ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ เตรียมพร้อมรับมือไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 เหมือนที่กำลังระบาดในเม็กซิโก ขณะที่ด่านควบคุมโรคติดต่อท่าอากาศยานเชียงใหม่ นำกล้องอินฟาเรดตรวจจับความร้อนมาติดตั้งที่ช่องผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศแล้ว เพื่อเฝ้าระวังคัดกรองเบื้องต้น
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 (เชียงใหม่) นายแพทย์ทรงวุฒิ หุตามัย ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 พร้อมทันตแพทย์สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และคณะทำงาน ประชุมวางแผนเตรียมการรับมือโรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ H1N1 ที่กำลังระบาดในเม็กซิโก ซึ่งเป็นการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร้นซ์จากกระทรวงสาธารณสุข พร้อมกับสำนักงานป้องกันควบคุมโรคทั่วประเทศ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน
ทั้งนี้ แนวทางการเตรียมการป้องกันเบื้องต้นในพื้นที่ภาคเหนือ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 (เชียงใหม่) ได้มีการกำหนดไว้ 4 แนวทาง ได้แก่ 1.การเฝ้าระวัง ผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศทุกช่องทาง โดยประสานด่านตรวจคนเข้าเมืองและมีระบบคัดกรองผู้ป่วยเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดนก และโรคซาร์ส ในสถานบริการภาครัฐและเอกชน 2.การบริหารจัดการ 3.การประชาสัมพันธ์ โดยกำลังเตรียมการตั้งศูนย์ Hot line และ 4.การเตรียมพร้อมเวชภัณฑ์ยาทามิฟู หน้ากากอนามัย เตรียมสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ที่ร้องขอ
สำหรับคำแนะนำการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้ เนื่องจากเชื้อมีการติดต่อเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป ที่เชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ซึ่งแพร่ไปยังผู้อื่นด้วยการไอหรือจามรดกันในระยะใกล้ หรือติดจากมือ และสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมู และตา เช่น การแคะจมูก หรือขยี้ตา เป็นต้น แต่ไม่ติดต่อจากการรับประทานหมู หากมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ควรสวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชน และพบแพทย์ ประชาชนทั่วไปควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ขณะที่ผู้ที่มีแผนเดินทางไปรัฐแคลิฟอร์เนียและเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศเม็กซิโก ควรติดตามสถานการณ์และคำแนะนำจากกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด
ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ วันนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ได้ทำการติดตั้งกล้องอินฟราเรด หรือกล้องตรวจจับความร้อน บริเวณช่องผู้โดยสารขาเข้า ภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เพื่อใช้ในการตรวจสอบคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศในเบื้องต้น ซึ่งกล้องดังกล่าวนี้เป็นอุปกรณ์แบบเดียวกับที่ใช้ในการคัดกรองผู้โดยสารเมื่อครั้งที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดนก
โดย นายกำธร หอประสงค์ นักวิชาการระดับชำนาญการ ด่านควบคุมโรคติดต่อ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า กล้องอินฟราเรดที่นำมาติดตั้งดังกล่าวจะใช้ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ โดยเมื่อเดินผ่านกล้องก็จะมีการแสดงผลออกมาทางหน้าจอ ซึ่งหากพบว่าผู้โดยสารรายใดที่มีอุณภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียสหรือมีไข้ ทางเจ้าหน้าที่จะทำการคัดแยกผู้โดยสารดังกล่าวออกมา เพื่อให้ทีมแพทย์ที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วทำการตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่นั้น มีผู้โดยสารจากต่างประเทศเฉลี่ยวันละประมาณ 270 คน และการใช้กล้องอินฟราเรดในการคัดกรองนี้จะมีไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
