หนองคาย-ศุลกากรหนองคายแถลงผลตรวจยึดเหล้า บุหรี่ ที่นักท่องเที่ยวนำเข้าเกินกว่าสิทธิที่กฎหมายกำหนดเข้าประเทศ พร้อมสินค้าลักลอบนำเข้าโดยผิดกฎหมาย เผยหลังใช้มาตรการตั้งกล่องทิ้งสินค้านำเข้าเกินเพียง 5 วัน นักท่องเที่ยวผ่านด่านสะพานฯให้ความร่วมมือดี ทิ้งเหล้าบุหรี่ซื้อเกินลงกล่อง ไม่เสี่ยงถูกจับ แถมบางรายยังนำสินค้าไปคืนร้านค้าที่ลาวเอง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้( 20 พ.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย- ลาว ฝั่งขาออกประเทศ อ.เมือหนองคาย นายภราดร พงษ์สุวรรณ นายด่านศุลกากรหนองคาย, นายเผดิมเดช มั่งคั่ง หัวหน้าฝ่ายควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมสินค้า ห้วงระหว่างวันที่ 15-20 พ.ค.2552 ประเภทเหล้าต่างประเทศ 137 ขวด, บุหรี่ต่างประเทศ 43 คอตตอน, ไพ่พลาสติก 78 สำรับ กระเป๋าสตางค์แบบผู้หญิง 2 ใบ มูลค่าประมาณ 41,450 บาท
ทั้งยังได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ พร้อมอุปกรณ์ จำนวน 92 เครื่อง ซึ่งบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางปะปนมากับสัมภาระผู้โดยสาร บนรถโดยสารระหว่างประเทศ แต่ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดไว้ มูลค่าของกลางประมาณ 320,000 บาท
นายภราดร พงษ์สุวรรณ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นภาษีเครื่องดื่มแอลอกอฮอล์และบุหรี่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประกอบกับนักท่องเที่ยวที่ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ไปท่องเที่ยวยังประเทศลาว และขากลับมักจะซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลอดภาษีฝั่งลาว ประเภทเหล้า บุหรี่ เข้ามาด้วย ซึ่งตามสิทธิแล้วนักท่องเที่ยวสามารถซื้อเหล้า เบียร์ ไวน์ ได้คนละ 1 ลิตร หรือ 1 ขวด บุหรี่ คนละ 1 คอตตอน หรือ 200 มวน หากเกินกว่านี้จะถูกจับ
แต่เนื่องจากหลังการปรับขึ้นภาษีในไทย ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่นิยมข้ามไปซื้อเหล้า บุหรี่ จากลาวกลับเข้ามาเพราะเห็นว่ามีราคาถูกกว่า รวมทั้งมีความพยายามลักลอบเข้ามาในปริมาณมาก จนถึงขั้นนำมาในเชิงพาณิชย์ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงต้องเข้มงวดกวดขัน
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดท่องเที่ยว และไม่อยากให้การเข้มงวดของเจ้าหน้าที่กระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ทางศุลกากร จึงได้ประชาสัมพันธ์แจ้งให้นักท่องเที่ยวทราบถึงสิทธิในการซื้อสินค้าให้ทราบก่อนเดินทางออกนอกประเทศ และจัดทำกล่องทิ้งสินค้านำเข้าที่เกินกว่า ได้รับสิทธิให้นำเข้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ตั้งไว้บริเวณก่อนถึงจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ศุลกากร
เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้ามาเกินกว่ากำหนดก็ต้องทิ้งลงกล่อง นำเข้าได้เฉพาะตามสิทธิเท่านั้น หรือหากนักท่องเที่ยวเสียดาย ก็สามารถเดินทางย้อนกลับไปคืนสินค้าเรียกเงินคืนได้ที่ร้านค้าปลอดภาษีในลาว เพื่อไม่ต้องเสียเงิน และเสียสินค้าที่ซื้อมา ซึ่งในช่วงแรกนักท่องเที่ยวยังไม่ทราบถึงมาตรการนี้ทำให้มีสินค้าถูกทิ้งลงกล่องในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก หลังจากนี้คาดว่าปริมาณจะลดลงเนื่องจากนักท่องเที่ยวเริ่มทราบถึงมาตรการของเจ้าหน้าที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ยังได้ขอความร่วมมือกับประชาชน นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะบรรดาข้าราชการที่เดินทางไปเที่ยวยังต่างประเทศ แล้วซื้อสินค้าเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตาม ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่ทางการกำหนดไว้ ไม่อาจใช้สิทธิพิเศษในการเป็นข้าราชการที่จะกระทำผิดเสียเองได้