พบศพหญิงนิรนามถูกตีด้วยของแข็ง นอนหงายตายคากางเกงใน-เสื้อชั้นในคลุมหัว ถูกฆ่าหมกหลังสถานีรถไฟบางเขน คาด ถูกข่มขืนชิงทรัพย์ คนร้ายอาจเป็นโจ๋วัยรุ่นที่ยึดอาชีพเก็บของเก่าขาย และอาศัยนอนที่สถานี เล่นทีเผลอฉวยจังหวะเห็นสาวใหญ่เมาเหล้าเข้าก่อเหตุ
วันนี้ (23 ส.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น.พ.ต.ต.ปรีชา จันทร์มณี พนักงานสอบสวน (สบ 2) กลุ่มงานสอบสวน บก.รฟ.(สน.นพวงษ์) รับแจ้งเหตุพบหญิงเสียชีวิต บริเวณด้านหลังอาคารควบคุมสัญญาณไฟ สถานีรถไฟบางเขน ถ.กำแพงเพชร 6 แขวงและเขตจตุจักร กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.สมพล อิสระเสรี ผกก.1 บก.รฟ.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ
ที่เกิดเหตุด้านหลังห้องควบคุมสัญญาณไฟ ติดลานจอดรถ อยู่ห่างจากสถานีรถไฟบางเขน ประมาณ 30 เมตร ที่พื้นปูนพบศพผู้หญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี สูงประมาณ 160 ซม. ผมยาวถึงกลางหลัง ผิวขาว เล็บมือเล็บเท้าทาสีชมพู่ ใส่ต่างหูเงินรูปตัวซี และที่นิ้วนางข้างซ้ายสวมตุ้มหู สภาพศพนอนหงายมีกางเกงในสีขาวคลุมสวมศีรษะ และที่ศีรษะยังมีเสื้อและยกทรงพันรอบศีรษะอยู่ด้วย สวมเสื้อยืดแขนยาวสีแดง กางเกงขาสามส่วนสีเขียวมีบาดแผลถูกของแข็งตีที่ใบหน้า ขมับขวา เป้าตาขวาแตก ขากรรไกรหัก และที่ศีรษะด้านหลัง เป็นแผลยาว 5-6 ซม.มีรองรอยการถูกข่มขืน คาดว่า น่าจะเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน นอกจากนี้ ที่มือซ้ายผู้ตายกำธนบัตรใบละ 100 บาท อยู่ 1 ใบ และข้างตัวยังพบ กระเป๋าผ้าสีดำ 1 ใบ รองเท้าแตะหูคีบสีดำ 1 คู่
นายประยงค์ สิงห์ทอง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21/2 หมู่ 12 ต.จิกคู่ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ ให้การว่า ตนมีอาชีพเก็บของเก่าขาย ไม่เคยเห็นผู้ตายมาก่อน ตรงจุดที่เกิดเหตุเคยเห็นผัวเมีย อายุประมาณ 20 ปี มีอาชีพเก็บของเก่าขายเหมือนกัน มามั่วสุมและพักผ่อนหลับนอนอยู่เป็นประจำ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาก็ไม่เห็นทั้ง 2 คนมานอนแล้ว และก่อนหน้านี้ตนก็เคยเห็นมีพระองค์หนึ่งมานอนอยู่ในที่เกิดเหตุได้ประมาณ 10 วันแล้ว ซึ่งเมื่อคืนตนก็ยังเห็นนอนอยู่ตรงที่พบศพพอดี
พ.ต.ต.ปรีชา กล่าวว่า จากการสอบพยานแวดล้อม ซึ่งเป็นแม่ค้าที่ขายของอยู่ในสถานีรถไฟดังกล่าว ทราบว่า ไม่เคยเห็นผู้ตายมาก่อน แต่ว่าเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา เห็นผู้ตายมานั่งดื่มเหล้าอยู่คนเดียวภายในสถานี จนกระทั่งพบอีกทีก็กลายเป็นศพแล้ว เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์ผู้ตาย ซึ่งคนร้ายอาจจะเป็นชายวัยรุ่นที่ยึดอาชีพเก็บของเก่าขายและอาศัยนอนที่สถานีรถไฟดังกล่าว ซึ่งมีแม่ค้าที่สถานีเห็นว่าผู้ตายนั่งดื่มสุราคนเดียว ลักษณะคล้ายกับรอรถไฟ แต่หลังจากนั้น ก็เงียบหายไป สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเห็นผู้ตายอยู่คนเดียวประกอบกับอาการเมาสุรา จึงได้ชักชวนกันมามีเพศสัมพันธ์ หลังจากนั้น คนร้ายว่าผู้ตายมีเงิน จึงพยายามจะแย่งเงิน แต่ผู้ตายเกิดขัดขืน คนร้ายจึงได้ใช้ท่อนไม้ที่อยู่ใกล้เคียงมาตีผู้ตายอย่างโหดเหี้ยม ก่อนหลบหนีไป
พ.ต.ต.ปรีชา กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้ จะได้นำศพผู้ตายส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรพลิกศพ ดูว่าผู้ตายถูกข่มขืนด้วยหรือไม่ ก่อนรวบรวมพลายหลักฐาน และให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป