“เฮ้ย...ต้นไม้หน้าบ้านจะล้มแล้ว” เสียง “บอม” พี่ชายคนโตแห่งบ้านสินเจริญเรียกให้ทุกคนในบ้านออกมาช่วยกัน ท่ามกลางสายฝน ที่โปรยลงมาพัดพาเอาความเร่าร้อนของฤดูร้อนให้หายไปจนต้นไม้หน้าบ้านเอน สมาชิกในบ้านต่างสาละวนกับการพยุงต้นไม้ที่สูง ร่มรื่นบวกกับการตกแต่งบ้าน และสตูดิโอเล็กๆ พร้อมหลอดไฟที่ลงตัวไม่น้อย
เสียงหัวเราะ ภาพความสนุกสนานเช่นนี้ ของพี่น้องทั้งสามแห่งบ้านสินเจริญคงเป็นเรื่องปกติของเพื่อนบ้านละแวกนั้นที่มักจะได้ยินกันทุกวัน
“นี่แหละครับสงกรานต์ของเรา” บอย น้องชายคนเล็ก ออกมาต้อนรับทีมงานอย่างเป็นกันเอง
วันนี้ M-Lite มาเยี่ยมบ้านครอบครัวสินเจริญ ครอบครัวที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน ความอบอุ่นในบ้าน ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องและครอบครัวที่ใครๆ ต่างก็ชื่นชม ให้ได้ซาบซึ้งกันในช่วงสงกรานต์วันแห่งครอบครัวนี้
สงกรานต์ ช่วงเวลาแห่งความสุข
ถ้าให้เล่าย้อนไปถึงความสนุกในช่วงสงกรานต์ หลายคนคงจะนึกถึงช่วงวัยและเวลาที่มีแต่ความสุขความอบอุ่นภายในครอบครัว
“สงกรานต์ของเรามีสองเวอร์ชั่น เป็นเวอร์ชั่นตอนเด็ก กับตอนโตขึ้นมาหน่อยตอนยังไม่ได้ทำงาน ถ้าสงกรานต์ตอนเด็กๆ จะไปอยุธยาหนึ่งวัน แล้วก็กลับมากรุงเทพฯ มาเล่นน้ำกัน เล่นสงกรานต์ สาดน้ำ อายุ11 - 12 ปี เมื่อก่อนกรุงเทพฯ ยังมีคนออกมาเล่นน้ำกันทุกคน ตอนนั้นแค่มีสายยาง ถังน้ำ มีรถกระบะผ่านมา เราก็เล่นกันได้แล้ว” น้องชายคนเล็กเปิดฉากความสนุกสนานวัยเด็ก
วีรกรรมมากมายของพี่น้องทั้งสามในช่วงสงกรานต์ คงคล้ายกับเด็กวัยรุ่นในสมัยนั้น ที่จะมีวิธีการในการเล่นกันอย่างแปลกๆ
“เมื่อก่อนปืนฉีดน้ำแรงๆ ยังไม่มี ก็เอาถุงใส่น้ำแล้วก็ปาใส่กัน ซึ่งก็รู้ว่ามันไม่ดี” บอมเล่าถึงวีรกรรมในวันสงกรานต์สมัยยังเด็ก
เมื่อช่วงแห่งวัยที่โตขึ้น ความสนุกในวันสงกรานต์ก็กลับกลายเป็นวันทำงาน แต่พี่น้องสินเจริญก็ยังคงทำงานพร้อมทั้งความสนุก
“ช่วงเทศกาลตอนนี้เราก็เล่นดนตรี ทำงานไปด้วย ตอนนี้ถ้าเป็นสงกรานต์เราก็ทำงานไปด้วยแต่ถ้าที่ทำงานเล่นน้ำด้วยมันก็จะสนุกไปด้วย”
ครอบครัวสนุกแต่ไม่หวาน
แม้ต้องไปทำงานเล่นดนตรีทั้งกรุงเทพฯ และตามต่างจังหวัด ที่มีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่ช่วงวันสงกรานต์ แต่อย่างไรก็ตามครอบครัวสินเจริญก็ต้องกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันในวันแห่งครอบครัว
“วันครอบครัวเราก็จะรดน้ำทวด สรงน้ำพระ เป็นประจำทุกปี เป็นวันที่ทุกคนจะรดน้ำผู้ใหญ่ ทุกคนก็จะมาเจอกัน ถึงจะไปเที่ยวที่ไหน ทุกคนก็จะมาเจอกันเป็นวันครอบครัวแน่นอน”
“ส่วนใหญ่เราจะไม่กอดกัน บ้านเราไม่ใช่บ้านที่จะมาหอมหรือกอดกัน แต่เราจะแสดงออกความรักด้วยการพูดคุยกัน สนุกสนาน คุยแซวกัน มากที่สุดเราก็นอนตักแม่แล้วก็คุยเล่นๆ กับแม่ พูดเล่นกันไป
เวลาที่เราจะรดน้ำพ่อกับแม่ เวลานั้นแหละจะเป็นเวลาที่เราจะได้บอกความในใจกับพ่อแม่ ที่ลูกมีกับพ่อกับแม่ พูดสั่งสอนเรา ตักเตือนเรา ทุกๆ วันนี้พ่อกับแม่ก็จะคอยให้กำลังใจเราอยู่แล้ว”
เมื่อความคิดเห็นไม่ลงรอย
แม้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั้งสามจะแนบแน่น แต่บางทีก็มีบ้างที่การทำงานร่วมกันจะทำให้มีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป แต่ก็ไม่เคยจะทำให้ความรักของพี่น้องสินเจริญลดน้อยถอยลงไป
“เคยทะเลาะกันบ้างไหม ?”
“เคยครับ” บอยบอกและเล่าถึงเหตุผลว่า “เราทะเลาะกันบ่อยเลยแหละถ้าเป็นเรื่องงาน เพราะในงานชิ้นหนึ่งเราทั้งสามก็จะมีความคิดที่แตกต่างกันออกไป” บอมพี่ชายคนโตขอเสริมทัพบ้างว่า “ด้วยเพราะเราเป็นพี่น้องกัน เราก็จะทำงานกันง่าย มีจุดร่วมด้วยกัน มีจุดยอมกัน การทำงานของเราไม่เหมือนการทำงานออฟฟิศ ถ้าเป็นที่อื่นก็ต้องมประชุมกันเพื่อหาข้อสรุป แต่เราพี่น้องคุยกันง่าย คุยกันแบบครอบครัว”
“ว่าง่ายๆ คือเราผลัดกันยอม พ่อกับแม่จะสอนให้ยอมกัน ตอนพ่อไปส่งที่โรงเรียนลงจากรถพ่อก็จะบอกให้พี่บอมดูแลน้อง และก็จะบอกให้พี่เบิ้ลกับบอยเชื่อฟังพี่”
การเมืองเรื่องของคนในบ้าน
บ่อยครั้งที่สภาวการณ์ของสังคมเรื่องราวต่างๆ ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ทุกๆ คนให้ความสนใจ และกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นภายในบ้าน
“เบิ้ล” หนุ่มผมยาว ลูกคนกลางแห่งครอบครัวสินเจริญ ได้เวลาออกตัวมาสมทบเพราะเขามีความสนใจและติดตามเรื่องการเมืองมาโดยตลอด หลังจากปล่อยให้พี่ชายและน้องชายพูดไปได้สักพัก
“เราชอบการเมืองนะ พยายามรู้เยอะๆ จะได้เอามาคิด แล้วก็ไปเจอสิ่งที่เรารู้แล้วว่ามันตรงกับความคิดเรา การเมืองตอนนี้ก็คงเหมือนเราชอบอะไรมากๆ แล้วไม่ได้อย่างที่ใจเราคาดเอาไว้ เราก็ต้องทำใจเอาไว้”
“ผมว่ามันดีที่ทำให้เรามีเรื่องได้คุยกันในครอบครัว เป็นหัวข้อสนทนากันได้เลย จนกลายเป็นเรื่องปกติ เราคุยกันแล้วเรากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นของเรา”
พี่น้องพบรัก
...เสียงกีตาร์ คลอพร้อมเสียงร้องอันนุ่มนวลของพี่ชายคนโตลอยมากระทบหู ที่คอยขับกล่อมให้เราได้ความรู้สึกอบอุ่นไม่น้อย
M-Lite จึงถามถึงเรื่องราวความรักของพี่น้องทั้งสามคนนี้บ้างว่า เรื่องราวความรักของเขาเป็นเช่นไรกันบ้าง
“ชีวิตแต่งงานเราไม่ได้กลัวเขาหรอก แต่เราเกรงใจมากกว่า จะไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายเรื่องอะไรที่เขาเคยทำตอนที่ยังไม่แต่งงาน ก็ให้เขาได้ทำเต็มที่ ก่อนแต่งงานเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้น ให้ชีวิตเขาเป็นแบบเดิมที่เคยเป็น ได้เที่ยวกับเพื่อน ไปไหนมาไหนเราก็ให้เขาไป” พี่ชายออกตัวเล่าถึงชีวิตรักของตัวเองหลังการแต่งงาน
“เรามีความสุขดีครับ ได้เจอกันเกือบทุกวัน พูดคุยกัน รู้เรื่องรู้ราว ถือเป็นเรื่องที่ใกล้ชิด เป็นความใกล้ชิดกับครอบครัวของเรา สงกรานต์นี้ก็จะเจอกันปกติ พี่ก็ไปไหว้พ่อแม่เขา เป็นกิจกรรมของครอบครัวไปกินข้าวกัน มีเวลาให้กัน” บอยเล่าถึงความรักระหว่างเขากับหญิงสาวในวงการ
มาถึงพี่ชายคนกลางที่เราอยากรู้เรื่องราวความรักของเขาเป็นอย่างมาก อาจด้วยบุคลิกนิ่งเงียบ และไม่ค่อยรู้เรื่องราวความรักของเขามากเท่าที่ควร
“ความรักของพี่ดีล่ะครับ เป็นสาวนอกวงการเธอมีชีวิตเป็นส่วนตัว กำลังดูใจกัน พัฒนาความสัมพันธ์ ดีครับ มีแฟน ก็ดูแลกัน เราก็ดูแลกัน ชีวิตเราได้พบกับคนอายุน้อยกว่า ก็ดีครับ เราก็ได้ดูแลเขา เราได้ดูแลเขา ชีวิตเขาเรียบง่าย ไม่ได้เที่ยวกลางคืน ไม่เจอผู้หญิงที่จะทำให้วอกแวก เราดูแลกันพี่น้อง ออกไปไหนก็ไม่ทำให้ชีวิตเรามีปัญหา” เบิ้ลตอบด้วยน้ำเสียงอันนุ่มนวลตามสไตล์
เมื่อสินเจริญถึงคราววงแตก
หลากหลายบทเพลงของสินเจริญ บราเธอร์ส หลายคนคงเคยได้ยิน หรือคุ้นหูกันไปบ้างหรือตามงานต่างๆ
“ถือว่าประสบความสำเร็จหรือยัง?”
“ยังหรอกเพราะเพลงเรายังไม่ใช่เพลงฮิต เพลงฮิตไม่ใช่ว่าจะให้คนมาร้องเพลงเราช่วงหนึ่งแล้วลืม แต่เราอยากให้เพลงของเราเป็นเพลงที่มีคนร้องตลอดไป นึกถึงแล้วมีกำลังใจ” บอมพูดถึงความต้องการในการทำงานเพลง
“อีกหนึ่งความสำเร็จของเรา ก็คือ “สินเจริญ...วงแตก” ไม่ใช่ว่าจะแยกกัน แต่เป็นเหมือนการร่วมมือกันของเราทั้งสามคนซึ่งมีความรักที่จะทำงานด้วยกัน โดยไม่หวังอะไรอีกจากความสนุกสนานที่จะแบ่งปันให้กับผู้คนรอบข้าง”
“ผมอยากเห็นคนรอบข้างผมสนุก มีความสุข ผมถือว่าเมื่อเรามีหลายสิ่งหลายอย่างที่พร้อมมากกว่าคนอื่นเราก็น่าจะแบ่งปัน ก่อนนี้ครอบครัวผมช่วยเหลือน้องเมย์ที่เคยเป็นข่าวโดนคนเมายาจุดน้ำมันราด และมีอีกหลายกรณีที่ช่วยได้ เราก็ยื่นมือเข้าไปช่วยเพื่อให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้น ผมอยากให้ทุกคนมองคนรอบข้างเพื่อแบ่งปันความสุขให้กันและกันบ้าง คงจะมีความสุขไม่น้อย”
พี่ชายคนโตทิ้งท้ายด้วยบทสนทนาที่ต้องการให้ทุกๆ คนหันมามองคนรอบข้าง เพื่อแบ่งปันความสุข ความสนุกสนานให้กับผู้คนที่อยู่ข้างกายกับมิวสิกทอล์กโชว์ที่จะมีขึ้นเร็วๆนี้ของพวกเขา
มาตอนนี้ความสนุกสนานของพี่น้องสินเจริญเห็นจะตื่นเต้นและมีความสุขมากที่จะได้ถ่ายภาพวันสงกรานต์ท่ามกลางสายฝนที่พรำ ลงมาไม่ขาดสาย
... เบิ้ลพี่ชายคนกลางปีนรั้วขึ้นไปก่อน แล้วคอยเอื้อมมือค่อยๆ ดึงตัวน้องชายคนเล็กให้ขึ้นไปด้านบน และถ่ายภาพด้วยแอ็กชันที่พี่ชายคนโตเป็นหัวหอกในการคิดอย่างสนุกสนาน
เสื้อลายดอกของพี่ คอยปูวางเอาไว้คอยกันไม่ให้น้องคนเล็กลื่น พี่ๆ ทั้งสองค่อยๆ พาน้องลงจากรั้ว อย่างทะนุถนอม ... ภาพนี้ยังคงตรึงใจ และสนทนาในครั้งนี้ปิดฉากลงด้วยความรักของพี่น้องครอบครัวสินเจริญได้อย่างน่ารักทีเดียว
***************************
DiD U Know!!!
-ด้วยความใจร้อนของเบิ้ล จึงทำให้เขาและพี่บอมถูกจับตอนเหตุการณ์บ้านเมืองวุ่นวาย เป็นเหตุการณ์ที่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับการเมืองอย่างจริงจัง
-เครื่องดนตรีมากมายจากทั่วโลก ถือเป็นของฝากประจำที่เพื่อนๆ จะซื้อมาฝากครอบครัวสินเจริญ
ภาพโดย : ศิวกร เสนสอน