ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ลูกทหารเมาแล้วซ่า! ควักระเบิดโชว์ในร้านอาหาร ตำรวจสายตรวจโคราชตามจับเจอขว้างระเบิดใส่เจ็บ 2 นาย คาดเป็นระเบิดสังหาร M-26 หลังเกิดเหตุ ผบช.ภาค 3 สั่งตำรวจกระจายกำลังกดดันนานกว่า 1 ชั่วโมง คนร้ายตัดสินใจใช้ระเบิดอีกลูกที่พกมาสังหารตัวเองเพื่อหนีความผิด เผยเป็นทหารเกณฑ์ที่เพิ่งปลดประจำการเมื่อปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
เมื่อเวลา 02.00 น.วันนี้ (18 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุคนร้ายขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ 191 นครราชสีมา ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย ที่บริเวณใต้สะพานสูงข้ามทางรถไฟหัวทะเล ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงนำกำลังรุดตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบกองเลือด และหลุมขนาดเล็กมีสะเก็ดระเบิดตกอยู่บริเวณโดยรอบจำนวนมาก ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจจราจร 191 จำนวน 2 นาย ทราบชื่อภายหลังคือ ด.ต.สมบูรณ์ คู่ตระกูล อายุ 50 ปี บาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าอก และ ส.ต.อ.รัฐภูมิ มุงรัง อายุ 28 ปี บาดเจ็บบริเวณหลังและแขนจากสะเก็ดระเบิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำส่งรักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา ส่วนที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกกั้นบริเวณโดยรอบไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป จากนั้นชุดตรวจเก็บกู้วัตถุระเบิดของตำรวจภูธรภาค 3 ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าเป็นระเบิดขว้างชนิดสังหาร M-26
ทั้งนี้จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น.นายวีระพงษ์ ชนะพาล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/194 ม.11 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา คนร้าย ซึ่งเป็นอดีตทหารเกณฑ์ที่เพิ่งปลดประจำการเมื่อเดือน เม.ย.2552 ที่ผ่านมา ได้เข้ามาเที่ยวที่ร้านอาการนิวส์ทุ่งทะเล ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา ในสภาพมึนเมาก่อนที่จะควักระเบิดออกมาโชว์คนในร้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้เข้าตรวจสอบแต่นายวีระพงษ์ไหวตัวทันจึงวิ่งหลบหนีออกจากร้าน เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อวิทยุสื่อสารให้สายตรวจจราจรช่วยสกัดบริเวณจับ กระทั่งนายวีระพงษ์วิ่งมาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณใต้สะพานสูงข้ามทางรถไฟจุดเกิดเหตุห่างจากร้านอาหารนิวส์ทุ่งทะเล ประมาณ 800 เมตร จึงขว้างระเบิดที่นำติดตัวมาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ และเจ้าหน้าที่สายตรวจได้ใช้ปืนประจำกายยิงสวนกลับไปแต่ไม่ถูก นายวีระพงษ์จึงวิ่งหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่ยึดได้เพียงรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำเงิน ที่นายวีระพงษ์จอดไว้ที่ร้านอาหารดังกล่าวเท่านั้น
ภายหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.กฤษฏา พันธุ์คงชื่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้เดินทางมาดูที่เกิดเหตุพร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่กระจายกำลังตรวจสอบบริเวณข้างเคียงเนื่องจากเชื่อว่านายวีระพงษ์ คนร้ายหนีไปได้ไม่ไกล โดยใช้ไฟส่องสว่างบริเวณโดยรอบทางรถไฟ และนำสุนัขตำรวจจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาไล่ล่าตัวคนร้ายพร้อมสั่งกำชับให้ใช้ความระมัดระวังเนื่องจากคนร้ายมีวัตถุระเบิดอยู่ในมืออีก 2 ลูก
กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จึงเข้าไปตรวจสอบพบศพของนายวีระพงษ์ คนร้าย สภาพเละเศษเนื้อตกกระจายเกลื่อนจากแรงอัดระเบิด ศพตกอยู่ในป่าข้างทางรถไฟ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่คาดว่า เนื่องจากตำรวจกดดันมากนายวีระพงษ์จึงตัดสินใจใช้ระเบิดปลิดชีพตัวเองเพื่อหนีความผิด
ด้านเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร (สห.) ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ กล่าวว่า นายวีระพงษ์ เป็นบุตรของ จ.ส.อ.อดิศักดิ์ ชนะพาล ทหารสังกัด ช.201 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา และเพิ่งปลดประจำการทหารเกณฑ์ออกไปเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จากการสอบถามมารดาของนายวีระพงษ์ทราบว่า ลูกชายสติไม่ค่อยดี ชอบทำร้ายร่างกายพ่อแม่อยู่เป็นประจำ ชอบความรุนแรง ล่าสุดทำร้ายร่างกายแม่ตัวเองจนขาหักเดินไม่ได้ แต่ไม่ทราบว่าลูกชายเอาระเบิดมาจากที่ไหน