เชียงราย– ผู้ว่าฯเชียงราย พร้อมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเมืองพ่อขุนฯ ตั้งวงถกแนวทางฟื้นชีพธุรกิจนำเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน วางแผนดึงผลงานศิลปินชื่อดังในพื้นที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่ม พร้อมมุ่งเน้นเปิดตลาดทัวร์ จีเอ็มเอส. ดึงคนจีนเข้าไทยผ่านชายแดน ขณะที่ภาคเอกชนจี้รัฐเร่งมือ Visa On arrival ในกลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขงให้เป็นจริง - ดันสายการบินนานาชาติเข้าเชียงรายเพิ่ม
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า ระหว่างวันที่ 26-27 เมษายนที่ผ่านมา สมาคมท่องเที่ยวเชียงราย ได้จัดการประชุมสมาคมประจำเดือนเมษายน 2552 และทัศนศึกษาสถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางสาย อ.แม่สรวย-เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ที่สวนทิพย์วนารีสอร์ท ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย มีนายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานและมีนายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย นำสมาชิกสมาคมเข้าร่วมครบครัน
เนื้อหาของการประชุมส่วนใหญ่เป็นการหารือกัน เกี่ยวกับสถานการณ์การท่องเที่ยวที่เลวร้ายอันเกิดจากปัญหาทางการเมืองที่ยุ่งเหยิงและเศรษฐกิจที่ตกต่ำไปทั่วโลก รวมทั้งหาวิธีการในการพยุงธุรกิจท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซันนี้ไปจนถึงปลายปี
นายสุเมธ กล่าวว่า จังหวัดมีนโยบายในการพัฒนา 5 ด้าน ได้แก่ พัฒนาการเกษตร การค้าชายแดน โครงการในพระราชดำริ โครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์ และภาคการท่องเที่ยว ซึ่งภาคการท่องเที่ยวในช่วงนี้ถือว่าได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจจึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนา 1 ใน 5 ด้านดังกล่า;
สังเกตได้จากช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งปกติจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนเป็นจำนวนมากก็ลดน้อยลง เท่าที่ทราบคือมีประมาณ 60,000 กว่าคนเท่านั้น ขณะที่บรรยากาศที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย ก็มีนักท่องเที่ยวไม่มากเหมือนเดิม ทำให้ทั้งปีก็ไม่แน่ใจว่าตัวเลขจะถึงจำนวน 1.6 ล้านคนเหมือนปี 2551 ที่ผ่านมาหรือไม่
นายสุเมธ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามได้ตั้งเป้าหมายให้นักท่องเที่ยวไปเยือนเชียงรายตลอดทั้งปีนี้ถึง 2 ล้านคน จังหวัดจึงได้เร่งแก้ไขปัญหาโดยจะร่วมกับภาครัฐและเอกชนในการโหมประชาสัมพันธ์โดยวิธีการ 3 อย่างคือ การเพิ่ม การลด และการให้เท่าเดิม
การเพิ่มคือ การพยายามเพิ่มศักยภาพของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในนั้นคือการอาศัยแนวคิดของศิลปิน เช่น อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชาวเชียงรายผู้รังสรรค์ผลงานสร้างวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมีชื่อเสียงโด่งดัง และหนึ่งในเคล็ดลับสำคัญ คือ การทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่หยุดนิ่งและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยไปเยือนแล้วต้องหันกลับไปเยือนอีกหลายครั้งนั่นเอง
การลดนั้น ต้องลดปัญหาอุปสรรคต่างๆ เช่น ขยะ ฯลฯ ส่วนการทำให้เท่าเดิมคือ พยายามอนุรักษ์สิ่งที่มีดั้งเดิมเอาไว้ เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ ส่งเสริมวัฒนธรรมล้านนา ฯลฯ การนำเอาความเป็นเมืองศิลปินของเชียงรายมาเป็นจุดขายสำคัญ เป็นต้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวด้วยว่า ตนเห็นด้วยกับแผนบันได 5 ขั้นของสมาคมท่องเที่ยวที่นำเสนอมากคือขั้นที่ 1 คือสร้างกองพันโดยรวมกลุ่มผู้ประกอบการท้องถิ่นและหน่วยงานเกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 จัดกลุ่มธุรกิจทำคลัสเตอร์ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ขั้นที่ 3 จัดทำสินค้า พัฒนาสถานที่ท่องเที่ยว เช่น โปรแกรมทัวร์ สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ ขั้นที่ 4 ทดสอบสินค้า และขั้นที่ 5 ออกจำหน่ายตามตลาดท่องเที่ยวต่างๆ
จากนั้นนำบันไดทั้ง 5 ขั้นมาประยุกต์ใช้กับภาคการท่องเที่ยวต่อไป ทั้งนี้ปัจจุบันถือว่าขั้นที่ 1-2 ค่อนข้างเสร็จเรียบร้อยแล้วต่อไปคือขั้นที่ 3-5 ซึ่งจะต้องผลักดันกันต่อไป
“จังหวัดจะให้ความสำคัญในการพัฒนาในกลุ่มจีเอ็มเอสมากขึ้น เพราะจีนตอนใต้มีประชากรกว่า 500 ล้านคน เราขอดึงให้มาเยือนเพียงปีละ 1 ล้านคนก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว โดยเฉพาะปัจจุบันเส้นทางคมนาคมพัฒนามากขึ้นทั้งทางเรือในแม่น้ำโขงและทางถนนอาร์สามเอ ไทย-สปป.ลาว-เชียงราย ซึ่งกำลังจะมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมในเร็วๆ นี้ จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของเชียงรายในอนาคตได้แน่นอน” นายสุเมธ กล่าว
ด้านนายสมเกียรติ ชื่นธีระวงศ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย กล่าวว่า การยกเลิกพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลของรัฐบาลได้ช่วยทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวฟื้นขึ้นมาได้บ้าง แต่จะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคต ดังนั้นการที่ทางจังหวัดเห็นความสำคัญครั้งนี้ภาคเอกชนจึงมีขวัญกำลังใจมากขึ้น และขอยกกองทัพภาคการท่องเที่ยวให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นแม่ทัพ ส่วนนักธุรกิจในสมาคมจะขอเป็นทหารเพื่อผลักดันกองทัพให้ผ่านวิกฤตต่อไป
อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจการท่องเที่ยวระดับภูมิภาคหรือรากหญ้าด้วย เพราะที่ผ่านมาพบเห็นการใช้งบประมาณกระตุ้นการท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่หายไปโดยไม่เห็นผลชัดเจน
“อย่างน้อยหากจะดำเนินโครงการใดๆ ก็ควรให้เอกชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมด้วย”
ขณะที่ น.ส.สุภาวิณี สุวรุจิพร ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจ สวนทิพย์วนารีสอร์ท กล่าวว่า จากวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจในปีนี้ ทำให้อัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 30-40% ดังนั้นภาคเอกชนจึงทำทุกวิถีทางเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเยือน เช่น การลดราคาห้องพัก ฯลฯ อย่างไรก็ตามยังไม่ถึงขั้นให้พนักงานออก และเมื่อเห็นนโยบายและแนวทางของจังหวัดและสมาคมท่องเที่ยวแล้วเห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการพัฒนาการประชาสัมพันธ์ขนบธรรมเนียมประเพณีต่างๆ ให้ถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่านอกจากนี้ที่ประชุมครั้งนี้มีอุปนายก กรรมการและสมาชิกหลายคน แสดงความเห็นให้จังหวัดช่วยผลักดัน เช่น การผลักดันเรื่อง Visa On arrival หรือวีซ่าเมื่อไปถึง ในกลุ่มจีเอ็มเอสซึ่งยังไม่เป็นรูปธรรม - ผลักดันสายการบินนานาชาติไปยังเชียงราย เป็นต้น