xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสวนมะม่วงเชียงคานหลงลมครูพี่เลี้ยงเสนอดอกเงินกู้สูงถูกเชิดรวมกว่า 30 ล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เลย -ชาวสวนมะม่วง บุฮม โดนต้มเงินหมดหมูบ้าน 30 กว่าล้าน เผยหลงเชื่อให้ครูพี่เลี้ยงกู้เงิน หวังข้อเสนอที่ให้ดอกเบี้ยสูง สุดท้ายถูกเชิดเงิน

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (26 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอเชียงคาน มีชาวบ้านจากตำบลบุฮม อ.เชียงคาน จ.เลย จำนวน 29 ราย เข้าแจ้งความแก่ พ.ต.ท.สมพงษ์ หงษ์ไพริน เจ้าพนักงานสืบสวน ว่า ทั้งหมดได้ถูก น.ส.บุษดี วันชม อายุ 35 ปี บ้านเลขที่ 160/2 หมู่ 7 บ้านวัฒนาภิรมย์ ต.บุฮม มีอาชีพ เป็นครูพี่เลี้ยงพัฒนาเด็กเล็ก วัดศรีภูมิ ได้ทำสัญญากู้ยืมเงินจากเจ้าทุกข์ทั้ง 29 ราย รวมเป็นเงิน 9,400,000 บาท และ ที่ไม่ได้ทำสัญญาอีกกว่า 40 ราย เป็นเงินกว่า 21,000,000 บาท รวมเป็นเงินกว่า 30 ล้านบาท

ทั้งหมดได้ติดตามทวงหนี้เมื่อครบกำหนดสัญญา แต่ น.ส.บุษดี ได้พยายามบ่ายเบี่ยง และเริ่มผิดนัดเรื่อยมา และทราบภายหลังว่า น.ส.บุษดี ได้ทำสัญญากับบุคคลอื่นแบบเดียวกันหลายราย ทั่วทั้งอำเภอเชียงคาน โดยไม่ปรากฏว่า นำเงินที่กู้ยีมไปลงทุนประกอบธุรกิจ ที่จะทำให้สามารถได้รับผลตอบแทนมาชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยให้แก่ผู้กู้ได้

จนกระทั่งวันที่ 6 พ.ค.2552 น.ส.บุษดี ได้หายตัวไปจากบ้านพร้อมสามี ที่เพิ่งแต่งงานเมื่อไม่นานมานี้ โทรศัพท์ก็ไม่รับสาย ติดตามไปยังบ้านก็ไม่พบ คาดว่า จะหลบหนีไปอยู่กับญาติทางฝั่งประเทศ ส.ป.ป.ลาว

นางสมัคร ผางสา อายุ 53 ปี เลขที่ 40 หมู่ 8 บ้านห้วยผักกูด ต.เชียงกลม อ.ปากชม กล่าวว่า ตนเป็นราษฎรตำบลบุฮมเหมือนกัน แต่มาทำมาค้าขายส่งมะม่วงกับสามี ที่ ต.เชียงกลม เห็นว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน และ น.ส.บุษดี ก็เคยเป็นพนักงานการเงินของกองทุนหมู่บ้านบ้านบุฮม

น.ส.บุษดี อ้างว่า เนื่องจากวิสาหกิจชุมชน 39 แห่ง ในอำเภอเชียงคาน ถึงวาระที่จะต้องนำเงินไปชำระกับ ธ.ก.ส.แต่เนื่องจากวิสาหกิจนั้นๆ ไม่มีเงินเพียงพอ จึงมารวบรวมเงินกับญาติในตำบล เข้าร่วมกันไปให้วิสาหกิจกู้ ตนลงทุนด้วยเงินที่เก็บหามาตลอดชีวิต นำเงินมาร่วมลงทุนกับ น.ส.บุษดี ตั้งแต่ปี 2545 โดยให้ผลตอบแทนร้อยละ 5 ต่ออาทิตย์ ดอกเบี้ยที่ได้มา ก็นำมาสมทบรวมทบต้นไปเรื่อยๆ ทุกครั้งก็นำเงินมาจ่ายให้ตรงเวลา

ต่อมาตนจึงชวนน้องสาวมาร่วมลงทุนอีกด้วย รวมแล้วตนและน้องสาวเป็นเงิน 1,600,000 บาท ไม่ทราบว่าจะได้เงืนคืนหรือไม่ ต้องฝากความหวัให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามให้

ส่วน พ.ต.อ.อดุลย์ รัตนจันทร์ ผกก.สภ.เชียงคาน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นข่าวมาหลายพื้นที่ และน่าจะเฉลียวใจหน่อยว่า ทำไมเขาจึงให้ผลตอบแทนมากกว่าความเป็นจริง แล้วยิ่งพบว่า เริ่มมีการจ่ายเงินไม่ตรงเวลา น่าจะมาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบโดยด่วน ปล่อยมาตั้งหลายวันแล้ว คาดว่าผู้ต้องหาคงหลบหนีไปอยู่กับญาติทางฝั่งลาวแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะพยายามติดตามผู้ต้องหาลงโทษโดยเร็ว
กำลังโหลดความคิดเห็น