“หางแดงเชียงราย” ไม่สำนึก-ยันเคลื่อนไหวต่อ - “บุ๋ม-แฟนหนุ่ม” เจอข้อหาเปิดวิทยุชุมชนเถื่อนอีก

เชียงราย – “วิสาร-พ่อน้องยิ้ม” นำทีม 9 หางแดงเชียงรายขึ้นโรงพักมอบตัวคดีมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง และอีกหลายข้อหา ก่อนขอประกันตัวทุกคน ขณะที่ “บุ๋ม แกนนำ 24 มิถุนาฯ พร้อมแฟนหนุ่ม” เจอข้อหาเปิดสถานีวิทยุเถื่อนต่อ ด้านเครือข่ายยังไม่สำนึกออกแถลงการณ์กลางโรงพัก อ้างตำรวจทำคดี 2 มาตรฐาน พร้อมประกาศเคลื่อนไหวต่อหลังได้ประกันตัว

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (21 เม.ย.) ที่ สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวน 9 คน ที่ถูกออกหมายจับในข้อหา “ร่วมกันกระทำให้ปรากฎแก่ประชาชนด้วยวาจาโดยวิธีปิดกั้นถนนจราจรอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และข้อหาจอดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร” ได้ทยอยพากันเดินทางไปมอบตัวที่กับตำรวจโดยถ้วนหน้า โดยมีกองเชียร์คนเสื้อแดงประมาณ 30 คน ที่เคยเคลื่อนไหวด้วยกันสวมชุดสีดำอ้างว่าเพื่อไว้ทุกข์กับระบอบประชาธิปไตย เดินทางไปให้กำลังใจและมอบดอกไม้ให้กับทุกคนด้วย

นอกจากนี้ มีการถือป้ายต่อต้านการดำเนินคดีดังกล่าวพร้อมโจมตีพรรคประชาธิปัตย์อีกตามเคย แต่ไม่มีท่าทีที่คึกคักเหมือนเดิม ทางตำรวจต้องจัดห้องประชุมชั้น 2 เป็นสถานที่สอบปากคำบุคคลทั้งหมด และกันไม่ให้บุคคลภายนอกรวมทั้งสื่อมวลชนเข้าไปในบริเวณที่มีการสอบปากคำด้วย

นอกจากนี้ยังพบว่า มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และอดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย หลายคนไปร่วมให้กำลังใจคือนายสฤษฎิ์ อึ้งอภินันท์ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาวของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน น.ส.วิสาระดี เตชะธีรวัฒน์ ลูกสาวของนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ นายถาวร ตรีรัตน์ณรงค์ โดยทั้งหมดจะปฏิเสธข้อกล่าวหาและขอประกันตัว

สำหรับข้อหาดังกล่าวมีขึ้นเมื่อกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการปิดสี่แยกแม่กรณ์ ถนนพหลโยธิน อ.เมือง จ.เชียงราย ระหว่างวันที่ 12-13 เม.ย.ที่ผ่านมา ในช่วงที่มีการปราบปรามการชุมนุมของเวที นปช.ที่ข้างทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ โดยมีการปลุกระดมให้มีการเดินทางไปสมทบกันที่กรุงเทพฯ ด้วย

โดยผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบไปด้วย นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตกรรมการพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมือง 5 ปี สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และเป็นบิดาของ น.ส.วิสาระดี นายฉลอง มหาวุฒิ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เขต อ.แม่สรวย น.ส.จีรนันท์ จันทวงษ์ นายทรงธรรม คิดอ่าน และ น.ส.เกษนีย์ ชื่นชม ซึ่งเป็น 3 แกนนำของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธปไตยเชียงราย นายวิทยา ตันติภูวนาท จากชมรมคนรักทักษิณ จ.เชียงราย นายบุญเลิศ บุญศรี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกลุ่ม นปช.เชียงราย 52 นายอรรถกร กันทะไชย และ น.ส.พุทธชาติ โกฏิแก้ว สองแกนนำจากกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ทั้งนี้ก่อนหน้านี้นายธนิต บุญญนสินีเกษม หนึ่งในแกนนำได้ไปมอบตัวและประกันตัวออกมาแล้วด้วยหลักทรัพย์ 105,500 บาท แต่ใช้ตำแหน่งข้าราชการประกันตัวแทน

สำหรับบรรยากาศทั่วไปพบว่าแกนนำคนเสื้อแดงบางคนที่ไม่ได้ถูกออกหมายจับยังฮึกเหิม ด้วยการให้นางเพ็ญสิริ ณรงค์แสดง แกนนำกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์หน้าห้องสอบสวนต่อสื่อมวลชนมีเนื้อหาโจมตีการดำเนินคดีของตำรวจว่าใช้ 2 มาตรฐานโดยนำไปเปรียบเทียบกับคดีที่ตำรวจดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยยื่นผ่าน พ.ต.อ.ณรงชัย วงศ์สามี รอง ผบก.ภ.เชียงราย

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ณรงค์ชัย ซึ่งยืนอยู่ใกล้กันก็ยืนยันกลับไปเช่นกันว่าเรื่องการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ เป็นเรื่องที่กรุงเทพฯ ไม่เกี่ยวกับพื้นที่ จ.เชียงราย แต่หากเกิดขึ้นในพื้นที่ก็ยืนยันว่าตำรวจจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

นายอรรถกร กันทะไชย แกนนำจากกลุ่มคนเจียงฮายฮักประชาธิปไตย กล่าวว่า แม้จะถูกดำเนินคดีครั้งนี้แต่หลังจากได้ประกันตัวกันออกไปแล้ว ก็จะออกไปเคลื่อนไหวเหมือนเดิมอีกตามอุดมการณ์ของพวกเรา

ขณะที่ นายวิสารระบุเพียงว่า ต้องเอาใจลูกสาวให้ดีเพราะวันนี้เป็นคนที่ประกันตัวให้

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า วันเดียวกันตำรวจได้ดำเนินคดีต่อ น.ส.จีรนันท์ พ่วงอีก 1 คดี พร้อมกับแฟนหนุ่ม คือ นายพาณิชย์ ดำริพาณิชย์สกุล ในข้อหาร่วมกันตั้งสถานีวิทยุที่เลขที่ 226 หมู่ 4 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ออกอากาศโดยไม่ได้รับอนุญาตและยังปลุกระดมประชาชนอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญพ่วงไปอีกคดีด้วย หลังจากก่อนหน้านี้กลุ่มคนเสื้อแดงได้เปิดวิทยุชุมชนคนรากหญ้าเพื่อประชาธิปไตยเชียงรายกระจายเสียงในเขต อ.เมือง เพื่อใช้เป็นกระบอกเสียงในการเคลื่อนไหวมาโดยตลอด