ASTV ศูนย์ข่าวภูมิภาค - เจ้าหน้าที่รัฐ และตำรวจหลายจังหวัด นำหมายศาลบุกค้นรังโจร วิทยุชุมชนคนเสื้อแดง ฐานออกอากาศยุยงปลุกระดมเป็นภัยต่อความมั่นคง โดยที่เชียงใหม่ สั่งอายัดอุปกรณ์ออกอากาศและให้หยุดออกอากาศตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.เป็นต้นไป ที่ลำปาง จนท.ถึงกับผงะพบกระสุนปืนเกือบพันนัดซุกในห้องส่ง ตำรวจ บช.ก.บุกดีสเตชั่น DTV พบเตรียมขนอุปกรณ์ถ่ายทอดหนี ลือหึ่ง "เจ๊เพ็ญ" หมิ่นเบื้องสูงหนีซุกโสร่งพม่า
เมื่อเวลา 09.30 น.วานนี้ (16 เม.ย.) นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และพล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) เชียงใหม่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ค.260/2552 ลงวันที่ 15 เม.ย.52 เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนคลื่น 92.5 เมกกะเฮิร์ตซ์ ของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 4 โรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ เลขที่ 64 ซอย 1 ถนนอินทวโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังพบว่ามีการใช้สถานีวิทยุชุมชนดังกล่าวในการออกอากาศยุยงปลุกระดมคนอันกระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยมีนางสายรุ้ง วัฒนพงศศิริกุล ภรรยาของนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ที่เป็นเจ้าของโรงแรมและแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในตัวอาคารของโรงแรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง ช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น นายเพชรวรรตไม่ได้อยู่ที่โรงแรม
ทั้งนี้ ตลอดช่วงที่ทำการตรวจค้นนั้น บรรยากาศบริเวณหน้าโรงแรมค่อนข้างจะตึงเครียด เมื่อผู้สนับสนุนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หลายสิบคนได้มารวมตัวกันและตะโกนต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการกลั่นแกล้ง นอกจากนี้ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นแล้วเสร็จและเดินทางมาขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับก็ถูกผู้สนับสนุนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ตะโกนด่า โห่ไล่ รวมทั้งมีการขว้างปาสิ่งของใส่รถด้วย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นไปตามหมายศาลเพื่อพบหรือยึดสิ่งของพยานหลักฐานเอกสารในการปลุกระดมขัดต่อความสงบของประชาชนและต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากสถานีวิทยุแห่งนี้ถูกร้องเรียนและอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการสอบสวน โดยจากการเข้าตรวจค้นได้ทำการอายัดอุปกรณ์การออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนแห่งนี้รวม 5 รายการ พร้อมทั้งให้มีการหยุดออกอากาศตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 20 เม.ย.นี้เป็นต้นไป และตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.52 จนถึงเวลา 18.00 น.วันที่ 20 เม.ย.52 ห้ามออกอากาศในลักษณะยุยง ปลุกระดมให้เกิดการต่อต้านรัฐบาลหรือทำผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งได้มีการลงบันทึกการตรวจค้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนสถานีวิทยุชุมชนอื่นๆ ก็จะมีการดำเนินการด้วยมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจค้นพบว่าทางสถานีดังกล่าวยังคงมีการประกาศเชิญชวนให้กลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางไปลงชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ที่สถานี โดยบอกว่าหากจะมีการทำกิจกรรมจะได้สามารถติดต่อกันได้อย่างสะดวก ซึ่งในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 มีกำหนดจะจัดกิจกรรมรับขวัญผู้ที่ไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ บริเวณหน้าโรงแรม
**ผงะ!เจอกระสุนปืนเกือบพันนัด
วันเดียวกันเวลา 11.00 น.นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นอาคารสถาบันกวดวิชาโล่เงิน ตั้งอยู่เลขที่ 134/4 ถนนลำปาง-แม่ทะ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ซึ่งสถาบันดังกล่าวเป็นที่ตั้งของวิทยุชุมชนคนล้านนา คลื่น 90.25 MHz. และเป็นสถานีวิทยุเน็ตเวิร์คด้วย โดยมีนายณัฐชัย อินทราย เป็นเจ้าของ
การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบกระสุนปืน .22 จำนวน 950 นัด ปอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปอกอยู่ภายในห้องออกอากาศที่มีป้ายผ้าข้อความ "ไม่เอานายอภิสิทธิ์" และ "รัฐบาลโจร" ปิดไว้ ส่วนเครื่องส่งวิทยุพบว่ามีการถอดออกไปแล้วเหลือเพียงคอมพิวเตอร์และเครื่องมิกซ์เท่านั้น
**บุกค้นรังวิทยุชุมชน"ถ่อยขวัญชัย"
ที่ จ.อุดรธานี พ.ต.ท.นิรันดร์ สัตยารังสรรค์ รอง ผกก.3 บก.ป.ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.ภัทรพล กมล รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร ที่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ตามหมายค้นของศาล พบเพียงนางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา แสดงตัวเป็นผู้รับผิดชอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้พักการออกอากาศไว้ก่อน พร้อมอายัดเครื่องมืออุปกรณ์กว่า 10 รายการมาตรวจสอบที่กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ขณะที่มีกลุ่มคนพากันเดินทางคัดค้านการทำงานของเจ้าหน้าที่
รายงานข่าวข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า การเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงดังกล่าว เกิดขึ้นในหลายพื้นที่
**หึ่งอีเพ็ญหนีออกชายแดนไทย-พม่า
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวและความมั่นคงชายแดน เผยว่า วานนี้ได้มีคำสั่งจาก กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) โดยคำสั่งของ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในฐานะผู้อำนวยการ กอฉ. ได้มีคำสั่งให้ทหารไทยที่ประจำการชายแดนไทย-พม่า ร่วมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ประจำการชายแดนทุกแห่งทั้ง ด่าน ตม.แม่สอด ตาก, ด่าน ตม.แม่สาย เชียงราย, ด่าน ตม.ด้าน จ.แม่ฮ่อสอน เนื่องจากมีคำสั่งจาก กอฉ.ให้เร่งดำเนินการติดตามบุคคลแกนนำคนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียกตัวเองว่า นปช.ที่ถูกศาลออกหมายจับจากการที่ได้ก่อเหตุชุมนุมประท้วงเพื่อล้มล้างรัฐบาล ทำลายทรัพย์สินเสียหายทั้งของทางราชการ เอกชน และประชาชน
โดยคาดว่าอาจจะหนีออกนอกประเทศทางด่านชายแดน โดยเฉพาะนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ก่อคดีซ้ำซ้อนที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซ้ำแล้วซ้ำอีกและยังมีข่าวลบือือไปทั่วว่านายจักรภพได้หลบหนีมาชายแดนแม่สอดเพื่อรอจังหวะเข้าพม่าและหนีไปประเทศที่ 3 โดยผ่านพม่าที่บริเวณด่านชายแดนไทย-พม่า แม่สอด-เมียวดี อ.แม่สอด จ.ตาก
**ค้นดีทีวีออนแอร์ผิดกฎหมาย
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่สื่อสารทหารบก ตำรวจสื่อสาร เจ้าหน้าที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) นำกำลังตำรวจสอบสวนกลาง สน.โชคชัย ตามหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 254/2552 ลงวันที่ 16 เม.ย.52 เข้าบุกค้นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดีสเตชั่น (ดีทีวี) ที่ตั้งอยู่ภายในห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 5 ของห้าง
จากการตรวจสอบได้เข้าไปที่ห้องห้องควบคุมการส่งสัญญาณ พบว่าเจ้าหน้าที่ของดีทีวีได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว อุปกรณ์การส่งสัญญาณถ่ายทอดบางชิ้นถูกบรรจุลงกล่องในสภาพเรียบร้อยเตรียมที่จะขนย้ายออกไป และยังมีเครื่องมือการทำงานของใช้สำนักงานกระจัดกระจาย ซึ่งเสมือนมีการขนย้ายเตรียมหนีโดยยังมีเครื่องใช้สำนักงานบางส่วนที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้าย เช่น เครื่องเชื่อมสัญญาณ 1 ตัว เครื่องส่ง 1 ตัว คอมพิวเตอร์ 2 ตัว รวมทั้ง แผ่นซีดีคิดถึงทักษิณ และซีดี วิสา คัญทัพ กว่า 100 แผ่นพร้อมกันนี้ยังพบเครื่องวิทยุคมนาคม 2 ชุด โดยไม่มีใบอนุญาต
พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจาก กอฉ.ให้มาตรวจค้นสถานีดีทีวี เนื่องจากน่าจะไม่ได้รับอนุญาตจาก กทช. อีกทั้ง มีการเผยแพร่ภาพ ข่าวสารปลุกระดมมวลชนเข้าร่วมการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้ไม่ได้กลั่นแกล้งใครทำไปตามหน้าที่
เวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่ได้ใช้ชะแลงขนาดใหญ่งัดห้องส่งถ่ายทำรายการของสถานีดีสเตชั่น ซึ่งอยู่ภายในห้างเดียวกัน ต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีถึงงัดเข้าไปได้ พบว่าได้แบ่งเป็นหลายห้อง มีห้องตัดต่อ ห้องส่ง ห้องมอร์นิเตอร์ ห้องถ่ายทำรายการความจริงวันนี้รวมอยู่ด้วย และพบกล้องวีดีโอ 7 ตัว ทีวีอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนเครื่องรับส่งสัญญาณและเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์ ถูกขนย้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้คาดว่าน่าจะมีการขนย้ายอุปกรณ์ที่มีราคาแพงและหลักฐานบางส่วนหนีออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่บุกค้นประมาณ 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมเจ้าของสถานีมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมทั้งนำของกลางที่ยึดได้ตรวจสอบที่ สน.โชคชัย.
เมื่อเวลา 09.30 น.วานนี้ (16 เม.ย.) นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และพล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) เชียงใหม่ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ได้นำหมายศาลจังหวัดเชียงใหม่ ค.260/2552 ลงวันที่ 15 เม.ย.52 เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนคลื่น 92.5 เมกกะเฮิร์ตซ์ ของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 4 โรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ เลขที่ 64 ซอย 1 ถนนอินทวโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ หลังพบว่ามีการใช้สถานีวิทยุชุมชนดังกล่าวในการออกอากาศยุยงปลุกระดมคนอันกระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยมีนางสายรุ้ง วัฒนพงศศิริกุล ภรรยาของนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ที่เป็นเจ้าของโรงแรมและแกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในตัวอาคารของโรงแรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เวลาตรวจค้นประมาณ 1 ชั่วโมง ช่วงที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น นายเพชรวรรตไม่ได้อยู่ที่โรงแรม
ทั้งนี้ ตลอดช่วงที่ทำการตรวจค้นนั้น บรรยากาศบริเวณหน้าโรงแรมค่อนข้างจะตึงเครียด เมื่อผู้สนับสนุนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หลายสิบคนได้มารวมตัวกันและตะโกนต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นการกลั่นแกล้ง นอกจากนี้ เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นแล้วเสร็จและเดินทางมาขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางกลับก็ถูกผู้สนับสนุนกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ตะโกนด่า โห่ไล่ รวมทั้งมีการขว้างปาสิ่งของใส่รถด้วย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เป็นไปตามหมายศาลเพื่อพบหรือยึดสิ่งของพยานหลักฐานเอกสารในการปลุกระดมขัดต่อความสงบของประชาชนและต่อต้านรัฐบาล เนื่องจากสถานีวิทยุแห่งนี้ถูกร้องเรียนและอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการสอบสวน โดยจากการเข้าตรวจค้นได้ทำการอายัดอุปกรณ์การออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนแห่งนี้รวม 5 รายการ พร้อมทั้งให้มีการหยุดออกอากาศตั้งแต่เวลา 18.00 น.วันที่ 20 เม.ย.นี้เป็นต้นไป และตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.52 จนถึงเวลา 18.00 น.วันที่ 20 เม.ย.52 ห้ามออกอากาศในลักษณะยุยง ปลุกระดมให้เกิดการต่อต้านรัฐบาลหรือทำผิดกฎหมายอื่นๆ ซึ่งได้มีการลงบันทึกการตรวจค้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว ส่วนสถานีวิทยุชุมชนอื่นๆ ก็จะมีการดำเนินการด้วยมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า อย่างไรก็ตาม ภายหลังการตรวจค้นพบว่าทางสถานีดังกล่าวยังคงมีการประกาศเชิญชวนให้กลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางไปลงชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อไว้ที่สถานี โดยบอกว่าหากจะมีการทำกิจกรรมจะได้สามารถติดต่อกันได้อย่างสะดวก ซึ่งในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 มีกำหนดจะจัดกิจกรรมรับขวัญผู้ที่ไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ บริเวณหน้าโรงแรม
**ผงะ!เจอกระสุนปืนเกือบพันนัด
วันเดียวกันเวลา 11.00 น.นายสามารถ ลอยฟ้า รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และ พล.ต.ต.อรรถกิจ กรณ์ทอง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นอาคารสถาบันกวดวิชาโล่เงิน ตั้งอยู่เลขที่ 134/4 ถนนลำปาง-แม่ทะ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง ซึ่งสถาบันดังกล่าวเป็นที่ตั้งของวิทยุชุมชนคนล้านนา คลื่น 90.25 MHz. และเป็นสถานีวิทยุเน็ตเวิร์คด้วย โดยมีนายณัฐชัย อินทราย เป็นเจ้าของ
การเข้าตรวจค้นครั้งนี้เจ้าหน้าที่พบกระสุนปืน .22 จำนวน 950 นัด ปอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปอกอยู่ภายในห้องออกอากาศที่มีป้ายผ้าข้อความ "ไม่เอานายอภิสิทธิ์" และ "รัฐบาลโจร" ปิดไว้ ส่วนเครื่องส่งวิทยุพบว่ามีการถอดออกไปแล้วเหลือเพียงคอมพิวเตอร์และเครื่องมิกซ์เท่านั้น
**บุกค้นรังวิทยุชุมชน"ถ่อยขวัญชัย"
ที่ จ.อุดรธานี พ.ต.ท.นิรันดร์ สัตยารังสรรค์ รอง ผกก.3 บก.ป.ได้ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.ท.ภัทรพล กมล รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี เข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนคนรักอุดร ที่ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ตามหมายค้นของศาล พบเพียงนางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยานายขวัญชัย ไพรพนา แสดงตัวเป็นผู้รับผิดชอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ให้พักการออกอากาศไว้ก่อน พร้อมอายัดเครื่องมืออุปกรณ์กว่า 10 รายการมาตรวจสอบที่กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ขณะที่มีกลุ่มคนพากันเดินทางคัดค้านการทำงานของเจ้าหน้าที่
รายงานข่าวข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า การเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนของกลุ่มคนเสื้อแดงดังกล่าว เกิดขึ้นในหลายพื้นที่
**หึ่งอีเพ็ญหนีออกชายแดนไทย-พม่า
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวและความมั่นคงชายแดน เผยว่า วานนี้ได้มีคำสั่งจาก กองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (กอฉ.) โดยคำสั่งของ พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในฐานะผู้อำนวยการ กอฉ. ได้มีคำสั่งให้ทหารไทยที่ประจำการชายแดนไทย-พม่า ร่วมประสานงานกับเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ประจำการชายแดนทุกแห่งทั้ง ด่าน ตม.แม่สอด ตาก, ด่าน ตม.แม่สาย เชียงราย, ด่าน ตม.ด้าน จ.แม่ฮ่อสอน เนื่องจากมีคำสั่งจาก กอฉ.ให้เร่งดำเนินการติดตามบุคคลแกนนำคนสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียกตัวเองว่า นปช.ที่ถูกศาลออกหมายจับจากการที่ได้ก่อเหตุชุมนุมประท้วงเพื่อล้มล้างรัฐบาล ทำลายทรัพย์สินเสียหายทั้งของทางราชการ เอกชน และประชาชน
โดยคาดว่าอาจจะหนีออกนอกประเทศทางด่านชายแดน โดยเฉพาะนายจักรภพ เพ็ญแข ที่ก่อคดีซ้ำซ้อนที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพซ้ำแล้วซ้ำอีกและยังมีข่าวลบือือไปทั่วว่านายจักรภพได้หลบหนีมาชายแดนแม่สอดเพื่อรอจังหวะเข้าพม่าและหนีไปประเทศที่ 3 โดยผ่านพม่าที่บริเวณด่านชายแดนไทย-พม่า แม่สอด-เมียวดี อ.แม่สอด จ.ตาก
**ค้นดีทีวีออนแอร์ผิดกฎหมาย
วันเดียวกัน พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมเจ้าหน้าที่สื่อสารทหารบก ตำรวจสื่อสาร เจ้าหน้าที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) นำกำลังตำรวจสอบสวนกลาง สน.โชคชัย ตามหมายค้นศาลอาญาเลขที่ 254/2552 ลงวันที่ 16 เม.ย.52 เข้าบุกค้นสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมดีสเตชั่น (ดีทีวี) ที่ตั้งอยู่ภายในห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 5 ของห้าง
จากการตรวจสอบได้เข้าไปที่ห้องห้องควบคุมการส่งสัญญาณ พบว่าเจ้าหน้าที่ของดีทีวีได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว อุปกรณ์การส่งสัญญาณถ่ายทอดบางชิ้นถูกบรรจุลงกล่องในสภาพเรียบร้อยเตรียมที่จะขนย้ายออกไป และยังมีเครื่องมือการทำงานของใช้สำนักงานกระจัดกระจาย ซึ่งเสมือนมีการขนย้ายเตรียมหนีโดยยังมีเครื่องใช้สำนักงานบางส่วนที่ยังไม่ได้เคลื่อนย้าย เช่น เครื่องเชื่อมสัญญาณ 1 ตัว เครื่องส่ง 1 ตัว คอมพิวเตอร์ 2 ตัว รวมทั้ง แผ่นซีดีคิดถึงทักษิณ และซีดี วิสา คัญทัพ กว่า 100 แผ่นพร้อมกันนี้ยังพบเครื่องวิทยุคมนาคม 2 ชุด โดยไม่มีใบอนุญาต
พล.ต.ต.ศรีวราห์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งจาก กอฉ.ให้มาตรวจค้นสถานีดีทีวี เนื่องจากน่าจะไม่ได้รับอนุญาตจาก กทช. อีกทั้ง มีการเผยแพร่ภาพ ข่าวสารปลุกระดมมวลชนเข้าร่วมการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดง ที่เข้าตรวจค้นครั้งนี้ไม่ได้กลั่นแกล้งใครทำไปตามหน้าที่
เวลา 14.30 น.เจ้าหน้าที่ได้ใช้ชะแลงขนาดใหญ่งัดห้องส่งถ่ายทำรายการของสถานีดีสเตชั่น ซึ่งอยู่ภายในห้างเดียวกัน ต้องใช้เวลากว่า 20 นาทีถึงงัดเข้าไปได้ พบว่าได้แบ่งเป็นหลายห้อง มีห้องตัดต่อ ห้องส่ง ห้องมอร์นิเตอร์ ห้องถ่ายทำรายการความจริงวันนี้รวมอยู่ด้วย และพบกล้องวีดีโอ 7 ตัว ทีวีอีกจำนวนหนึ่ง
ส่วนเครื่องรับส่งสัญญาณและเซิร์ฟเวอร์ คอมพิวเตอร์ ถูกขนย้ายไปก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้คาดว่าน่าจะมีการขนย้ายอุปกรณ์ที่มีราคาแพงและหลักฐานบางส่วนหนีออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่บุกค้นประมาณ 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาประกอบกิจการวิทยุและโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมเจ้าของสถานีมาดำเนินคดีต่อไป พร้อมทั้งนำของกลางที่ยึดได้ตรวจสอบที่ สน.โชคชัย.