ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาจัดประชุมร่วมผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยว เพื่อรับฟังความคิดเห็นการจัดสร้างอาคารที่จอดรถ และท่าจอดเรือใหม่
วันนี้ (1 พ.ค.52) ที่อาคารเอนกประสงค์ หน่วยกู้ภัยทางทะเมืองพัทยา แหลมบาลีฮาย จ.ชลบุรี นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหาร ที่ปรึกษา และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประ ชุมชี้แจงและรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เกี่ยวกับโครงการศึกษาและสำรวจออกแบบรายละ เอียด ศูนย์บริการจอดรถและเรือเมืองพัทยา ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ที่กำหนดให้จัดการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ในโครงการที่อาจส่งทำให้เกิดผลกระทบต่อสภาพความเป็นอยู่ โดยการประชุมครั้งนี้มีผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวเข้าร่วมจำนวนกว่า 100 ราย
นายอิทธิพล กล่าวว่าสำหรับโครงการดังกล่าวแต่เดิมเป็นโครงการก่อสร้างที่จอดรถและเรือบริเวณพื้นที่หน้าท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ที่ได้ขออนุมัติงบประมาณจากภาครัฐในปี 2551 เป็นเงิน 735 ล้านบาท ซึ่งพบว่าปัจจุบันทางสำนักงบประมาณได้ผ่านความเห็นชอบและสนับสนุนงบประมาณดำเนินการมาแล้ว
อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการเดิมนั้นจะทำการก่อสร้างอาคารขนาดความสูงกว่า 8 ชั้น เพื่อใช้ในการจอดรถและเรือ ซึ่งเมื่อคำนวณดูพบว่าเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากและลำบาก โดยเฉพาะการลำเลียงเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ขึ้นไปจอดบนอาคาร จึงได้มีการจัดสรรงบบางส่วนจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาดำเนินการแก้ไขแบบแปลนใหม่ โดยให้แยกประเภทของการใช้แต่ละอย่างออกจากกัน เพื่อให้เกิดความสะดวกและสวยงามอย่างที่สุด
ทางด้าน นาวาโทวิรุฬ โชติบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุทรศาสตร์ ตัวแทนบริษัทที่ปรึกษา เปิด เผยว่าปัจจุบันการศึกษาออกแบบเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยจะมีการก่อสร้างอาคารจอดรถขึ้น 1 หลัง ซึ่งจะใช้ระบบจอดรถแบบลิฟต์ เพื่อขนส่งรถจากชั้นล่างไปยังชั้นบนด้วยระบบทันสมัย
ส่วนที่จอดเรือ ได้มีการออกแบบสร้างที่จอดเรือในลักษณะทุ่นลอยน้ำ บริเวณปลายแหลม ในรูปแบบที่ทัน สมัยด้วยระบบจอดเรือแบบไฮโดรลิฟต์ (Hydro Lift) พร้อมแนวกันคลื่นลอยน้ำ ระบบรักษาความสะอาด ระบบการบำรุงรักษา และรักษาความปลอดภัยมาตรฐาน ที่สามารถนำเรือท่องเที่ยวเข้าจอดพักได้เป็นจำนวนถึง 370 ลำ โดยท่าเรือดังกล่าวได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังทำให้เกิดความเป็นระเบียบและสวยงามเป็นอย่างมากอีกด้วย
ทั้งนี้ ในที่ประชุมดังกล่าวได้มีการสอบถามความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ ซึ่งส่วนใหญ่มีความห่วงใยในเรื่องของมาตรฐานเกี่ยวกับระบบ เรื่องของลม กระแสน้ำ และความปลอดภัย ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเป็นระบบที่สมบูรณ์และมีการรับรองมาตรฐานระดับโลก โดยหลังจากการประชุม เมืองพัทยาจะได้ทำการรวบรวมข้อมูล เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเพื่อขออนุมัติ และเสนอแผนต่อสำนักงบประมาณ เพื่อแก้ไขแบบแปลนการก่อสร้าง ก่อนขอความเห็นชอบเพื่อก่อสร้างต่อไป โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2553 นี้