xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่ออีกรายแจ้งจับนายจ้างบังคับอมนกเขา

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นางปวีณา หงสกุล พา ด.ญ.รักษ์ (นามสมมติ) เหยื่ออีกรายเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายประเวช ลิ้มชูวงศ์
เหยื่อนักบุญคนบาปโผล่อีกราย! “ปวีณา” พาเด็กสาวชาวดอยวัย 11 ปีเข้าแจ้งความเอาผิดนายจ้างบังคับนกเขา หลังก่อนหน้านี้ถูกจับกุมคดีเดียวกัน ตำรวจตั้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิด 15 ปี

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา นายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก พา ด.ญ.กร (นามสมมติ) อายุ 12 ปี เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ว่า ด.ญ.กร ถูกนายประเวช ลิ้มชูวงศ์ ผู้เป็นนายจ้างล่วงเกินทางเพศด้วยการจับผูกตาแล้วบังคับให้ใช้ปากสำเร็จความใคร่ให้ ซึ่งภายหลัง ด.ญ.กร หลบหนีออกมาได้ ก่อนจะเข้าแจ้งความ พร้อมบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ายังมี ด.ญ.รักษ์ (นามสมมติ) เพื่อนของตนอีกรายที่ยังถูกนายประเวชกักขัง ทารุณและบังคับให้ทำแบบเดียวกันตามข่าวที่เคยเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (4 ก.พ.) นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานางจ๊ะ (นามสมมติ) อายุ 41 ปี และ ด.ญ.รักษ์ (นามสมมติ) อายุ 11 ปี ลูกสาว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.อาณัติ เกร็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.เทียนชัย คามะปะโส ผกก.สน.ประเวศ พ.ต.ท.นิพนธ์ ทองแสงบุญญา รอง ผกก.สส.สน.ประเวศ และ พ.ต.ท.ภูมอัควุฒิ โพธิ์ประสิทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.ประเวศ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายประเวช ลิ้มชูวงศ์ อายุ 41 ปี กระทำอนาจาร ล่วงละเมิดทางเพศ ด.ญ.รักษ์ เพิ่มเติมอีกครั้ง

นางปวีณา เปิดเผยว่า นางจ๊ะ และ ด.ญ.รักษ์ อาศัยอยู่ที่ อ.พบพระ จ.ตาก แต่เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนจึงได้นำ ด.ญ.ก้อย ไปมอบให้กับหลวงพ่อเฉลิม เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา เพื่อให้ศึกษาเล่าเรยนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เช่นเดียวกับ ด.ญ.กร ผู้เสียหายคนก่อน โดยที่โรงเรียนดังกล่าวก็มีเด็กชาวเขาเผ่าม้ง และเด็กไทยเชื้อสายม้ง พักอยู่ในโรงเรียนกว่า 300 คน ซึ่งหลังจากนั้น ด.ญ.กร กับ ด.ญ.รักษ์ ก็มาอาศัยอยู่กับหลวงพ่อเพิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ จนกระทั่งมีเจ๊แดงมาขออุปการะเด็ก ด.ญ.กร กับ ด.ญ.รักษ์ และ ด.ญ.กุ้ง (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ไปเลี้ยงดู โดยอ้างว่าจะส่งเสียให้เรียนต่อ แต่เมื่อเจ๊แดงรับอุปการะเด็กมาแล้วก็ไม่ได้ส่งเสียให้เรียนตามที่กล่าวอ้างไว้ จากนั้นนายประเวช มารับ ด.ญ.กร กับ ด.ญ.รักษ์ ไปอยู่ที่บ้านซึ่งเป็นโรงงานเย็บผ้าย่านสวนหลวง ส่วน ด.ญ.กุ้ง ยังอยู่กับเจ๊แดงที่บ้าน

“เมื่อเด็กทั้ง 2 คนมาถึงแล้ว นายประเวศก็ได้บังคับเด็กทั้ง 2 คนให้ทำงานเย็บผ้า ติดกระดุมเสื้อ บังคับให้เลี้ยงสุนัข กวาดถนน ทำงานสารพัด ทั้งวันไม่เคยได้หยุดพัก ส่วนเวลานอนก็ได้นอนตอนตี 1 ตื่นตอนตี 2 ทุกวัน กินข้าววันละ 2 มื้อ และไม่ได้ออกไปนอกบ้านเลย กระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง ภรรยาของนายประเวชเดินทางไปต่างประเทศ นายประเวชก็บังคับให้เด็กทั้ง 2 คน ถอดเสื้อผ้าแล้วให้ใช้ไม้ตีกัน นอกจากนี้ยังใช้ผ้าผูกตาแล้วบังคับให้อมนกเขาจนสำเร็จความใคร่ และยังบังคับให้กลืนน้ำอสุจิลงไป หากคายออกจากไม่ปล่อย หลังจากนั้นนายประเวชก็ทำลักษณะดังกล่าวอีกหลายหน บางครั้งก็ไม่ได้ผูกตา จึงเห็นว่าที่ตัวนายประเวชมีตุ่มขึ้นเต็มตัวเหมือนกับคนเป็นโรค” นางปวีณา กล่าว

นางปวีณา กล่าวต่อว่า ต่อมา ด.ญ.กร ทนการทารุณกรรมไม่ไหวจึงหาทางหลบหนีออกมา จนนายมนตรี สินทวิชัย หรือครูยุ่น ได้เข้ามาช่วยเหลือรับอุปการะเด็กไปดูแล พร้อมทั้งพาเข้าแจ้งความต่อตำรวจ สน.ประเวศ ในวันที่ 14 ม.ค. เพื่อดำเนินคดีต่อนายประเวช จากนั้นในวันที่ 16 ม.ค. นายประเวชได้เดินทางเข้ามอบตัว พร้อมกับนำ ด.ญ.รักษ์ มาเป็นพยานโดยบังคับให้ ด.ญ.รักษ์ ให้การว่านายประเวชเป็นคนดี ไม่เคยกระทำการลักษณะล่วงละเมิดกับใคร หลังจากนั้นนายประเวชก็ได้นำ ด.ญ.รักษ์ ไปขังไว้ในห้องมืดนานกว่า 2 อาทิตย์ด้วยกัน

นางปวีณา กล่าวด้วยว่า ต่อมาผู้ปกครองของ ด.ญ.กร ได้ติดต่อไปยังนางจ๊ะเพื่อแจ้งว่าลูกสาวยังถูกนายประเวชกักขังและทำอนาจารอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว นางจ๊ะจึงได้สอบถามไปยังหลวงพ่อเพิ่มที่รับอุปการะลูกสาว ก็ได้รับคำตอบว่ายังอยู่สบายดี แต่ทางนางจ๊ะไม่เชื่อ เพราะจากที่ได้ยินมามันขัดกันจึงไปที่วัดดังกล่าว แต่ก็ไม่พบตัวลูกสาวแต่อย่างใด โดยหลังจากนั้นนางจ๊ะ ก็ได้รับการติดต่อจากหลวงพ่อเพิ่มว่าเจ๊แดง นำ ด.ญ.รักษ์ มาส่งคืนที่วัดแล้ว ก่อนจะพากันไปรับกลับมาบ้านเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา และพามาแจ้งความในวันนี้

ด้าน พ.ต.อ.อาณัติ กล่าวว่า ในส่วนของคดีที่ ด.ญ.กร มาแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อนายประเวศ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปแล้ว พร้อมทั้งให้ประกันตัวออกไป เพราะไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ส่วนในวันนี้ที่ผู้ปกครองพา ด.ญ.รักษ์ เข้าแจ้งความวันนี้ก็จะดำเนินคดีแยกกันไปถึงแม้จะเป็นคดีเดียวกัน แต่ต่างกรรมต่างวาระ จึงแยกออกเป็น 2 คดี แต่แจ้งข้อหาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะออกหมายเรียกนายประเวชมารับทราบข้อกล่าวหา และสอบปากคำเพิ่มเติม รวมทั้งทำการขยายผลว่าใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง หากพบก็จะควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นักบุญคนบาปรับหนูน้อยวัย 12 เป็นลูกบุญธรรม จับผูกตาบังคับอมนกเขา!
กำลังโหลดความคิดเห็น