ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ออกหมายจับหางแดงเพิ่มอีก 3 คนที่ร่วมทุบรถนายกรัฐมนตรีที่เมืองพัทยา ยันมีหลักฐานเด็ดมัดตัวแน่นจะทยอยออกหมายจับอีกกว่า 10 คน พร้อมมั่นใจ หลังปรับเปลี่ยนยุทธวิธีและเพิ่มกำลัง ป้องกัน ประชุมผู้นำสุดยอดอาเซียน ปลอดภัย 100%
จากคดีกลุ่มคนเสื้อแดง ก่อเหตุรุมทุบรถนายกรัฐมนตรี ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ ทรัพย์สินของราชการเสียหาย และคนขับรถของนายกรัฐมนตรี ถูกทำร้ายร่างกาย เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา ล่าสุด วันนี้ (9 เม.ย.) เวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผบช.ภ.2 เผยว่า ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ได้ทำการสอบสวน ขออนุญาตศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ 3 เสื้อแดงไปแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดเผยชื่อ
โดยแจ้งในข้อหาพยายามทำร้ายร่างกาย และทำลายทรัพย์สิน มั่นใจเอาผิดได้ เพราะหลักฐานเป็นภาพที่ได้จากสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เห็นใบหน้าผู้กระทำความผิดอย่างชัดเจน และ ขณะนี้กำลังทยอยออกหมายจับผู้ร่วมกระทำความผิดตามมาอีกกว่า 10 คน และยังมั่นใจในระบบการรักษาความปลอดภัย การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ รร.รอยัลคลิฟ บีช เมืองพัทยา โดยมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธี และเพิ่มกำลังพลจากตำรวจ กองทัพบก ทัพเรือและทัพอากาศ จาก 4 พันนาย เป็น 8 พันนาย มีความปลอดภัย ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ 100% เต็มอีกด้วย
นอกจากนี้ กลุ่มม็อบเสื้อแดงที่เข้ามาปั่นป่วนในการประชุม ครม.ในครั้งที่ผ่านมานี้ อาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ภาพของกลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปรุมทุบรถนายกรัฐมนตรีออกไปสู่สายตาโลก ทำให้เสียหายต่อประเทศชาติ รวมทั้งกระทบต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก และคนที่เข้าป่วนก็เป็นคนจากจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่คนในพื้นที่ เป็นเหตุให้คนจังหวัดชลบุรี ในเมืองพัทยาเริ่มรวมตัวกันขอร้องให้พวกกลุ่มเสื้อแดงหยุดทำลายเมืองพัทยา และประเทศไทย แต่ถ้ายังไม่เชื่อฟังกัน ชาวบ้านเหล่านี้ก็จะลุกขึ้นมาต่อต้านกลุ่มเสื้อแดง เพราะถือว่าทำลายแหล่งทำมาหากิน และประเทศไทยของเราได้
