พ่อค้าชายแดนขอทุกฝ่ายเร่งแก้ปัญหาม็อบเสื้อแดงหวั่นบานปลาย

หนองคาย- นักธุรกิจชายแดนเมืองหนองคาย วอนให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน หาทางออกให้ประเทศ ชี้ข้อเรียกร้องของแกนนำเสื้อแดงเป็นไปได้ยาก ชุมนุมยืดเยื้อยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจ เผยนักธุรกิจลาวเกาะติดสถานการณ์การเมืองไทย แถมเปลี่ยนเส้นทางการค้า จะไปจีนไม่เข้ากรุงเทพฯ แต่ใช้สายการบินลาวบินแทน

นายสุรชัย ดิ่งสวัสดิ์ กรรมการหอการค้าจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า ถ้าการเมืองนิ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจการค้าการลงทุนดีตามไปด้วย แต่เมื่อมีการชุมนุมเกิดขึ้นในขณะนี้จะห้ามคนเสื้อแดงก็ห้ามไม่ได้ แต่ถ้าทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาคุยกัน อะไรที่สามารถรับได้ทั้งสองฝ่ายก็ควรพิจารณาจะส่งสัญญาณที่ดีให้กับนักธุรกิจ เนื่องจากขณะนี้การค้าการลงทุนภาคธุรกิจค่อนข้างลำบาก ระบบหรือเม็ดเงิน กำลังซื้อลดลงจากเดิมมากซ้ำเติมกับเศรษฐกิจโลก ยิ่งมาเจอวิกฤตทางการเมือง การชุมนุมเรียกร้องของคนเสื้อแดง ก็ยิ่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจหนักมากขึ้นหลายเท่าตัว

ทั้งนี้ หากมีการแก้ปัญหาสถานการณ์การชุมนุมเช่นเดียวกับเมื่อ 19 ก.ย.49 ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายกว่าเดิม เพราะเป็นตัวอย่างของการถอยหลังไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ไม่อยากให้ทหารเคลื่อนรถถังออกมาปฏิวัติอีกแล้ว อยากให้มีการเจรจาพูดคุยกันอย่างสันติวิธีของทั้งสองฝ่ายมากกว่า ถ้าเสื้อแดงออกมามากก็ไม่เห็นด้วย แต่หากรัฐบาลเพิกเฉยก็ไม่ดี

ปัญหาทางเศรษฐกิจที่สะสมมาตั้งแต่ปี 2549 จนถึงขณะนี้ต้องยอมรับว่าแย่ลง ทุกวันนี้นักธุรกิจใช้ระบบให้ได้เม็ดเงินมาก่อนแล้วค่อยสั่งสินค้าหรือระบบโบราณ ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้เลย นักธุรกิจต้องระมัดระวังในการใช้เงิน ทำให้ระบบเศรษฐกิจนิ่งไม่เคลื่อนไหว หากมีการชุมนุมยืดเยื้อของคนเสื้อแดงก็ยิ่งทำให้เศรษฐกิจไม่มีทางเติบโตได้ในเร็ววัน

ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมบางอย่างไม่สามารถปฏิบัติได้อย่างแน่นอน ซึ่งไม่แน่ใจว่าข้อเรียกร้องทั้งหมดนั้นมีอะไรบางอย่างแอบแฝงอยู่หรือไม่ เสื้อแดงควรลดข้อเรียกร้อง หรือเรียกร้องในทางที่รัฐบาลสามารถปฏิบัติได้

นายสุรชัย ดิ่งสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า นักธุรกิจในประเทศลาวได้ติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ร้อยละ 90 ดูทีวีของไทย รับรู้ข่าวสารตลอดเวลา ส่วนหนึ่งนักลงทุนกับคนไทยก็มักจะถามถึงความเคลื่อนไหวด้านต่าง ๆ และไม่มั่นใจกับสถานการณ์ของไทย แม้กระทั่งการเดินทางจะเข้ากรุงเทพฯก็พยายามหลีกเลี่ยง

รวมถึงมีนักธุรกิจส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจใช้เส้นทางสายการบินของลาว เพื่อไปประเทศที่สามมากกว่าจะเสี่ยงเดินทางไปสนามบินในประเทศไทยโดยให้เหตุผลว่าไม่แน่ใจในความปลอดภัยของประเทศไทย จึงอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันหาทางออกให้ประเทศโดยเร็ว หากไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ผู้ที่เดือดร้อนมากที่สุด คือประชาชนคนไทย