xs
xsm
sm
md
lg

“ปวีณา”หิ้วสาวใหญ่ร้องตำรวจแปดริ้วหลังถูกสามีโหดพุ่งฉมวกปักพุงหวิดพิการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล ได้พานางสังเวียน มงคลพันธ์ เข่าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่
ฉะเชิงเทรา - สาวใหญ่ถูกสามีกระทำการทารุณกรรม ไร้ความรับผิดชอบต่อครอบครัว ทำร้ายร่างกายโดยใช้ฉมวกแทงปลาพุ่งปักพุงทะลุลำไส้ กระทบกระดูกสันหลังถึงเส้นประสาทปลายขาชา หวิดเดินไม่ได้ วิ่งโร่ ร้อง มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีช่วยเหลือ ก่อนพาเข้าร้องทุกข์ แจ้งตำรวจเมืองแปดริ้ว หวังดำเนินการจับสามีจอมโหดดำเนินคดีตามกฎหมาย

วันนี้( 20 เม.ย.52) เวลา 14.00 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานางสังเวียน มงคลพันธ์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.4 ต.คลองเปรง อ.เมืองฉะเชิงเทรา ซึ่งถูกสามีทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมของกลาง ฉมวกแทงปลา แบบ 5 เขี้ยว 1 อัน เข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ บุญค้ำ ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ชินโชติ เสมาจักร์ รอง ผกก. และ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ พัลตานุสนธิ์ พนักงานสอบสวน ที่ห้องทำงานผู้กำกับการ ชั้น 2 สภ.เมืองฉะเชิงเทรา

โดยนางสังเวียน ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้แต่งงานอยู่กินกับนายเอนก มงคลพันธ์ อายุ 39 ปี มานาน 17 ปี จนมีบุตรสาว อายุ 15 ปี 1 คน บุตรชาย อายุ 12 และ 8 ปี 2 คน โดยมีอาชีพทำนา และเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง เมื่อวันที่ 27 มี.ค.52 เวลา 11.00 น. ตนได้มีปากเสียงกับสามีเนื่องจาก สามีเอาแต่ใจตนเอง และมีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย หลังจากตนได้พาบุตรสาว และบุตรชายไปฟังผลสอบที่โรงเรียน และไม่ได้ไปเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งให้

ซึ่งสามีได้ให้หลานชายไปเลี้ยงเป็ดแทน โดยให้ตนตามไปรับช่วงยังฝูงเลี้ยงเป็ดในภายหลัง ในย่าน อ.พนมสารคาม แต่ตนไม่รู้จักเส้นทางไป จึงทำให้สามีฉุนเฉียวโดยบอกให้ตนไปกราบไหว้หลานที่ไม่รู้เส้นทางเช่นเดียวกัน แต่ยังสามารถเดินทางไปยังฝูงเป็ดได้ จึงเกิดการโต้เถียงกัน จนทำให้ นายเอนก ใช้ลูกฝรั่ง และก้อนหินขว้างใส่ จากนั้นได้ใช้ฉมวกแทงปลา ขนาดด้ามยาวกว่า 3 เมตร พุ่งเข้ามายังตน และปลายฉมวกได้ปักเข้าที่บริเวณหน้าท้องด้านขวาของตนจนมิดเขี้ยว

ก่อนที่ตนจะร้องขอให้เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยเหลือนำส่งยัง รพ.เมืองฉะเชิงเทรา ทำการผ่าตัดนำฉมวกออก และนอนพักรักษาอาการ นานกว่า 11 วัน จนอาการดีขึ้น โดยที่สามีไม่เคยมาเหลียวแลเลย จึงได้เข้าไปร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ จากมูลนิธิ ปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อให้พามาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสามีในวันนี้ เนื่องจากตนไม่กล้ามาเพียงลำพัง เพราะเกรงว่าสามีจะมาข่มขู่ทำร้าย และจะไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก เพราะสามีได้เคยขู่ว่า รู้จักนักการเมือง และตำรวจทั้งโรงพัก แจ้งความไปก็ทำอะไรเขาไม่ได้ นางสังเวียน กล่าว

และกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาสามีไม่เคยให้ได้รับรู้ถึงรายได้ของครอบครัว จากการเลี้ยงเป็ด และไม่เคยให้เงินไว้ใช้จ่ายในครอบครัว หรือเหลือเก็บ เพราะจะเป็นคนถือเงินบริหารจัดการเองทั้งหมด เพียงแต่ซื้อกับข้าวกลับมาให้ที่บ้านโดยที่ไม่สนใจว่าเมียและลูก จะกินกันได้หรือไม่

นอกจากนี้สามียังชอบดื่มเหล้า เที่ยวกลางคืน ติดผู้หญิง และนักร้องในร้านอาหาร และไม่เคยสนใจครอบครัว จึงมักจะมีปากเสียง และทะเลาะกันกับตนอยู่เป็นประจำ จนที่ผ่านมาได้เคยเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา มาแล้วหนึ่งครั้ง เมื่อเดือนตุลาคม 2551 แต่ตนก็ถูกสามีข่มขู่จนไม่กล้าเอาความ ซึ่งในครั้งนี้ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด จึงได้เข้าไปร้องทุกข์กับมูลนิธิฯ เพราะหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเหมือนกับครั้งที่ผ่านมาอีก นางสังเวียน กล่าว

ขณะที่ นางปวีณา กล่าวว่า ผู้เสียหายยังอยู่ในอาการหวาดกลัวอย่างมาก ตลอดสองวันที่ผ่านมา ที่ได้เข้าไปร้องทุกข์ยังมูลนิธิฯ นางสังเวียน เอาแน่นอนร้องไห้อยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้บาดแผลที่ถูกสามีทำร้าย จากแรงของฉมวกที่พุ่งปักจนจมมิดด้าม ยังได้ส่งผลกระทบทำให้ขาด้านขวา มีอาการชา และไม่ทราบว่าในอนาคตจะส่งผลทำให้พิการหรือไม่ ซึ่งต้องขอให้เจ้าหน้าที่ ช่วยดูแลด้านความปลอดภัยต่อผู้เสียหายด้วย เนื่องจากเกรงว่า สามีจะมาข่มขู่ทำร้ายอีก โดยขณะนี้จะได้ให้ไปพักฟื้นยังมูลนิธิฯ เพื่อทำกายภาพบำบัดก่อน จนกว่าอาการบาดเจ็บ และสภาพจิตใจจะดีขึ้น

ด้าน พ.ต.อ.สุเทพ กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งความร้องทุกข์ จะได้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวน และพิจารณาว่า เข้าข่ายในข้อหาใดบ้าง ซึ่งเบื้องต้นน่าจะเข้าข่ายอยู่ใน 2 ข้อหา คือ พยายามฆ่า และทำร้ายร่างกาย ส่วนสามีที่ก่อเหตุนั้น ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ไปติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดีแล้ว ซึ่งทราบว่ากำลังเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งอยู่ในเขตพื้นที่ อ.พนมสารคาม

ร่องรอยการถูกทำร้าย
เมื่อครั้งยังหวานชื่น
กำลังโหลดความคิดเห็น