“มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขง-เชียงราย”คึกคัก/ผู้ค้าไทย-เทศแห่เปิดบูธ-หวังหนุนค้าชายแดนโต

เชียงราย – มหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขงที่เชียงรายเริ่มแล้ว ผู้ประกอบการทั้งไทย – เทศ แห่ร่วมเปิดบูธจำหน่ายสินค้ามากถึง 452 ราย คาดตลอดทั้งงานทำเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ย้ำแนวโน้มการค้าชายแดนทุกด้านเติบโตขึ้นต่อเนื่อง สวนทางการค้าโลก หวังความสัมพันธ์ระหว่างไทย กับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านในลุ่มน้ำโขงช่วยกระตุ้นการค้าขายระหว่างกันมากขึ้นในอนาคต

รายงานข่าวจาก จ.เชียราย แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 8-14 พ.ค.นี้ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ จ.เชียงราย ได้จัดงานมหกรรมการค้าลุ่มน้ำโขงประจำปี 2552 ณ สนามฝึกนักศึกษาวิชาทหาร เชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง อ.เมือง จ.เชียงราย อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีการทำพิธีเปิดค่ำวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีประชาชนเข้าร่วมชมและซื้อสินค้ารวมทั้งชมการแสดงบนเวทีเป็นจำนวนมาก เพราะรูปแบบการจัดงานจะเป็นการจัดในโดมขนาดใหญ่พร้อมเครื่องปรับอากาศทำให้ผู้เข้าร่วมงานไม่ร้อนอบอ้าว และได้รับอำนวยความสะดวกครบครัน

ภายในงานมีผู้ประกอบนำสินค้าหลากหลายชนิดไปร่วมแสดงกว่า 452 บูธ ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภคในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน การแสดงบนเวทีทั้งการแสดงพื้นเมือง ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมล้านนา รวมทั้งมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตจากนักร้องชื่อดัง สร้างความประทับใจให้กับผู้ไปเยี่ยมชมงานอย่างมาก

ในพิธีเปิดนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเดิมมีกำหนดจะเดินทางไปเป็นประธานติดภาระกิจอื่นจึงได้แจ้งยกเลิกการเดินทางไปเป็นประธาน ทำให้นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ไปเป็นประธานในพิธีเปิดแทน เช่นเดียวกับกำหนดการณ์เดิมที่เคยประชาสัมพันธ์กันว่า จะมีรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมการค้า สปป.ลาว และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พม่าก็มีการยกเลิกเช่นกัน อย่างไรก็ตามภายในงานยังคงมีความคึกคัก

นายราเชนทร์ แจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่า จากภาพรวมการส่งออกของประเทศที่ลดลงกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน กรมสงเสริมการส่งออกจึงได้จัดงานมหกรรมลุ่มน้ำโขงเพื่อกระตุ้นการส่งออก รวมทั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าโดยอาศัยความสัมพันธ์ทางการค้าชายแดนในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขงคือไทย จีน สปป.ลาว และพม่า ซึ่งมีการค้ากันมาแต่เดิมช่วยกระตุ้นการค้าขายให้คึกคักมากขึ้น

นายราเชนทร์ กล่าวว่าในปี 2551 ที่ผ่านมามีการค้าชายแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่าทั้งสิ้น 143,686 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก 35,198 ล้านบาท และการนำเข้า 108,489 ล้านบาท ส่วนของการค้าชายแดนกับ สปป.ลาว พบว่ามีมูลค่าการค้ารวม 77,521 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก 56,029 ล้านบาท และการนำเข้า 21,492 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงมาก นอกจากนี้ในปัจจุบันยังสามารถค้าขายกับจีนตอนใต้ซึ่งพบว่ามีมูลค่าการค้าที่สูงกว่าอีกด้วย

ดังนั้นกรมส่งเสริมการส่งออกจึงได้จัดงานมหกรรมลุ่มน้ำโขงที่ จ.เชียงราย เป็นครั้งที่ 4 แล้วหลังจากได้ ตระเวณจัดงานมาแล้ว 3 จังหวัดคือ จ.อุดรธานี อุบลราชธานีและมุกดาหาร ซึ่งถือว่าประสบผลสำเร็จด้วยดี โดยผู้เข้าชมงานทั้งจากกรุงเทพ จังหวัดใกล้เคียง และประเทศเพื่อนบ้าน มีการจับจ่ายใช้สอยในงาน ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในภูมิภาคและที่สำคัญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการค้าชายแดนได้อีกด้วย

"คาดว่าจะมีผู้เดินทางไปชมงานตลอดทั้งการจัดงานไม่ต่ำกว่า 300,000-500,000 คน และสร้างเงินหมุนเวียนวันละประมาณ 10-20 ล้านบาทหรือตลอดทั้งงานประมาณ 100 ล้านบาท" นายราเชนทร์ กล่าว