ตาก – สพบ.เห็นชอบช่วยพม่าทำถนนเชื่อม “แม่สอด-เมียวดี-กอกาเรก” ช่วงที่ 2 งบกว่า 827 ล้าน เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติ เชื่อช่วยกระตุ้นการค้า-การลงทุนตามแนว East-West Economic Corridor เพิ่มมูลค่าการค้าไทย-พม่าในอนาคต ร่นระยะเวลาในการส่งสินค้าจากแม่สอด-เมียวดี เหลือแค่ 4-5 ชั่วโมง จากเดิมที่ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 วัน
นายจงจิตร เต็งยะ ผู้อำนวยการแขวงการทางตากที่ 2 (แม่สอด) จังหวัดตาก เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างถนนเพื่อความสัมพันธ์ไทย-พม่า และพัฒนาเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การคมนาคม และเส้นทางการขนส่งสินค้า แม่สอด-เมียวดี-เชิงเขาตะนาวศรี-กอกาเร็ก กรมทางหลวงได้ดำเนินการสำรวจแล้วเสร็จไปแล้ว
ถือเป็นโครงการช่วงที่ 2 คือ จากเชิงเขาตะนาวศรีไปยังจังหวัดกอกาเรก ระยะทาง 28 กม. กว้าง 10 เมตร ราดยางแอสฟันท์ติก งบประมาณดำเนินการ 827 ล้านบาท ต่อจากช่วงแรก คือแม่สอด-เมียวดี-เชิงเขาตะนาวศรี ที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วโดยใช้งบประมาณกว่า 122 ล้านบาทที่รัฐบาลไทยช่วยเหลือแบบให้เปล่าว ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะใช้เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างประเทศและเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่าง 2 ประเทศ โดยกรมทางหลวงได้เสนอโครงการต่อรัฐบาลเพื่อจัดสรรงบประมาณดำเนินการต่อไป
นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก กล่าวว่า โครงการถนนแม่สอด-เมียวดี-กอกาเร็ก เป็นแนวเส้นทางสายเศรษฐกิจอีสต์เวตส์ อีโคโนมิก คอริดอร์ ที่สำคัญทางการค้า การท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า และการคมนาคมของประชาชน รัฐบาลจึงควรสนับสนุนให้ดำเนินการก่อสร้างโดยเร่งด่วน
ทราบว่าล่าสุดคณะกรรมการพิจารณาช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ (สพบ.) ได้พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการได้แล้ว รอเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ ครม.อนุมัติงบประมาณจำนวน 827 ล้านบาท ทำการก่อสร้างต่อไป
ด้าน นายพงศ์เทพ บัวทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สอด จ.ตาก บอกว่า ไตรมาสแรกของปีนี้ (มกราคม-มีนาคม 2552) การค้าชายแดนโดยเฉพาะสินค้าส่งออกจากไทยไปพม่ามีมูลค่ามากกว่าเดือนละ 1,400-1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20-30% จากเดิมที่เคยมีการค้าเฉลี่ยประมาณ 1,200-1,300 ล้านบาท/เดือน คาดว่าในปี 2552 จะมียอดการค้ามากกว่า 20,000 ล้านบาท อันจะเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
“ยอดสินค้าหลายรายการเพิ่มขึ้นทั้งวัสดุก่อสร้าง น้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมียอดสั่งเพิ่มขึ้นกว่าวันละ 2-3 ล้านลิตร รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์การเกษตร ฯลฯ”
ทั้งนี้ จะเห็นว่าพม่ากำลังมีการพัฒนาประเทศในทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมีการสั่งนำเข้ารถยนต์จากญี่ปุ่นทั้งรถยนต์ส่วนตัว ทั้งเก๋ง ปิกอัพ โฟร์วีล รถทัวร์โดยสารจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวและระบบโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในกรณีถนนจากเมียวดี-กอกะเร็ก-มะละแหม่ง-ท่าตอน-พะอัน-ย่างกุ้ง ช่วงที่ 2 จากเชิงเขาตะนาวศรี-กอกาเรก ที่เพิ่งได้รับความเห็นชอบจาก สพบ.เมื่อ 25 มี.ค.52 ที่ผ่านมานี้เอง หากการพัฒนาเส้นทางช่วงนี้แล้วเสร็จ ก็จะช่วยลดระยะเวลาการขนส่งสินค้าจากชายแดนแม่สอด-เมียวดี ถึงย่างกุ้ง ระยะทางประมาณ 400 กว่า กม.จากเดิมที่ใช้เวลามากกว่า 1 วัน เหลือเพียง 4-5 ชั่วโมงได้ เพราะจากกอกาเรก-พะอัน-ท่าตอน-ย่างกุ้ง มีถนนคอนกรีตเดิมที่พร้อมขยายอยู่แล้ว
