จับเจ้าแม่ยาบ้าเมืองชล ทำทีเป็นคณะทัวร์คนแก่ ซ่อนยาบ้าในสเตย์รัดหน้าท้องตบตา ตร.

ตำรวจ ปส.รวบเจ้าแม่ยาบ้าในเมืองชลได้คาด่านตรวจพาหนะพยุหะคีรี พร้อมยาบ้ากว่า 6 หมื่น เผยเปิดร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์-มินิมาร์ทบังหน้า แล้วพาลูกน้องขึ้นรถตู้ทำทีเป็นคณะทัวร์คนแก่ไปเชียงราย ก่อนข้ามฝั่งไปเข้าบ่อนในพม่าแล้วแวะรับยาบ้าจากพวกว้าแดงกลับมาขายใน จ.ชลบุรี ขณะกำลังอีกชุดรวบแก๊งยาบ้าเครือข่ายเรือนจำได้กลางกรุง พร้อมยาบ้าอีก 180,000 เม็ด

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (4 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย รองผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศตส.ตร. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.ปส. พล.ร.ท.อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายการข่าว และนายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้ารายใหญ่ใน จ.ชลบุรี รวม 9 ราย

ประกอบด้วย นางดาหวัน อยู่ดี อายุ 68 ปี นายชัยพร ศรีชรัง อายุ 69 ปี สองสามีภรรยา นายเฉลิม ชิวชาวนา อายุ 69 ปี นายเวสารัช ชิวชาวนา อายุ 32 ปี นายศรัทธา ชิวชาวนา อายุ 33 ปี นางสมศรี ชิวชาวนา อายุ 61 ปี น.ส.นิภาพร ปานประสิทธิ์ อายุ 26 ปี นางบุญงาม บุญเลิศ อายุ 43 ปี และนางอุไร จันทร์เจริญ อายุ 57 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 60,900 เม็ด ยาไอซ์ 1 กิโลกรัม โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง รถตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮจ-1722 กทม. โดยสามารจับกุมได้ที่ด่านตรวจพาหนะพยุหะคีรี ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะครี จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 12.30 น.

นายพีระพันธุ์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองทัพเรือ พบสืบสวนพบเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ ในพื้นที่จ.ชลบุรี ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งมีนางดาหวัน และนายชัยพร สองสามีภรรยาเป็นหัวหน้าเครือข่าย โดยทั้งคู่ได้เปิดร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ และร้านมินิมาร์ทรักบ้านเกิดเป็นกิจการบังหน้า และเป็นตัวการสำคัญในการจัดหายาบ้าและไอซ์จำหน่ายให้ลูกค้าในพื้นที่ อ.บางทราย อ.เมือง จ.ชลบุรี เดือนละ 1-3 ครั้ง

โดยนางดาหวัน และนายชัยพรจะพาลูกน้องบางส่วนทำทีเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางโดยรถตู้ไปเป็นหมู่คณะที่ อ.เม่สาย จ.เชียงราย จากนั้นจะข้ามฝั่งไปยังประเทศพม่าเพื่อเล่นการพนันในบ่อน โดยระหว่างทางจะรับยาบ้าจากกลุ่มว้าแดง และซุกซ่อนโดยการรัดอยู่ในผ้ายางยืดรอบเอวแบบสเตย์รัดหน้าท้อง เมื่อกลับถึงจ.ชลบุรี จะช่วยกันจำหน่ายยาบ้าให้เอเยนต์ แล้วโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของนางดาหวันและบุคคลอี่นโดยเร็วเพื่อป้องกันการติดตามของเจ้าหน้าที่

นายพีระพันธุ์กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงประสานกำลังด้านการข่าวและวางแผนจับกุมโดยร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งวันที่ 21 มี.ค. ก็พบว่า นายชัยพร กับลูกน้องรวม 8 คน ได้ขับรถตู้หมายเลขทะเบียน ฮจ-1722 กทม. เดินทางจากจ.ชลบุรี ไป จ.เชียงราย และจอดรถตู้ไว้ที่ริมแม่น้ำชายแดน อ.แม่สาย ก่อนจะข้ามฝั่งไปพม่า และกลับมาวันที่ 2 เม.ย.เพื่อมาพักค้างคืนที่ อ.แม่สาย โดยมีนางดาหวันนั่งเครื่องบินมาสมทบเป็น 9 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. และกำลังทหารจึงติดตามไปจนถึงด่านตรวจยานพาหนะพยุหะคีรี ก่อนแสดงตัวขอตรวจค้น

จากการตรวจค้นพบของกลางซุกซ่อนอยู่ในผ้ายางยืดพันรอบเอวและของกางเกงชั้นในแบบสเตย์รัดหน้าทอง ของนางบุญงาม น.ส.นิภาพร นางสมศรี รวม 60,900 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะทำการอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหา ซึ่งประกอบด้วยบ้านพร้อมที่ดินรวม 4 หลัง รถยนต์ 6 คัน เงินฝากธนาคาร เงินสด ทองรูปพรรณ รวม 17 ล้านบาท เพื่อตรวจสอบว่าได้มาจากการค้ายาเสพติดหรือไม่

ด้าน พล.ต.ต.อติเทพ กล่าวว่า เครือข่ายนางดาหวันเป็นเครือข่ายใหญ่ในพื้นที่จ.ชลบุรี ที่ บช.ปส.ขึ้นบัญชีเป็นเครือข่ายสำคัญ และมีพฤติกรรมการค้ายาชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2549 โดยทุกครั้งที่เดินทางไปเล่นการพนันฝั่งพม่าจะลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายด้วยทุกครั้ง ซึ่งการเดินทางโดยรถตู้และมีผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ทำให้รอดพ้นการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ไปได้ อย่างไรก็ตามได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า และไอซ์) ไว้ในครอบครอบเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

ต่อมาเวลา 16.15 น.วันเดียวกัน 4 เม.ย.52 พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รอง ผบช.ปส.พล.ต.ต.สุรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ปส.1 พ.ต.อ.ฉัตรชัย ศิริทรัพย์ ผกก.1 ปส.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ กก.1 ปส.1 เข้าจับกุมตัว น.ส.นภัสสร เนียมเปรม อายุ 29 ปี นาย หิรัญย์ แก้วพรปัญญา อายุ 46 ปี นาย อภิวัชร ฤกษ์อนุพงศ์ อายุ 42 ปี และ นาย มนตรี นันทาธิราช อายุ 44 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 180,000 เม็ด เงินสดจำนวน 60,000 บาท รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ ทะเบียน สว-5279 กทม.รถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ภธ-3772 กทม.และ รถกระบะยี่นิสสัน เอ็นวี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ปอ-2217 กทม.โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหลังบึงสีกัน หมู่บ้านเมืองทองนิเวศน์ 1 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่

พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่านายหิรัญย์ เป็นเครือข่ายในเรือนจำคลองเปรม จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำกำลังไปเฝ้าดูพฤติกรรมที่บ้านพักย่านประเวศ จนกระทั่งช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ขับรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ด ออกมาจากบ้านพัก โดยมีนายมนตรี และนายอภิวัชร ขับรถกระบะนิสสัน เอ็นวี ตามออกมา เจ้าหน้าที่จึงสะกดรอยตามมาจนถึงบริเวณท้ายบึงดังกล่าวก็พบ น.ส.นภัสสร ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส วนอยู่หลายรอบ ก่อนเข้ามาจอดเทียบที่รถกระบะนิสสัน แล้วเดินลงมาจากรถพร้อมถือกระเป๋าผ้าสีดำยื่นให้นายมนตรี และนายอภิวัชร เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที

จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน 120,000 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว น.ส.นภัสสร ไปทำการตรวจค้นภายในรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส ที่เจ้าตัวขับมาก็พบยาบ้าอีกจำนวน 60,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษสีขาว วางอยู่บริเวณท้ายรถคันดังกล่าว ส่วนเจ้าหน้าที่อีกชุดได้นำตัวนายหิรัญ ไปตรวจค้นภายในรถเก่งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด ก็พบเงินสดจำนวน 60,000 บาท จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง

จากการสอบสวน น.ส.นภัสสร ให้การรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ตนมีอาชีพทำเครื่องหนังขาย แต่รายได้ไม่ค่อยดี ระหว่างนั้นก็มีเพื่อนตนแนะนำให้มารับจ้างส่งยาบ้าซึ่งมีรายได้ดีกว่า ตนจึงตกลงรับงาน โดยจะมีคนนำยาบ้ามาให้ที่บ้านพักแล้วให้ตนขับรถออกมาส่งให้ลูกค้าอีกที ซึ่งจะมีคนโทรศัพท์บอกสถานที่ระหว่างทางให้ว่าต้องเอาไปส่งที่ไหน แต่ยังไม่ได้ตกลงค่าจ้าง โดยตนเพิ่งจะทำเป็นครั้งแรก ซึ่งหากทำงานเสร็จตนก็จะเลิกทันที แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน

ด้าน พล.ต.ต.อดิเทพ กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ เนื่องจากทราบมาว่าแก๊งนี้มี นายหิรัญย์ เป็นคนคอยประสานงานกับผู้ต้องขังรายหนึ่งในเรือนจำคลองเปรม เพื่อสั่งซื้อยาบ้า หลังจากนั้นจะนัดส่งยาบ้ากันตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งก่อนหน้านี้นายหิรัญย์เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งศาลได้พิพากษาจำคุก 3 ปี แต่ นายหิรัญย์ ก็ได้ต่อสู้คดีจนหลุดออกมา หลังจากนี้จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป