ศูนย์ข่าวศรีราชา - เด้ง "ผกก.พัทยา" เซ่นถ่อยหางแดงทุบรถนายกฯ ขณะที่คนขับรถนายกฯเข้าแจ้งความกลับกลุ่มคนเสื้อแดง ยันเอาเรื่องถึงที่สุด "เทพไท" แฉมีประชาชนแจ้งเบาะแสสงสัยตำรวจยศ "พ.ต.ท." มีเอี่ยวทุบรถนายกฯ "ผบ.ตร." เต้นเตรียมลงพื้นที่ตามเรื่องเอง ขณะที่ "กลุ่มเสื้อแดงพัทยา" อยู่เหนือกฎหมายนำคนถ่อยปิดล้อมโรงพักบีบปล่อยตัวผู้ต้องหา ส่วนหางแดงโคราชเหิมเผ่าโลงศพ "พระองค์ท่าน..."กลางเมือง ส่วนราชการแพร่ขึ้นป้ายหนุนเสื้อแดงต้าน "อมาตยาธิปไตย" หน้าตาเฉย
วานนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.สภ.พัทยา จ.ชลบุรี ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นเวลา 30 วัน พร้อมกันนี้ ได้ พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และเร่งให้สอบสวนดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิด รวมถึงสาเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกทำลายรถนายกรัฐมนตรีและทำร้ายเจ้าหน้าที่ระหว่างเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
หางแดงล้อมโรงพักจี้ปล่อยตัวผู้ต้องหา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมากลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางมาด้วยรถบัสเกือบ 12 คันไปปิดล้อม สภ พัทยา เพื่อกดดันให้ปล่อยตัวนายวันเฉลิม กุนเสน ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทุบรถนายกรัฐมนตรี โดยได้ตั้งเวทีปราศรัยอยู่ที่หน้าโรงพักเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายวันเฉลิม ทันที
พร้อมกันนี้ยังแสดงความถ่อยอยู่เหนือกฎหมายด้วยการปิดถนนสายชายหาดเมืองพัทยา ทำให้การจราจรติดขัดยาว ก่อนที่จะส่งตัวแทนเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ต่อรองขอเวลาสอบสวนนายวันเฉลิม ก่อน 10 นาทีก่อนที่จะปล่อยตัว และเหตุการณ์เริ่มตรึงเครียดขึ้นเมื่อเวลาเลย 10 นาที กลุ่มเสื้อแดงได้กระจายกำลังล้อมโรงพัก พร้อมกับเตรียมจะบุกเข้าไปเพื่อแย่งชิงตัวผู้ต้องหา
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปล่อยตัวนายวันเฉลิม โดยให้นายวันเฉลิม รับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทำลายทรัพย์สิน ซึ่งนายวันเฉลิม ก็เซ็นรับทราบ ก่อนที่กลุ่มเสื้อแดง พร้อมนายวันเฉลิม จะเดินทางกลับ
คนขับรถนายกฯแจ้งความกลับหางแดง
ขณะที่ ร.ต.มนตรี ปราโมทย์ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด การ์ดประจำตัวนายกฯ และ ส.อ.รังสรรค์ แย้มพยุง อายุ 35 ปี สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นคนขับรถของนายกฯ ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงรุมเข้าทุบกระจกรถจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และถูกกลุ่มคนเสื้อแดงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีกลุ่มคนเสื้อแดงในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งยืนยันต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
โดย ส.อ.รังสรรค์ ให้การว่า ในเวลาที่เกิดเหตุตนได้ทำหน้าที่ขับรถคันที่ถูกก่อเหตุดังกล่าวเมื่อถึงที่เกิดเหตุกลุ่มคนเสื้อแดงได้พากันตรงเข้ามาที่รถแล้วรุมทุบกระจกรถจนแตกกระจาย ตนจึงลงมาจากตัวรถเพื่อเข้าห้ามปราม แต่กลับถูกกลุ่มคนเสื้อแดงรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
หลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำ ส.อ.รังสรรค์ เข้าพบแพทย์ที่ รพ.พัทยา-เมโมเรียล เพื่อตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐาน และได้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวกลุ่มคนเสื้อแดงที่ก่อเหตุทุบรถนายกฯและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
"สุเทพ"ยันไม่ปรับแผนดูแลนายกฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวโดยยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นปัญหาในการดูแลความปลอดภัยช่วงประชุมสุดยอมอาเซี่ยนบวก 3 บวก 6 เพราะการดูแลความปลอดภัยมีเอกภาพ แต่บางส่วนที่มีความหละหลวมก็ต้องแก้ไข แต่ในส่วนพื้นที่พัทยานั้นต้องแก้ไขอย่างแน่นอน เพราะมีการประชุมอาเซียน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ได้คุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ตลอด และ ผบ.ตร.ก็ได้สั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระยะ ซึ่งตำรวจได้เทปบันทึกเหตุการณ์ไว้ เห็นหน้าคนทำผิดชัดเจน เมื่อถามว่าข้องใจเรื่องขบวนติดไฟแดงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ข้องใจอะไร ตนเป็นรัฐบาล ไม่มีหน้าที่มองใครเป็นศัตรู หรือสงสัยใคร เมื่อตำรวจมีพยานหลักฐานก็ต้องสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดี คดีนี้ตำรวจดำเนินการตนจะไม่ก้าวล่วงหรือแทรกแซง
"เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียน แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการจัดประชุมอาเซียนบวก 3 บวก 6 ซึ่งผมได้สั่งการให้ ผบ.ตร.เข้าไปดูและซักซ้อมในพื้นที่อีกครั้งหนึ่งแล้ว และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเกิดเหตุมีการบันทึกภาพเหตุการณ์และจับใบหน้าคนก่อเหตุได้อย่างชัดเจน และไม่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนระบบการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี เพราะมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลได้"
"เทพไท"แฉ"พ.ต.ท."มีเอี่ยว
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีประชาชนโทรศัพท์มาที่พรรคแสดงความห่วงใยต่อกรณีที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะการปรับปรุงวิธีการรักษา ความปลอดภัยของนายกฯ ซึ่งพรรคก็รับฟัง แต่โดยธรรมชาติของนายกฯเป็นคนง่ายๆ ไม่อยากให้เป็นภาระใครในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และไม่อยากสร้างความไม่สะดวกให้กับประชาชน จึงใช้ชุดรักษาความปลอดภัยแบบกะทัดรัด
นอกจากนี้ ประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตฝากไปยังตำรวจ เพราะโดยปกติมีตำรวจคอย ดูแลและเปิดสัญญาณไฟเขียวให้ขบวนผ่านได้ตลอด แต่กรณีนี้ถือว่าผิดปกติ ซึ่งชาวบ้านคนหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้มีนายตำรวจยศ พ.ต.ท.เคลื่อนไหวจัดตั้งมวลชนเสื้อแดง จึงไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งพรรคจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้สั่งการให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยให้นำภาพจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่องมาใช้เป็นหลักฐาน โดยหลังเกิดเหตุจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ล่าสุดก็รับรายงานมาว่า จับได้อีก 2 ราย
"ก่อนหน้านี้ ผมเคยสั่งการไปแล้วในการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยเมื่อนายกฯและคณะรัฐมนตรีเดินทางเข้าพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีผู้รับผิดชอบ ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์นั้นก็ต้องรับผิดชอบไป โดยผมจะเดินทางไปพัทยาเพื่อติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง"
เหิมเผาโลงศพ"พระองค์ท่าน..."
เว็บบล็อกโอเคเนชั่น ได้เผยแพร่ภาพหมิ่นเหม่ต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติ จากฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยระบุวานนี้ (7 เม.ย.) บริเวณลานอนุสาวรีย์ย่าโม น.ส.ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม พร้อมสมาชิกกลุ่มประมาณ 20 คน ได้นำโลงศพที่ถูกทำขึ้นด้วยไม้อัดตีเป็นโลง ติดแผ่นอิงก์เจ็ต ทั้ง 4 ด้าน ด้านหน้าและหลัง มีข้อความว่า พระองค์ท่าน... พลเอกเปรม... พันธมิตรฯ... รัฐบาลโจร... ชาตะ... มรณะ 8 เม.ย.52 ส่วนด้านข้างโลงศพมีรูปภาพของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และรูปภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ติดอยู่ด้วย โดยในโลงศพได้มีการนำเอาเศษฟางมาบรรจุใส่ไว้จนเต็ม
จากนั้น น.ส.ปภัสชนัญญ์ แกนนำกลุ่มคนโคราชลูกหลานย่าโมได้ใช้น้ำมันก๊าดราดลงในโลงศพก่อนที่จะใช้ไฟแช็กจุดไฟม้วนกระดาษที่ได้เตรียมไว้โยนลงไปในโลงศพจนไฟลุกท่วมใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที โลงศพที่ติดรูปภาพของ พล.อ.เปรม และรูปภาพนายอภิสิทธิ์ ก็ถูกไฟเผาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน ท่ามกลางสายตาชาวโคราชที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัย จำนวนกว่า 10 นาย ซึ่งมี พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา มาคอยสังเกตการณ์ด้วยตนเอง
ส่วนราชการแพร่ขึ้นป้ายหนุนเสื้อแดง
ส่วนที่ จ.แพร่วานนี้พบว่า ได้มีการขึ้นป้ายรณรงค์ให้สวมเสื้อแดงทั้งแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.52 ซึ่งเป็นเทศกาลสงกรานต์ของ จ.แพร่ สอดคล้องกับแนวทางกลุ่ม นปช.ที่ใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ เพื่อต่อต้านระบอบอมาตยาธิปไตย ซึ่งป้ายดังกล่าวมีติดตั้งอยู่ที่หน่วยราชการทั้งสิ้น โดยเฉพาะที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ มีการติดไว้ด้านที่ติดกับสี่แยกน้ำพุเห็นเด่นชัด
อีกหน่วยงานหนึ่ง คือ สำนักงานที่ดินจังหวัดแพร่ นำป้ายดังกล่าวไปติดไว้ที่หน้าสำนักงาน ซึ่งการกระทำดังกล่าวหน่วยราชการที่นำป้ายไปติดไม่รับผิดชอบว่า ตนเองเป็นผู้ติดแต่ไม่ยอมเอาออก และยังคงกลายเป็นป้ายของหน่วยงานราชการที่รณรงค์ให้สวมเสื้อแดง ซึ่งส่งผลให้ประชาชนที่ไม่เข้าใจให้ความร่วมมือกับทางราชการพากันใส่เสื้อแดงมากขึ้น
วานนี้ (8 เม.ย.) พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 มีคำสั่งย้าย พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.สภ.พัทยา จ.ชลบุรี ไปช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 เป็นเวลา 30 วัน พร้อมกันนี้ ได้ พ.ต.อ.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี รักษาราชการแทนในตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองพัทยา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และเร่งให้สอบสวนดำเนินคดีอาญาต่อผู้กระทำผิด รวมถึงสาเหตุที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกทำลายรถนายกรัฐมนตรีและทำร้ายเจ้าหน้าที่ระหว่างเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา
หางแดงล้อมโรงพักจี้ปล่อยตัวผู้ต้องหา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อคืนวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมากลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางมาด้วยรถบัสเกือบ 12 คันไปปิดล้อม สภ พัทยา เพื่อกดดันให้ปล่อยตัวนายวันเฉลิม กุนเสน ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทุบรถนายกรัฐมนตรี โดยได้ตั้งเวทีปราศรัยอยู่ที่หน้าโรงพักเรียกร้องให้ปล่อยตัวนายวันเฉลิม ทันที
พร้อมกันนี้ยังแสดงความถ่อยอยู่เหนือกฎหมายด้วยการปิดถนนสายชายหาดเมืองพัทยา ทำให้การจราจรติดขัดยาว ก่อนที่จะส่งตัวแทนเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ต่อรองขอเวลาสอบสวนนายวันเฉลิม ก่อน 10 นาทีก่อนที่จะปล่อยตัว และเหตุการณ์เริ่มตรึงเครียดขึ้นเมื่อเวลาเลย 10 นาที กลุ่มเสื้อแดงได้กระจายกำลังล้อมโรงพัก พร้อมกับเตรียมจะบุกเข้าไปเพื่อแย่งชิงตัวผู้ต้องหา
ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปล่อยตัวนายวันเฉลิม โดยให้นายวันเฉลิม รับทราบข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น และทำลายทรัพย์สิน ซึ่งนายวันเฉลิม ก็เซ็นรับทราบ ก่อนที่กลุ่มเสื้อแดง พร้อมนายวันเฉลิม จะเดินทางกลับ
คนขับรถนายกฯแจ้งความกลับหางแดง
ขณะที่ ร.ต.มนตรี ปราโมทย์ สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด การ์ดประจำตัวนายกฯ และ ส.อ.รังสรรค์ แย้มพยุง อายุ 35 ปี สังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งเป็นคนขับรถของนายกฯ ที่ถูกกลุ่มคนเสื้อแดงรุมเข้าทุบกระจกรถจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และถูกกลุ่มคนเสื้อแดงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เสน่ห์ ยศรุ่งเรือง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินคดีกลุ่มคนเสื้อแดงในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมทั้งยืนยันต้องการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
โดย ส.อ.รังสรรค์ ให้การว่า ในเวลาที่เกิดเหตุตนได้ทำหน้าที่ขับรถคันที่ถูกก่อเหตุดังกล่าวเมื่อถึงที่เกิดเหตุกลุ่มคนเสื้อแดงได้พากันตรงเข้ามาที่รถแล้วรุมทุบกระจกรถจนแตกกระจาย ตนจึงลงมาจากตัวรถเพื่อเข้าห้ามปราม แต่กลับถูกกลุ่มคนเสื้อแดงรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ
หลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่ได้นำ ส.อ.รังสรรค์ เข้าพบแพทย์ที่ รพ.พัทยา-เมโมเรียล เพื่อตรวจร่างกายไว้เป็นหลักฐาน และได้เร่งทำการสืบสวนเพื่อติดตามตัวกลุ่มคนเสื้อแดงที่ก่อเหตุทุบรถนายกฯและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
"สุเทพ"ยันไม่ปรับแผนดูแลนายกฯ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวโดยยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นปัญหาในการดูแลความปลอดภัยช่วงประชุมสุดยอมอาเซี่ยนบวก 3 บวก 6 เพราะการดูแลความปลอดภัยมีเอกภาพ แต่บางส่วนที่มีความหละหลวมก็ต้องแก้ไข แต่ในส่วนพื้นที่พัทยานั้นต้องแก้ไขอย่างแน่นอน เพราะมีการประชุมอาเซียน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ได้คุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.ตลอด และ ผบ.ตร.ก็ได้สั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาทุกระยะ ซึ่งตำรวจได้เทปบันทึกเหตุการณ์ไว้ เห็นหน้าคนทำผิดชัดเจน เมื่อถามว่าข้องใจเรื่องขบวนติดไฟแดงหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ข้องใจอะไร ตนเป็นรัฐบาล ไม่มีหน้าที่มองใครเป็นศัตรู หรือสงสัยใคร เมื่อตำรวจมีพยานหลักฐานก็ต้องสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดี คดีนี้ตำรวจดำเนินการตนจะไม่ก้าวล่วงหรือแทรกแซง
"เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียน แต่ผมไม่คิดว่าจะเป็นอุปสรรคต่อการจัดประชุมอาเซียนบวก 3 บวก 6 ซึ่งผมได้สั่งการให้ ผบ.ตร.เข้าไปดูและซักซ้อมในพื้นที่อีกครั้งหนึ่งแล้ว และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะเกิดเหตุมีการบันทึกภาพเหตุการณ์และจับใบหน้าคนก่อเหตุได้อย่างชัดเจน และไม่จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนระบบการรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี เพราะมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะดูแลได้"
"เทพไท"แฉ"พ.ต.ท."มีเอี่ยว
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีประชาชนโทรศัพท์มาที่พรรคแสดงความห่วงใยต่อกรณีที่เกิดขึ้น รวมทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะการปรับปรุงวิธีการรักษา ความปลอดภัยของนายกฯ ซึ่งพรรคก็รับฟัง แต่โดยธรรมชาติของนายกฯเป็นคนง่ายๆ ไม่อยากให้เป็นภาระใครในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และไม่อยากสร้างความไม่สะดวกให้กับประชาชน จึงใช้ชุดรักษาความปลอดภัยแบบกะทัดรัด
นอกจากนี้ ประชาชนได้ตั้งข้อสังเกตฝากไปยังตำรวจ เพราะโดยปกติมีตำรวจคอย ดูแลและเปิดสัญญาณไฟเขียวให้ขบวนผ่านได้ตลอด แต่กรณีนี้ถือว่าผิดปกติ ซึ่งชาวบ้านคนหนึ่งได้ให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้มีนายตำรวจยศ พ.ต.ท.เคลื่อนไหวจัดตั้งมวลชนเสื้อแดง จึงไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งพรรคจะติดตามตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร.กล่าวว่า ได้สั่งการให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยให้นำภาพจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่องมาใช้เป็นหลักฐาน โดยหลังเกิดเหตุจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย ล่าสุดก็รับรายงานมาว่า จับได้อีก 2 ราย
"ก่อนหน้านี้ ผมเคยสั่งการไปแล้วในการดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยเมื่อนายกฯและคณะรัฐมนตรีเดินทางเข้าพื้นที่ เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นก็ต้องมีผู้รับผิดชอบ ต้องตรวจสอบว่าใครเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์นั้นก็ต้องรับผิดชอบไป โดยผมจะเดินทางไปพัทยาเพื่อติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเอง"
เหิมเผาโลงศพ"พระองค์ท่าน..."
เว็บบล็อกโอเคเนชั่น ได้เผยแพร่ภาพหมิ่นเหม่ต่อความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติ จากฝีมือของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยระบุวานนี้ (7 เม.ย.) บริเวณลานอนุสาวรีย์ย่าโม น.ส.ปภัสชนัญญ์ ฉิ่งอินทร์ แกนนำกลุ่มคนของแผ่นดินลูกหลานย่าโม พร้อมสมาชิกกลุ่มประมาณ 20 คน ได้นำโลงศพที่ถูกทำขึ้นด้วยไม้อัดตีเป็นโลง ติดแผ่นอิงก์เจ็ต ทั้ง 4 ด้าน ด้านหน้าและหลัง มีข้อความว่า พระองค์ท่าน... พลเอกเปรม... พันธมิตรฯ... รัฐบาลโจร... ชาตะ... มรณะ 8 เม.ย.52 ส่วนด้านข้างโลงศพมีรูปภาพของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ และรูปภาพของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ติดอยู่ด้วย โดยในโลงศพได้มีการนำเอาเศษฟางมาบรรจุใส่ไว้จนเต็ม
จากนั้น น.ส.ปภัสชนัญญ์ แกนนำกลุ่มคนโคราชลูกหลานย่าโมได้ใช้น้ำมันก๊าดราดลงในโลงศพก่อนที่จะใช้ไฟแช็กจุดไฟม้วนกระดาษที่ได้เตรียมไว้โยนลงไปในโลงศพจนไฟลุกท่วมใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที โลงศพที่ติดรูปภาพของ พล.อ.เปรม และรูปภาพนายอภิสิทธิ์ ก็ถูกไฟเผาจนเหลือแต่เถ้าถ่าน ท่ามกลางสายตาชาวโคราชที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณนั้นเป็นจำนวนมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาควบคุมดูแลรักษาความปลอดภัย จำนวนกว่า 10 นาย ซึ่งมี พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา มาคอยสังเกตการณ์ด้วยตนเอง
ส่วนราชการแพร่ขึ้นป้ายหนุนเสื้อแดง
ส่วนที่ จ.แพร่วานนี้พบว่า ได้มีการขึ้นป้ายรณรงค์ให้สวมเสื้อแดงทั้งแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 5-11 เม.ย.52 ซึ่งเป็นเทศกาลสงกรานต์ของ จ.แพร่ สอดคล้องกับแนวทางกลุ่ม นปช.ที่ใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ เพื่อต่อต้านระบอบอมาตยาธิปไตย ซึ่งป้ายดังกล่าวมีติดตั้งอยู่ที่หน่วยราชการทั้งสิ้น โดยเฉพาะที่ศาลากลางจังหวัดแพร่ มีการติดไว้ด้านที่ติดกับสี่แยกน้ำพุเห็นเด่นชัด
อีกหน่วยงานหนึ่ง คือ สำนักงานที่ดินจังหวัดแพร่ นำป้ายดังกล่าวไปติดไว้ที่หน้าสำนักงาน ซึ่งการกระทำดังกล่าวหน่วยราชการที่นำป้ายไปติดไม่รับผิดชอบว่า ตนเองเป็นผู้ติดแต่ไม่ยอมเอาออก และยังคงกลายเป็นป้ายของหน่วยงานราชการที่รณรงค์ให้สวมเสื้อแดง ซึ่งส่งผลให้ประชาชนที่ไม่เข้าใจให้ความร่วมมือกับทางราชการพากันใส่เสื้อแดงมากขึ้น
