xs
xsm
sm
md
lg

“ยามาโตะ” ด.ช.10 ขวบเชียงใหม่โผล่ตามหาพ่อญี่ปุ่นอีกราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – โผล่อีก! “ยามาโตะ” เด็กชาย 10 ขวบ ที่เชียงใหม่ ตามหาพ่อชาวญี่ปุ่น หลังถูกทิ้งให้คนข้างบ้านเลี้ยงดูนาน 7 ปี จนรักผูกพันเหมือนลูก เผยต้องการเพียงให้เด็กได้รับสัญชาติ เพราะปัจจุบันยังไม่มี

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า หลังจากที่มีกรณี “เคอิโงะ” และ “นารูมิ” ออกประกาศตามหาตัวพ่อชาวญี่ปุ่น ล่าสุด เด็กชายยามาโตะ นิอีมือระ หรือ “น้องแต๋” อายุ 10 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาลวัดพวกช้าง ในตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นอีกคนหนึ่งที่ออกมาประกาศตามหาพ่อชาวญี่ปุ่นที่ขาดการติดต่อไปกว่า 7 ปี หลังจากที่แม่ของน้องแต๋เสียชีวิตเมื่อปี 2545 แล้วพ่อที่เดินทางกลับญี่ปุ่นได้นำมาฝากไว้ให้อาศัยอยู่กับนางปิยะฉัตร อาหมัด อายุ 42 ปี ที่บ้านเลขที่ 31/2 ซอย1 ถนนเวียงพิงค์ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยบอกว่าจะเดินทางกลับมารับลูกใน 2-3 เดือน แต่ไม่เคยติดต่อกลับมาอีก

นางปิยะฉัตร เล่าว่า พ่อของน้องแต๋ชื่อ นายมาซาโตะ นิอีมือระ ชาวญี่ปุ่น ส่วนแม่ชื่อนางรัตนา ชาวไทยใหญ่ ทั้งคู่มาเช่าบ้านพักอยู่ใกล้กับบ้านของตนเองระหว่างที่ตั้งท้อง จนกระทั่งคลอดลูก จากนั้นนายมาซาโต๊ ได้เดินทางกลับญี่ปุ่น โดยส่งเงินมาให้ใช้จ่ายอยู่ตลอด จนกระทั่งในปี 2545 นางรัตนา ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคไวรัสตับอักเสบ นายมาซาโตะ ได้เดินทางมาจัดงานศพให้ และจะพาตัวน้องแต๋ ไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย

อย่างไรก็ตาม ติดปัญหาที่น้องแต๋ไม่มีสัญชาติ จึงไม่สามารถพาตัวไปด้วยได้ ซึ่งทางกงสุลญี่ปุ่น ได้แนะนำให้นายมาซาโตะ ไปยื่นคำร้องต่อศาลที่ญี่ปุ่น เพื่อรับรองบุตร นายมาซาโตะ จึงได้นำลูกมาฝากเลี้ยงไว้ เพื่อกลับไปจัดการเรื่องดังกล่าวที่ญี่ปุ่นแล้วจะมารับลูกไปอยู่ด้วย แต่สุดท้ายก็ขาดการติดต่อไปจนปัจจุบัน ซึ่งล่าสุด เมื่อหลายปีก่อนเคยโทรศัพท์พูดคุยกันและทราบแต่เพียงว่า นายมาซาโตะ กำลังมีปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบประสาท โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาได้เลี้ยงดูน้องแต๋เป็นอย่างดี และรักใคร่เหมือนลูกแท้ๆ

สำหรับการออกมาร้องขอความช่วยเหลือในครั้งนี้นั้น นางปิยะฉัตร บอกว่า ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือเป็นเงินทองใดๆ เพียงแต่ต้องการให้น้องแต๋ ได้พบพ่อ และมีการช่วยเหลือดำเนินการในเรื่องสัญชาติให้กับน้องแต๋ เพราะปัจจุบันน้องแต๋ ยังคงไม่มีสัญชาติ จึงเกรงว่าจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาในอนาคต เช่น การศึกษาต่อ หรือสิทธิต่างๆ เป็นต้น

ขณะที่ เด็กชายยามาโตะ นิอีมือระ หรือ “น้องแต๋” เปิดเผยว่า เวลานี้คิดถึงและอยากพบหน้าพ่อ ทั้งนี้ ที่ผ่านมา จำอะไรเกี่ยวกับผู้เป็นพ่อได้ไม่มากนัก และมีเพียงภาพถ่ายของพ่อกับตัวเอง ไว้ดูให้คลายคิดถึง ส่วนผลการเรียนของน้องแต๋ นั้น ได้รับการเปิดเผยจากครูที่โรงเรียน ว่า มีผลการเรียนอยู่ในระดับปานกลางถึงดี เป็นเด็กที่นิสัยร่าเริง ช่างพูดจา และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

ด้านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่นั้น วันนี้(22 พ.ค.) ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจเยี่ยมบ้านของ นางปิยะฉัตร ที่เลี้ยงดูน้องแต๋ เพื่อสอบถามข้อมูลต่างๆ เตรียมการให้ความช่วยเหลือ พร้อมทั้งมอบเงินสงเคราะห์ฉุกเฉินจำนวน 2,000 บาท เป็นการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น

โดย นางชญาดา กาวีวงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เบื้องต้นได้มอบเงินสงเคราะห์ฉุกเฉินให้ พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือในระยะยาว โดยต่อไปคงจะต้องมีนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยา มาพบปะพูดคุยกับน้องแต๋ที่บ้านเป็นระยะๆ ด้วย

สำหรับเรื่องสัญชาติของน้องแต๋นั้น เบื้องต้นทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับที่จะเป็นผู้ที่ประสานกับทางกงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ ให้เพื่อติดตามหาตัวพ่อชาวญี่ปุ่น และหารือเรื่องสัญาชาติของน้องแต๋ ตลอดจนจะดูว่าสามารถช่วยเหลืออย่างไรได้อีกในเรื่องนี้ เพราะอาจจะก็มีความเป็นไปได้เช่นกันที่จะขอสัญชาติไทย แต่ทั้งนี้ ต้องพิจารณารายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วนเสียก่อน

กำลังโหลดความคิดเห็น