ศูนย์ข่าวศรีราชา - ร้านส้มตำ “ช.ช้างยกครก” ที่ขยายเฟรนไชส์จากแบรนด์ท้องถิ่นในจังหวัดชลบุรีจนมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศและในหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก เร่งพัฒนาเมนูอาหารเพื่อยกระดับงานบริการให้สามารถเสิร์ฟอาหารได้หลากสไตล์นอกเหนือจากส้มตำและข้าวเหนียวทอดซึ่งเป็นที่นิยม ล่าสุดดึงสูตรราดหน้าหมูพื้นเมืองที่หายไปจากท้องถิ่นให้กลับมาบริการผู้นิยมบริโภคราดหน้าสูตรดั่งเดิมอีกครั้งที่สาขาใหม่ในเขตตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ซึ่งนอกจากจะเป็นการนำร่องตลาดอาหารต่างสไตล์แล้ว ยังสอดรับแผนพัฒนาการท่องเที่ยวของจังหวัดที่ประกาศเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวใหม่ด้วยการชูตลาดอ่างศิลาที่เก่าแก่ถึง 133 ปีให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม
นางสาววชิราภา มณีวงษ์ เจ้าของร้าน ช.ช้างส้มตำยกครก(ต้นตำรับบางแสน) ที่ปัจจุบันได้ขยายเฟรนไชส์ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงด้านส้มตำสูตรต่างๆ และข้าวเหนียวทอดจนเป็นที่รู้จักและมีสาขาในจังหวัดต่างๆ และหัวเมืองท่องเที่ยวใหญ่ถึง 26 แห่งเผยถึงการพัฒนาแบรนด์สินค้าให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้นว่า นอกจากปัจจุบันจะห้ผู้ซื้อสิทธิ์เฟรนไชส์ทั้ง 26 แห่งทั่วประเทศได้บริหารและจัดการสาขาของตนเองอย่างเต็มภายใต้สูตรอาหารของ ช.ช้างส้มตำยกครกแล้ว
ในส่วนของสาขาแม่ที่ตั้งอยู่บริเวณทางลงชายหาดบางแสน เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและผู้ชื่นชอบการรับประทานส้มตำและข้าวเหนียวทอดในจังหวัดชลบุรีแล้ว ขณะที่ยังได้ขยายสาขาแห่งใหม่เพิ่มที่ตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวยังตลาดอ่างศิลา 133 ปี ซึ่งจังหวัดชลบุรีได้จัดทำแผนประชาสัมพันธ์เพื่อชูจุดขายการเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีความเก่าแก่ทางวัฒนธรรมและโบรานสถาน
โดยสาขาแห่งใหม่นอกจากจะมีการตกแต่งสถานที่ที่สวยงามและโอ่โถงเหมาะแก่การเดินทางมารับประทานเป็นครอบครัวและเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.แล้วยังเพิ่มอาหารจานด่วนโดยเฉพาะเมนูอาหารเก่าแก่ของจังหวัดชลบุรีที่หายไปนานอย่าง “ราดหน้าหมู-เนื้อ พริกทอด” สูตรคุณแม่บังอร อรินหมะพันธุ์ ซึ่งในอดีตมีจำหน่ายเพียงแห่งเดียวที่ตลาดทรัพย์สินกลับมาให้บริการผู้ชื่นชอบการรับประทานราดหน้าอีกด้วย ขณะเดียวกันยังจะเสิร์ฟอาหารฝรั่งโดยเฉพาะเมนู “อกเป็ดราดซอสกาแฟคาปูชิโน” ที่ได้รับรางวัลการประกวดอาหารประดิษฐ์ของเชฟระดับโลก ด้วยสูตรของเชฟปึง ซึ่งปัจจุบันปรุงอาหารอยู่ที่โรงแรมเชอราตัน กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการให้บริการอีกด้วย
“การเพิ่มเมนูอาหารจากส้มตำสูตรต่างๆ และข้าวเหนียวทอดซึ่งเป็นที่รู้จัก ให้มีความหลากหลายด้วยอาหารเมนูต่างๆ เกิดจากการเติบโตทางธุรกิจของเฟรนไชส์ ช.ช้างส้มตำยกครก ซึ่งในช่วง 7-8 ปีทีผ่านมาเราใช้โลโก้ ช.ช้างก้นแดง ซึ่งเป็นโลโก้ที่มีอยู่ใน 26 สาขาทั่วประเทศ แต่ในวันนี้เมื่อเราพัฒนารูปแบบการตลาดให้ขยายมากขึ้นเราก็มีแนวคิดที่จะปรับโลโก้ในสาขาแห่งใหม่ให้เป็นรูปหัวช้าง ซึ่งหมายถึงการเติบโต และช้างตัวนี้เป็นสาวขึ้นและสวยขึ้น แต่ก็ยังคงความเป็นช้างอยู่ ซึ่งในงานตลาดรูปแบบใหม่ เราก็ยังคงเปิดขายเฟรนไชส์ให้กับผู้สนใจเช่นเดิม”
นางสาววิชราภา ยังเผยอีกว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นรวมทั้งปัญหาทางการเมืองไม่มีผลต่อยอดจำหน่ายของร้าน ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสาขาต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศนอกจากจะอยู่ในหัวเมืองท่องเที่ยวแล้ว บางจุดยังอยู่ในแหล่งที่เป็นศูนย์รวมทางธุรกิจ อย่างไรก็ดีแม้ในส่วนยอดจำหน่ายจะไม่ได้รับผลกระทบแต่จากปัญหาต้นทุนการดำเนินงานโดยเฉพาะวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้นทำให้ขณะนี้ ช.ช้างส้มตำยกครก ทุกสาขาจำเป็นต้องปรับราคาอาหารแต่ละจานขึ้นอีกประมาณ 10-15% โดยยืนยันว่าราคาอาหารที่ปรับขึ้นยังเป็นราคาที่ไม่กระทบต่อผู้บริโภคมากนัก
ทั้งนี้ เมนูอาหารสูตรดั้งเดิมที่ขึ้นชื่อของ ช.ช้างส้มตำยกครก ที่จะเสิร์ฟอาหารทุกชนิดในครกหินขึ้นชื่อของตำบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย เมนูปีกไก่ทอดน้ำปลา ข้าวเหนียวทอด ส้มตำรูปแบบต่างๆ รวมตำปูม้า ตำโล่งโจ้งฯลฯ ส่วนเมนูใหม่ที่เริ่มนำร่องในสาขาใหม่ที่จังหวัดชลบุรีนอกจากจะประกอบด้วยอาหารจานเดียว โดยเฉพาะราดหน้าสูตรโบราณของชลบุรีแล้ว ยังมีบริการอาหารทะเล เพื่อเพิ่มงานบริการในรูปแบบ One Stop Service อีกด้วย
