ศูนย์ข่าวศรีราขา - ปัญหาสังคมในปัจจุบัน ที่กดดัน หนุ่ม รปภ. หวังฆ่าตัวตาย แต่กลับใจ แล้วสำนึกได้ กราบขอโทษ เจ่าหน้าที่ตำรวจที่ต้องทำได้เดือดร้อน “วอนเมียรักพาลูกกลับบ้าน..”..
“ผมขอวิงวอนให้เมียรักพาลูกสาวสองคนกลับบ้านด้วย”..นี่เป็นคำกล่าวของนายประพันธ์ศักดิ์ อัจฉริยานุกุล อายุ 46 ปี อาชีพเป็นยามอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ได้มาก่อเหตุระทึกใจตั้งแต่เวลาราว 10 โมงเช้าถึงเวลาบ่ายโมงวันที่ 5 พ.ค.52 ให้แดดร้อนเผาอยู่ถึง 3 ชั่วโมง(ชม.)บนยอดเสาส่งวิทยุที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี ภาพชุดระทึกใจนี้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยถ่ายไว้ได้และส่งมาให้ ASTV -ผู้จัดการ
หลัง 13.00 น. วันที่ 5 พ.ค. นายประพันธ์ศักดิ์ ซึ่งได้กินข้าวกินปลาและดื่มน้ำซึ่งตำรวจโดย พ.ต.อ.นภดล วงษ์น้อม ผกก.ตร. ชลบุรีได้จัดหามาให้แล้วความสำนึก สติ ก็กลับมา เขากล่าวขอโทษตำรวจเมืองชลบุรีทุกคนพร้อมก้มลงกราบตำรวจ ที่เขามาสร้างความเดือดร้อนให้ ผมคิดเพียงจะปีนเสาวิทยุนั้นเพื่อเรียกร้องความสนใจผ่านสื่อ เพื่อให้เมียของผมนางเบญจวรรณได้ทราบ และพาลูกสาว 2คน คือน้องเมย์ กับน้องมายกลับมาอยู่ที่บ้านเท่านั้น เพราะลูกสาวคนโตคือน้องน้ำฝนอยู่กับผมแล้ว…
แต่วินาทีที่คิดอะไรไม่ออกสมองสิ้นคิดก็หมายโดดประชดภรรยา
เกือบ 3 ชม.เต็ม ๆที่ประชาชน สื่อมวลชนเจ้าหน้าที่กู้ภัยและประชาชน ตำรวจนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลจังหวัดชลบุรี ได้พูดจาผ่านเครื่องขยายเสียง พร้อมด้วยโฆษกจังหวัดครูประพนธ์ วัดนอก ได้ช่วยพูดจาจนประสบผลสำเร็จนายประพันธ์ศักดิ์ ยอมไต่ลงจากเสาส่งวิทยุลงมาเวลา 13.00 น(วันที่ 5พค.ที่ผ่านมา)
มันเป็นปัญหาของสังคมไทยตามหัวเมืองใหญ่ ที่ไม่เหมือนกับในชนบทไกปืนเที่ยง ที่พอคนในหมู่บ้านมีปัญหายังหันหน้าเข้าวัดเข้าวาปรึกษาหารือกับพระคุณเจ้าได้ แต่สังคมไทยหัวเมืองใหญ่ๆตัวใครตัวมัน จะไปหารือกับใคร นอกจากจะไปพึ่งเจ้าเข้าทรงหรือไปหาหมอดูเท่านั้น..
ภาพชุดนี้เป็นของคุณหมู สะพานแดง พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชลบุรี ซึ่งขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปพบเหตุการณ์เข้าพอดิบพอดี เขายอมเสียเวลาเกือบ 3 ชม.ถ่ายภาพนี้ส่งมาให้ผู้สื่อข่าวของ ASTV -ผู้จัดการ
สำหรับประชาชนคนอื่นๆที่ไปมุงดูกล่าวว่า สังคมไทยทุกวันนี้เวลามีเรื่องมีปัญหาไม่สามารถจะไปพึ่งใครได้ สังคมทุกวันนี้ต้องไม่ซ้ำเติมกัน จะไปปรึกษาใคร ทุกวันนี้สภาพสังคมไทยตัวใครตัวมัน เพราะไม่มีแล้วความผูกพันทางสังคม ทางวัฒนธรรมและทางประเพณีไทย ทุกอย่างมันผิดเพี้ยนไปอย่างมากมาย
ประชาชนที่มารอดูเหตุการณ์คนหนึ่งกล่าวชื่นชม ตำรวจชลบุรีและนักจิตวิทยาจากโรงพยาบาลจังหวัดชลบุรีที่ช่วยเหลือเอานายประพันธ์ศักดิ์ อาชีพ รปภ.หรือยามลงมาจากเสาวิทยุของที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรีได้ด้วยดี นายประพันธ์ศักดิ์ ยามปากน้ำกลับไปแล้วและบอกตำรวจว่าจะกลับไปทำงานเหมือนเดิม แต่ทว่า..ปัญหาสังคมที่กดดัน เขาอาจจะไปทำอะไรอีกหรือไม่ หลายคนยังพากันครุ่นคิดอยู่