ฉะเชิงเทรา - ถูกส่งตัวมาถึงแปดริ้วแล้ว นักโทษพ้องสกุลดัง “วงศ์สวัสดิ์” หลังลงทุนทุบกำแพงแหกคุกออกไปขับรถชมวิวถึงเมืองจันทน์ ขณะ ผบ.เรือนจำเตรียมขอย้ายสถานที่ก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ อ้างที่เก่ามีอายุเก่าแก่เฉียดร้อยปี หวั่นกักเก็บคุมขังนักโทษไม่อยู่อีก พร้อมแจงที่ปิดปากเงียบตลอดหลายวันหลังเกิดเหตุเกรงนักโทษรู้ความเคลื่อนไหวเผ่นไปไกลจนตามจับยาก
เวลา 19.50 น.วานนี้ (12 พ.ค.) นายอุดม รัตนโภคิน ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นายรุ่งอรุณ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 29 ปี นักโทษคดีลักทรัพย์ แหกห้องขังหนีออกไป เมื่อวันที่ 10 พ.ค.52 ต้องโทษจำคุก 2 ปี 6 เดือน กลับมารับโทษ และดำเนินคดีที่ก่อเหตุขึ้นอีกระหว่างการหลบหนีเพิ่มต่อยัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา หลังเดินทางมาถึงได้รีบนำตัวเข้าที่คุมขังในทันที
พร้อมกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่ได้แถลงแจ้งให้สื่อมวลชนทราบเนื่องจาก หวั่นเกรงว่าผู้ต้องขังจะรู้ถึงความเคลื่อนไหว และหนีเตลิดไปไกล และยากต่อการติดตามมากยิ่งขึ้น ส่วนการตำเนินการกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ของเรือนจำที่เข้าเวรในคืนวันเกิดเหตุนั้น จะตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และลงโทษทางวินัยต่อไป แต่เชื่อว่าเกิดจากการปฏิบัติที่ไม่รัดกุมของเจ้าหน้าที่ มากกว่า ที่จะมีส่วนรู้เห็น หรือช่วยเหลือนักโทษให้หลบหนี เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนรักศักดิ์ศรี คงไม่มีใครกล้าทำ
สำหรับเรือนจำกลางจังหวัดฉะเชิงเทราแห่งนี้นั้น เป็นสถานที่คุมขังนักโทษมานานถึงกว่า 94 ปี มีสภาพเก่าแก่ความมั่นคงน้อย กำแพงทรุดโทรม ปลูกสร้างอยู่บนเนื้อที่เพียง 9 ไร่ 2 งาน ที่ผ่านมาเคยทำโครงการเสริมความมั่นคงด้วยการก่ออิฐเสริมลวดหนามให้สูงขึ้นมาแล้ว
ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการประสานกับทางจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อขอใช้ที่ดินสาธารณประโยชน์ จำนวนกว่า 100 ไร่เศษ ที่อยู่ในความดูแลของ อบต.หัวไทร อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อก่อสร้างเรือนจำแห่งใหม่ ที่มีความมั่นคงสูงยิ่งขึ้น ซึ่งหากผ่านขั้นตอนจนได้ที่ดินดังกล่าวแล้ว จะได้เสนอไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อของบประมาณในการก่อสร้างต่อไป
สำหรับการติดตามจับกุมตัว นายรุ่งอรุณ วงศ์สวัสดิ์ ได้ในครั้ง ทราบว่า พ.ต.อ.วัลลภ สามารถ ผกก. สภ.สอยดาว จ.จันทบุรี ได้นำกำลังชุดสืบสวน เข้าควบคุมตัวได้ที่บริเวณหน้าวัดทับช้าง พื้นที่หมู่ 1 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว ภายหลังได้รับการประสานจากทางเรือนจำกลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่าผู้ต้องขังคนดังกล่าวหลบหนีเข้าไปอยู่ในพื้นที่ จนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเห็น นายรุ่งอรุณ อยู่ที่บริเวณดังกล่าวจึงได้เข้าทำการจับกุมตัว โดยขณะถูกจับกุมตัว นายรุ่งอรุณ ไม่ได้อยู่ในสภาพถูกตีตรวน รัดข้อมือ ข้อเท้า แต่อย่างใด
ขณะที่ นายรุ่งอรุณ ยอมรับสารภาพว่าหลังจากหลบหนีออกจากเรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ออกมาได้ ได้เข้าไปก่อเหตุโจรกรรม รถจักยานยนต์ยามาฮ่า หมายทะเบียน 01-052 สภ.พนัสนิคม ของชาวบ้าน ที่จอดทิ้งไว้หน้าบ้าน บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ซึ่งอยู่ใกล้เคียง ด้วยวิธีการหักกุญแจล็อกคอ และต่อสายตรง ขับขี่รถหลบหนีไปในคืนนั้น มุ่งหน้ามายัง อ.สอยดาว เพื่อจะเข้าไปหาพี่ชาย คือ นายราด วงศ์สวัสดิ์ ที่หมู่บ้านวัดใหม่ชัยมงคล หมู่ 15 ต.ทับช้าง อ.สอยดาว เพื่อขอเงินใช้ในการเดินทางหลบหนีต่อไป แต่ไม่ได้พบกัน จึงได้ขับรถออกจากหมู่บ้านมา จนมาถูกจับกุมได้ยังบริเวณหน้าวัดทับช้าง ดังกล่าว
สำหรับโซ่ตรวนที่หายไปนั้นตนได้ทำการตัดออกทิ้งไปแล้ว หลังจากหลบหนีออกจากเรือนจำมาได้ ได้ใช้ผ้าคลุมปิดมือ และเท้าเข้าไปซื้อใบเลื่อยที่ร้านค้าแห่งหนึ่งใน จ.ฉะเชิงเทรา แล้วลงมือเลื่อยตัดจนโซ่ตรวนขาด และในการหลบหนีออกจากเรือนจำนั้น ตนได้ใช้เศษเส้นลวดที่ตกอยู่ภายในห้องขังเดี่ยว ขูดผนังปูนซีเมนต์ออกจนเป็นรูโหว่ ก่อนที่จะมุดรอดหลบหนีออกมาได้
ส่วนสาเหตุที่ต้องแหกคุก หลบหนีจากการถูกคุมขังนั้น เพราะเครียดจัด จนเคยใช้มีดเฉือนคอตนเองหวังที่จะฆ่าตัวตายมาแล้วจนถูกผู้คุมจับไปขังเดี่ยว จึงทำให้เกิดความเครียดมากยิ่งขึ้น จึงได้ตัดสินใจที่จะแหกห้องขังออกมาในครั้งนี้ สำหรับนามสกุล “วงศ์สวัสดิ์” ที่ไปเหมือนกับนักการเมืองที่มีชื่อเสียงนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันหรือเป็นญาติกันแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ จะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ และข้อหาหลบหนีออกจากสถานที่คุมขัง และจะนำไปขออำนาจศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ฝากขังต่อไป