xs
xsm
sm
md
lg

จี้ ศธ.เปลี่ยนตัว รก.อธิการบดี ม.ราชภัฏลำปาง หลังสภามหา’ลัยเปลี่ยนชื่อทูลเกล้ากลางคัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ลำปาง - ว่าที่อธิการบดีราชภัฎลำปางจี้กระทรวงศึกษาธิการเปลี่ยนตัวรักษาการ พร้อมให้เอาผิดวินัยร้ายแรงกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ส่งชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอธิการบดีคนใหม่

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ พุ่มพิมล ว่าที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พร้อมคณะคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางจำนวนหนึ่งได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์) ผ่านนายมัธยม นิภาเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้เปลี่ยนบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง

พร้อมให้พิจารณาโทษทางวินัยต่อผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ในความผิดที่เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ในกรณีที่ไม่นำรายชื่อผู้ที่ได้รับการลงมติจากสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางให้เป็นผู้ที่เมาะสมดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ พุ่มพิมล ขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง

กรณีดังกล่าว เกิดขึ้นเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2551 มติของสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เห็นชอบให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ พุ่มพิมล เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิบการบดีฯ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จึงต้องดำเนินการเสนอรายชื่อ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง

ทว่า นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางไม่ยอมส่งชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด จึงเป็นการที่นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม พรบ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ ตรงกันข้าม นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางกลับให้มีประชุมสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางและมีมติให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ เป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางแทน ทำให้ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ พุ่มพิมล ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่

ต่อมาศาลปกครองจังหวัดเชียงใหม่มีคำพิพากษาให้เพิกถอนมติของสภามหาวิทยาลัยราชภัฎลำปาง ที่เลือกผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ เป็นผู้สมควรคำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง และให้นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฎลำปางดำเนินการเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ พุ่มพิมล ให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด และให้คำสั่งกำหนดวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษาที่ให้นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ชะลอการเสนอผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง มีผลบังคับต่อไปจนกว่าคดีถึงที่สุด

ระหว่างนี้ทางสภามหาวิทยาลัยฯ ได้มีมติแต่งตั้งให้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2551 เป็นระยะเวลา 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 13 มิถุนายน 2552 นี้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วิลาศ เห็นว่าระหว่างที่รอการโปรดเกล้าฯ เพื่อให้การแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เป็นไปโดยชอบและเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จึงขอให้ทางกระทรวงศึกษาธิการได้พิจารณาแต่งตั้งบุคคลที่มีความเป็นกลาง ซึ่งไม่ใช่ผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ เข้ามาดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จนกว่าจะได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง

ทั้งนี้ หากศาลปกครองพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ตนอาจจะต้องร้องขอให้ทางกระทรวงฯ ได้พิจารณาโทษทางวินัยและเรียกค่าเสียหายทางละเมิด ซึ่งเกิดขึ้นกับหน่วยงานของรัฐและส่วนตัวกับผู้ช่วยศาสตราจารย์เล็ก แสงมีอานุภาพ ด้วย

ด้าน นายมัธยม นิภาเกษม ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวว่า ตนได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานให้ รมช.ศึกษาธิการรับทราบแล้ว โดย รมช.ศึกษาธิการ ได้ย้ำให้ดูแลให้ใกล้ชิดและล่าสุดได้มีคำสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลมหาวิทยาลัยราชภัฏเข้าไปตรวจสอบโดยด่วน คาดว่า 2-3 วัน จะทราบผล เพราะขณะนี้ใกล้หมดเวลาที่กฎหมายกำหนด 180 วันสำหรับการรักษาราชการแทนอธิการบดี ตาม พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 มาตรา 33 หากพ้นเวลาที่กฎหมายกำหนดแล้ว ก็ยังไม่มีกฎหมายใดกำหนดว่าสภามหาวิทยาลัยต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้คงไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะคงไม่มีที่ไหนที่จะมีการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนยาวนานถึง 180 วัน

แต่กรณีของที่นี่แตกต่างไปจากที่อื่นเนื่องจากมีการฟ้องต่อศาลปกครอง และขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการอุทธรณ์ด้วย ซึ่งหากตนเองเป็นสภามหาวิทยาลัยฯ ก็คงต้องเสนอเรื่องให้ ทาง สกอ.เป็นผู้พิจารณาแทน เพราะหากดำเนินการใดๆ ไปแล้วผิดพลาดทางสภามหาวิทยาลัยฯ ทั้งหมดต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น