อุบลราชธานี - กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 สกัดจับยาบ้าล็อตใหญ่กว่าแสนเม็ด มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ขณะเตรียมขนเข้าสู่ภาคกลางของประเทศ ด้าน ผบ.กองกำลังสุรนารี รับยังมียาบ้าจำนวนมากจ่อคิวรอขนเข้ามาในประเทศไทย
วันนี้ (26 เม.ย.) ที่กองบังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 แถลงข่าวการจับกุมขบวนการค้ายาบ้าตามแนวชายแดนไทย-ลาว ขณะกำลังลักลอบลำเลียงยาบ้าจำนวน 113,800 เม็ด เข้าสู่ส่วนกลางของประเทศไทย
โดยเมื่อค่ำวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา กองกำลังสุรนารีได้รับแจ้งจากสายสืบ ว่า จะมีการขนยาบ้าล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท โดยใช้เส้นทางลำเลียงผ่าน ถ.ยุทธศาสตร์ อ.เขมราฐ จึงสั่งให้หน่วยกำลังผสมตำรวจทหารสกัดจับรถยนต์ต้องสงสัยที่สามแยกบ้านถ้ำเสือ ต.เขมราฐ อ.เขมราฐ
พบรถกระบะโตโยต้าสีบรอนด์เงินทะเบียน ณย 5520 กรุงเทพฯ มีชายวัยรุ่น 2 คน ขับมุ่งหน้าจะไป จ.อำนาจเจริญ จึงเข้าสกัดจับกุมทราบชื่อคนขับว่านายชุติพนธ์ ผ่องแผ้ว อายุ 22 ปี ส่วนคนนั่งคู่ชื่อนายพงศกร กาลพันธา อายุ 17 ปี ทั้งสองเป็นราษฎร อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ
จากการตรวจค้นในกระเป๋าผ้าเดินทางสีแดงวางไว้บริเวณแค็บด้านหลัง พบยาบ้าพันรอบด้วยเทปกาวอย่างแน่นหนาจำนวน 16 ห่อ พร้อมโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง เงินสดใช้เดินทางอีก 4,400 บาท
จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมาสอบสวนนายชุติพนธ์ให้การรับสารภาพว่า ได้รับคำชักชวนจากนายโจ้ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งรู้จักในวงเหล้าให้ช่วยขับรถส่งยาบ้า โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ไปรับรถใช้ขนยาบ้าที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี จอุบลราชธานี แล้วขับรถนำยาบ้าไปส่งให้ตามที่กลุ่มค้ายานัดแนะที่ จ.ยโสธร ได้รับค่าจ้าง 10,000 บาท
ส่วนครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ได้ขับรถมารับยาบริเวณหน้าป้ายสำนักงานเทศบาลตำบลเทพวงศา อ.เขมราฐ ใกล้จุดจับกุมไปส่งต่อในเขต อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ในราคา 20,000 บาท แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก่อน และนายชุติพนธ์ยังมีศักดิ์เป็นหลานของนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานีด้วย
ด้าน พล.ต.กนก เนตระคเวสนะ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีกล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนกองทัพบกสั่งการให้หน่วยกำลังทหารสนธิกำลังเฝ้าระวังการลับลอบเคลื่อนย้ายยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าประเทศไทยด้านชายแดน จ.อุบลราชธานี เพราะพบการเคลื่อนย้ายยาบ้าล็อตใหญ่จากด้านเหนือของประเทศไทย เพื่อนำเข้ามาทางชายแดนภาคอีสาน และการจับกุมครั้งนี้ ถือเป็นการจับยาบ้าล็อตใหญ่ที่สุดที่จับกุมได้ในปีนี้
แต่ก็ยังมียาบ้าอีกจำนวนมาก รอการลักลอบนำเข้าสู่ประเทศด้วย ส่วนการระบาดด้านชายแดนประเทศกัมพูชา ยังเป็นลักษณะลักลอบเข้าไปเสพยา แต่ยังไม่มีการลักลอบนำเข้ามาเหมือนชายแดนด้านประเทศลาว
