดยในอดีตไม่มีการแบ่งรัฐชาติเหมือนปัจจุบัน ทำให้สองฝั่งแม่น้ำโขงมีชุมชนของคนในอาณาจักรเดียวกัน แต่จากสภาพในปัจจุบันพบว่าเมืองสุวรรณโคมคำ ที่ยังเหลือร่องรอยอยู่ล้วนอยู่ในฝั่ง สปป.ลาว

ทั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้น พบโบราณสถานที่หลงเหลืออยู่ในเมืองสุวรรณโคมคมโบราณหลายอย่าง เช่น พระอุโบสถ พระธาตุ พระพุทธรูป บ่อน้ำ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปางสมาธิสร้างโดยการก่ออิฐถือปูน หน้าตักกว้างกว่า 7.10 เมตร สูง 7.22 เมตร (ไม่รวมยอดเกศ) บ่าแต่ละข้างยาว 1.10 เมตร ด้านข้างตั้งแต่สะโพกถึงเข่าสูง 3.60 เมตร อย่างไรก็ตามตัวเมืองและโบราณสถาน ส่วนใหญ่พังทลายลงไปในแม่น้ำโขงที่กัดเซาะและเปลี่ยนเส้นทางน้ำตามธรรมชาติ

ด้าน นายสมควร สุตะวงค์ นายก อบต.บ้านแซว กล่าวว่า บ้านแซวมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย และยังมีความเชื่อมโยงกับ สปป.ลาว ดังนั้น อบต.บ้านแซว จึงเปิดเส้นทางท่องเที่ยวคือการชมวัฒนธรรมไทลื้อ ชิมอาหร ชมวิถีชีวิตชาวไทลื้อที่มาอาศัยอยู่ที่ ต.บ้านแซว ร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญตามวัฒนธรรมไทลื้อ

จากนั้นจะไปล่องเรือข้ามแม่น้ำโขงชมทัศนียภาพและความฉ่ำเย็นของสายน้ำไปยัง สปป.ลาว เพื่อชมวิถีชีวิตของคนลาวบ้านใหม่ร่มเย็น และชมนครโบราณสุวรรณโคมคำ นครโบราณอันลี้ลับอายุนับพันปีที่ถูกแบ่งอยู่ในสองประเทศ อันเนื่องมาจากแม่น้ำโขงเปลี่ยนเส้นทาง แล้วล่องเรือไปชมหาดหินบ้านสวนดอก แล้วไปชมวัดบ้านแซว

ต่อจากนั้นจะพาไปชมวิถีชีวิตและเศรษฐกิจพอเพียงของบ้านแซว ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงจิ้งหรีด การทำข้าวกล้อง ชิมอาหารแบบชาวบ้านที่บ้านท่าขันทอง ซึ่งเป็นชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนผลักดันให้เป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ของ ต.บ้านแซว และจากนั้นจะพาไปชมวัดสวนดอก ที่มีพระพุทธรูปโบราณ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปคู่สหายกับพระพุทธรูปที่นครสุวรรณโคมคำ ก่อนที่จะแม่น้ำโขงจะแยกแผ่นดินออกเป็นสองประเทศ

ผศ.ดร.ชูกลิ่น อุนวิจิตร หัวหน้าโครงการวิจัยการบริหารจัดการการท่องเที่ยวเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของชุมชนท้องถิ่น มรช.กล่าวว่า ได้เข้ามาทำการวิจัย ต.บ้านแซว เพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยว ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและวิถีชีวิตวัฒนธรรมของพื้นที่ที่มีความหลากหลายและยังสามารถเดินทางข้ามไปท่องเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างสะดวก โดยมีสถานที่ที่สำคัญหรือไฮไลต์ คือ เมืองโบราณสุวรรณโคมคำซึ่งควรค่าแก่การศึกษาความเป็นมาด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น