2 โจรสวมไอ้โม่งอำพรางใบหน้าบุกปล้นบ้านอดีตนักข่าวไทยรัฐ จับย่าทวดวัย 97 ปี ล็อกกุญแจมือ เทปมัดปาก ผูกเชือกรั้งแขนกับลำคอ ยังไม่หนำใจ แสดงความโหดเหี้ยมด้วยการรุมทำร้ายจนใบหน้าบวมปูดทั้งที่อายุเฉียด 100 ปีแล้ว ก่อนขนทรัพย์สินในบ้านหนีไปอย่างลอยนวล ตำรวจเชื่อน่าจะเป็นคนไกล้ชิด เหตุรู้ความเคลื่อนไหวเจ้าของบ้าน และเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ไม่ทิ้งลายนิ้วมือไว้ในที่เกิดเหตุ
วันนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.ท.บรรจง ชาญศรี ร้อยเวร สภ.เมือง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกปล้นบ้านอดีตนักหนังสือพิมพ์ชื่อดัง จับหญิงชราวัย 97 ล็อกกุญแจมือใช้เทปกาวพันปิดปากรุมซ้อมได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 60 ถนนสุขุมวิท ใกล้ห้างบิ๊กซี สมุทรปราการ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณฐพล แสวงกิจ ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ กำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนหน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ชั้นเดียวสร้างด้วยไม้ ปลูกอยู่ในพื้นที่ประมาณ 2 ไร่เศษ มีรั้วรอบขอบชิด บริเวณประตูข้างบ้านด้านในพบ นางฮวย ปัทมาลัย อายุ 97 ปี ถูกจับล็อกข้อมืออยู่ทั้งสองข้างด้วยกุญแจมือ ที่ปากถูกพันด้วยเทปกาวสีเขียว และผูกรั้งระหว่างข้อมือและลำคอด้วยเชือกฟางสีฟ้าอ่อน ใบหน้าบวมช้ำ ปากแตกมีเลือดไหลออกมา เจ้าหน้าที่จึงเข้าช่วยเหลือแก้เชือกแกะเทปกาวที่พันปากออก ก่อนทำการไขกุญแจมือออกและรีบนำส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการ เนื่องจากถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง
จากการตรวจสอบภายในบ้านที่เกิดเหตุพบข้าวของถูกรื้อค้นจนกระจุยกระจาย ประตูทางเข้าบ้านซึ่งเป็นประตูเหล็กล็อกด้วยกุญแจถูกคนร้ายใช้คีมตัดเหล็กตัดสายยูจนขาด และที่ประตูไม้ด้านในถูกคนร้ายใช้ขวานจามจนประตูพังยับเยิน ส่วนประตูห้องพระด้านในคนร้ายใช้คีมตัดเหล็กตัดสายยูคล้องแม่กุญแจจนขาดก่อนเข้าไปรื้อค้นในห้องพระจนกระจุยกระจาย
จากการสอบสวน นายบุญรอด ปัทมาลัย อายุ 63 ปี อดีตผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ลูกชายผู้บาดเจ็บ ซึ่งหันมาทำธุรกิจเป็นเอเยนต์ส่งหนังสือพิมพ์ ได้ให้การว่าเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ได้ออกไปส่งหนังสือพิมพ์ตามร้านและบ้านลูกค้าจนกระทั้งเวลาประมาณ 06.30 น.ได้ขับรถกลับมาที่บ้านได้พบเห็นนางฮวย มารดาของตนวัย 97 ปี นอนฟุบอยู่ที่ประตูทางเข้าบ้านด้านข้าง ตนจึงรีบเข้าไปดูได้พบว่ามารดาถูกมัดและทำร้ายร่างกายดังกล่าว และข้าวของภายในบ้านถูกรื้อค้นจนกระจุยกระจายจึงรีบแจ้งตำรวจ และจากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าอาวุธปืนของตนจำนวน 3 กระบอกที่ซุกเอาไว้ที่ใต้ที่นอนได้หายไป ประกอบด้วย ปืนขนาด .38 ปืนขนาด 11 มม. และปืนขนาด .357 หายไปอย่างละ 1 กระบอก นอกจากนี้ยังพบว่าพระเครื่องอายุหลายร้อยปีที่สะสมเอาไว้ซึ่งล้วนแต่เป็นพระสมเด็จที่ใส่เอาไว้ในกล่องวางอยู่ในห้องพระได้หายไปประมาณ 200 องค์ ประมาณมูลค่าไม่ได้
จากการสอบสวนนางฮวย ผู้บาดเจ็บซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบและพบว่าแพทย์ได้ให้การรักษาจนอยู่ในอาการปลอดภัยให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณหกโมงเช้าตนตื่นขึ้นมาและเดินออกจากห้องนอนออกมาเดินปิดไฟรอบๆ บ้าน หลังปิดไฟเสร็จได้เดินกลับเข้ามาในบ้าน ในขณะที่กำลังจะเข้าประตูห้องเห็นสองคนร้ายใช้ผ้าสีดำโพกปิดบังใบหน้าเอาไว้ทั้งสองคนเห็นเพียงลูกตา และจำการแต่งกายไม่ได้ กำลังรื้อค้นข้าวของอยู่ในห้องตน เมื่อสองคนร้ายเห็นตนจึงวิ่งเข้ามาจับล็อกด้วยกุญแจมือ และใช้เทปกาวมาพันปิดปากตนไม่ให้ส่งเสียงร้อง ซ้ำใช้เชือกฟางมาผูกที่ข้อมือทั้งสองข้างรั้งขึ้นไปมัดอยู่ที่ลำคอ
นางฮวยให้การต่อว่า หลังจากนั้นตนได้ยินเสียงคนร้ายซึ่งเชื่อว่าน่าจะมีมากกว่า 2 คนได้ช่วยกันเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในบ้านต่ออีก ส่วนตนพยายามกระเสือกกระสนดิ้นร้นเอาชีวิตรอดออกมาหน้าบ้าน แต่คนร้ายมาพบเข้าเสียก่อนจึงลงมือทำร้ายด้วยการชกต่อยที่ใบหน้าและใช้เท้ากระทืบเข้าที่บริเวณกลางหลังตนจนจุกร้องไม่ออก ก่อนที่คนร้ายทั้งหมดจะหอบเอาทรัพย์สินและหลบหนีไป ส่วนตนได้พยายามคลานออกมานอนฟุบอยู่ที่ประตูทางเข้าบ้านและพยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกชายตนกลับมาพบเข้าพอดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 2 คน และเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวคนภายในบ้านเป็นอย่างดี โดยรู้ว่านายบุญรอด ลูกชายของผู้บาดเจ็บจะออกจากบ้านเวลาไหนและกลับเข้ามาเวลาไหน และมีการวางแผนมาอย่างรัดกุมสวมถุงมือขณะเข้ามาก่อเหตุเพราะจากการตรวจเก็บลายนิ้วมือของคนร้ายที่คาดว่าน่าจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ในที่เกิดเหตุ แต่พบไม่พบลายนิ้วมือของคนร้ายแต่อย่างใดและยังมีการเตรียมอุปกรณ์คีมตัดเหล็กและขวาน มาทำการตัดสายยูล๊อกกุญแจ และใช้ผ้าโพกหน้าเพื่ออำพรางใบหน้าก่อนเข้ามาก่อเหตุกวาดเอาทรัพย์สินก่อนที่จะหลบหนีไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว เพราะเป็นคดีที่สะเทือนขวัญของประชาชนเป็นอย่างมากที่ทำร้ายผู้เสียหายที่มีอายุเกือบร้อยปีได้รับบาดเจ็บสาหัส