xs
xsm
sm
md
lg

อดีตสหายอีสานเตรียมบุกทำเนียบทวงสัญญา “66/23” ย้ำไม่ร่วมมุดใต้ดินป่วนชาติกับกลุ่มใด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แกนนำอดีตสหาย 15 จว.อีสาน รวมตัวประกาศจุดยืนไม่เคลื่อนไหวใต้ดินหรือจับอาวุธขึ้นสู้ร่วมกับกลุ่มใดตามที่แอบอ้าง  ที่อนุสรณ์สถานประชาชนอีสานใต้ อ.ปะคำ  จ.บุรีรัมย์
บุรีรัมย์ - แกนนำ ผรท. หรืออดีตสหาย 15 จว.ภาคอีสาน และภาคกลาง 4 จว.กว่า 100 คน รวมตัวที่อนุสรณ์สถานประชาชนอีสานใต้ จ.บุรีรัมย์ แถลงย้ำจุดยืนไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวใต้ดินป่วนชาติหรือจับอาวุธขึ้นสู้สร้างความรุนแรงเช่นอดีตกับกลุ่มเสื้อสีใดตามที่ถูกแอบอ้าง เผยภายใน 4-5 วัน จะเคลื่อนพลกว่า 5,000 บุกทำเนียบ ทวงสัญญาที่รัฐรับปากช่วยเหลือตามนโยบาย 66/23 ชี้ ผรท.ยึดแนวทางต่อสู้สันติ ไม่ก่อความรุนแรง สร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อส่วนรวม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบุรีรัมย์ว่า กลุ่มแกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) 15 จังหวัดภาคอีสาน และ ภาคกลาง 4 จังหวัด หรือ อดีตสหาย กว่า 100 คน นำโดย นายประภาส โงกสูงเนิน ประธานสภาเครือข่ายประชาชน 4 ภาค ได้รวมตัวกันที่อนุสรณ์สถานประชาชนอีสานใต้ บ.โคกเขา ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงจุดยืนไม่เข้าร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มใดๆ ตามที่มีบุคคลบางกลุ่มได้แอบอ้าง และกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยจะเข้าไปร่วมเคลื่อนไหวใต้ดินสร้างความรุนแรงในสังคม หรือ จับอาวุธขึ้นสู้อย่างเช่นในอดีตนั้นไม่เป็นความจริง

โดยทางกลุ่มมีจุดยืนของตัวเองในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองก่อให้เกิดความสงบสุข ไม่ทำร้ายประเทศไทย และเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิตามข้อตกลง 66/23 เท่านั้น ไม่มีนัยยะอื่นแอบแฝง และขอให้กลุ่มที่แอบอ้างได้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะได้สร้างความเสียหายให้กับกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ เลย

นายประภาส โงกสูงเนิน ประธานสภาเครือข่ายประชาชน 4 ภาค หรือ อดีต “สหายสุรศักดิ์” ได้กล่าวยืนยันว่า กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยไม่เคยเข้าไปร่วมชุมนุมเคลื่อนไหว สร้างความรุนแรงแตกแยกกับกลุ่มเสื้อสีใด ตามที่ถูกกล่าวอ้าง ทางกลุ่มมีจุดยืนเดียวกันที่จะร่วมพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองและต่อสู้เรียกร้องสิทธิอันชอบธรรมให้กับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนเท่านั้น และแนวทางการต่อสู้ของกลุ่ม ผรท.เอง ก็จะต่อสู้ในทางสันติ ไม่ก่อความรุนแรง หรือสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้กับส่วนรวม

ส่วนที่แกนนำกลุ่ม ผรท.ทั้งภาคอีสาน19 จังหวัด และภาคกลาง 4 จังหวัด มารวมตัวเพื่อแถลงจุดยืนในครั้งนี้ ก็เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่าทางกลุ่ม ผรท.ไม่เคยเข้าไปร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมกับกลุ่มเสื้อสีใด และก็ยืนยันว่าจะไม่เข้าไปร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่มการเมืองใดอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาประเทศชาติบ้านเมืองก็วุ่นวายเสียหายมากอยู่แล้ว และส่วนตนก็มีความคิดเห็นว่ากรณีที่กลุ่มเสื้อสีต่างๆ ออกมาชุมนุมประท้วงนั้น ต่างอ้างว่าสู้ตามระบอบประชาธิปไตย และสู้เพื่อประเทศชาติ แต่สิ่งที่กระทำกลับตรงกันข้าม และหากทุกคนเป็นคนไทย รักประเทศไทย และยืนหยัดที่จะต่อสู้ปกป้องประเทศ ก็ไม่ควรจะทำร้ายประเทศชาติให้เสียหายอย่างที่ผ่านมา

ทางด้านนายคำเส็ง บุญตาแสง หรือ อดีต“สหายซิวต้า” แกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ระบุว่า ภายใน 4-5 วัน กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยไม่น้อยกว่า 5,000 คน จะรวมตัวไปเคลื่อนไหวที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องสิทธิขอที่ทำกินตามที่รัฐบาลเคยสัญญาไว้ ซึ่งที่ผ่านมาหลายรัฐบาลไม่ได้ให้ความช่วยเหลือตามที่ได้สัญญา ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือเพียงกว่า 1,000 คนเท่านั้น จากสมาชิกผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในเขตภาคอีสานทั้งหมดร่วม 20,000 คน

ขณะที่ นายสุเนตร แก้วคำหาร หรืออดีต “สหายชัด” เลขาประธานสภาเครือข่ายประชาชน 4 ภาค ระบุว่า ที่ผ่านมากลุ่ม ผรท.ได้ต่อสู้เรียกร้องมาทุกรัฐบาล แต่ไม่ได้การช่วยเหลือจากทางรัฐบาลตามที่ได้ทำพันธะสัญญาไว้ตามนโยบาย 66/23 เพียงส่วนน้อยเท่านั้น ยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือทั้งที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ

“มีเพียงยุค พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างจริงใจโดยจ่ายเงินชดเชยให้รายละ 125,000 บาท เป็นบางส่วน ดังนั้น หากรัฐบาลยังไม่ให้การช่วยเหลือตามที่ได้ให้สัญญาไว้ ทางกลุ่มก็จะยังคงเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อไป” นายสุเนตร กล่าว



นายประภาส โงกสูงเนิน หรือ อดีต“สหายสุรศักดิ์”
กำลังโหลดความคิดเห็น